00 อีกไม่กี่ชั่วโมงก็คงจะได้รู้กันแล้วว่า นช.ทักษิณ ชินวัตร จะเดินทางเข้าไปทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาให้กับ “ฮุนเซน” รวมไปถึงเป็นที่ปรึกษาทางเศรษฐกิจให้กับรัฐบาลกัมพูชาหรือไม่ เพราะมีการประกาศท้าทายรอบใหม่มาจากนายกฯเขมร และเจ้าตัวก็ได้ยืนยันออกมาแล้วว่า“ไปแน่”
00 ดังนั้นก็ต้องรอดูว่าจะเห็นภาพของ ทักษิณ นั่งประชุมร่วมกับรรดาคณะรัฐมนตรีเขมรในวันที่ 12 พ.ย.ที่จะถึงนี้หรือไม่ ถ้าเป็นจริงดังว่าคงจะสนุกพิลึกและดูไม่จืดแน่ ภาพ “คนขายชาติ” คงจะติดอยู่ที่หน้าผากของ ทักษิณ ไปตลอดชีวิต จากรายงานหลายระแสยืนยันตรงกัน โดยจะไปกบดานรอป่วนตั้งแต่วันที่ 10 พ.ย. ซึ่งก็ต้องรอดูว่ารัฐบาลไทยจะมีวิธีการเพื่อรับมืออย่างไร ให้ได้เปรียบทางการทูตระหว่างประเทศ
00 งานนี้การขอตัวหรือส่งเป็นผู้ร้ายข้ามแดนมาดำเนินคดีในไทยหรือไม่ ไม่สำคัญเท่ากับการประกาศตัวเป็นศัตรูกับราชอาณาจักรไทยอย่างเปิดเผย เพราะรู้อยู่แล้วว่าเป็นไปไม่ได้ แต่ถึงอย่างไรก็ต้องทำให้เป็นสัญญลักษณ์ และให้มันรู้กันไปว่าจากกรณีดังกล่าวมีใครบ้างที่เป็นคนไทยแต่ใจเป็นพวกเดียวกับลูกหลาน “พระยาละแวก” ในอดีตยุค “สมเด็จพระนเรศวรมหาราช”
00 ในช่วงเวลาเดียวกันทาง “จิ๋ว” พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ก็ได้รับสัญญาณเคลื่อนไหวพร้อมๆกัน โดยมีกำหนดการลงใต้ไปป่วนอีกรอบหลังจากก่อนหน้านั้นไปพ่นน้ำลายเสนอแนวคิด “นครรัฐปัตตานี” จนมีเสียงด่ากันพึม พิสูจน์ได้จากผลสำรวจชาวใต้ที่ออกมาล่าสุดพบว่าเกือบร้อยละ 80 ไม่มีใครสนใจแนวคิดบ้าบอดังกล่าวของ “ทหารแก่” คนนี้แม้แต่น้อย เพราะตัวเองสับสนคนเดียวไม่พอ ยังลากคนอื่นมั่วตามไปด้วย
00 จะว่าไปแล้วทั้งสองเรื่องคือ แม้ว ไปเขมร ส่วน จิ๋ว ลงใต้ในช่วงที่บังเอิญเป็นช่วงที่จะมีการประชุมเอเปกที่สิงคโปร์ ในวันที่ 14-15 พ.ย. และก่อนหน้านั้น นายกฯอภิสิทธิ์ ในฐานะประธานอาเซียนก็ดันมีคิวจะพบหารือกับประธานาธิบดีโอบามา ของสหรัฐฯ ในแบบ อาเซียน-สหรัฐฯ เสียด้วยซี นี่แหละจึงเป็นสาเหตุสำคัญส่วนหนึ่งสำหรับการตัดสินใจมาเขมรยอมถูกตราหน้าเป็นคนขายชาติก็ยอม ต้องการ “สร้างข่าว” เพื่อ“กลบข่าว” เท่านั้น
00 บางครั้งสำหรับคนบางคนบางเรื่องอาจจะยอมกันไม่ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาพของผู้นำอินเตอร์ ที่ระยะหลังนายกฯอภิสิทธิ์ กำลังไต่ระดับเพดานผู้นำระดับสากลมากขึ้นเรื่อยๆ เห็นได้จากได้ขึ้นเวทีจับมือกับผู้นำระดับโลก ระดับภูมิภาคเป็นว่าเล่น เริ่มจากเข้าร่วมประชุมผู้นำจี 20 เป็นเจ้าภาพประชุมสุดยอดอาเซียนถึง 2 ครั้ง แม้จะพยายามขัดขวางจนล่มไปบ้าง ไปปาถกฐาในที่ประชุมใหญ่ยูเอ็นที่เป็นสุดยอดปราถนาของผู้นำที่ต้องทำให้ได้สักครั้ง ล่าสุดไปร่วมประชุมผู้นำลุ่มแม่น้ำโขงที่ญี่ปุ่นมาหมาดๆ เป็นใครก็ต้องอิดฉาตาร้อนเป็นธรรมดา มีเงินเป็นแสนล้าน แต่ไม่มีใครคบ มีแต่ผู้นำเถื่อนๆ ถ่อยๆ จากประเทศด้อยพัฒนาประเทศหนึ่งเท่านั้นที่อ้าแขนรับ ยิ่งคิดมันยิ่งกลุ่มวุ้ย อย่างนี้มันต้องขายชาติประชดมันซะเลย ฮึ่ม !!
00 นี่ก็สะท้อนตัวตนที่แท้จริงของ ทักษิณ ชินวัตร ว่ามีทัศนคติต่อสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างไร ล่าสุดเห็นการให้สัมภาษณ์ผ่านสื่ออังกฤษ “เดอะไทมส์” ที่กล่าวหาพาดพิงไปถึงองค์พระเจ้าอยู่หัว โดยไม่คิดว่าจะออกมาจากปากของคนไทยคนหนึ่ง ซึ่งคำพูดในลักษณะดังกล่าวไม่ใช่เพิ่งเกิดขึ้นเป็นครั้งแรก เพราะก่อนหน้านี้เมื่อสองสามเดือนก่อนคนขายชาติคนนี้ ก็เคยกล่าวผ่านไฟแนลเชียลไทมส์ ให้ร้ายพระองค์ท่านในทำนองเดียวกันมาแล้ว อีกไม่นานก็คงได้เห็นบั้นปลายของคนประเภทนี้ว่าจะมีจุดจบอย่างไร เพราะเลวร้ายเกินกว่าจะให้อภัยได้แล้ว !!
00 ดังนั้นก็ต้องรอดูว่าจะเห็นภาพของ ทักษิณ นั่งประชุมร่วมกับรรดาคณะรัฐมนตรีเขมรในวันที่ 12 พ.ย.ที่จะถึงนี้หรือไม่ ถ้าเป็นจริงดังว่าคงจะสนุกพิลึกและดูไม่จืดแน่ ภาพ “คนขายชาติ” คงจะติดอยู่ที่หน้าผากของ ทักษิณ ไปตลอดชีวิต จากรายงานหลายระแสยืนยันตรงกัน โดยจะไปกบดานรอป่วนตั้งแต่วันที่ 10 พ.ย. ซึ่งก็ต้องรอดูว่ารัฐบาลไทยจะมีวิธีการเพื่อรับมืออย่างไร ให้ได้เปรียบทางการทูตระหว่างประเทศ
00 งานนี้การขอตัวหรือส่งเป็นผู้ร้ายข้ามแดนมาดำเนินคดีในไทยหรือไม่ ไม่สำคัญเท่ากับการประกาศตัวเป็นศัตรูกับราชอาณาจักรไทยอย่างเปิดเผย เพราะรู้อยู่แล้วว่าเป็นไปไม่ได้ แต่ถึงอย่างไรก็ต้องทำให้เป็นสัญญลักษณ์ และให้มันรู้กันไปว่าจากกรณีดังกล่าวมีใครบ้างที่เป็นคนไทยแต่ใจเป็นพวกเดียวกับลูกหลาน “พระยาละแวก” ในอดีตยุค “สมเด็จพระนเรศวรมหาราช”
00 ในช่วงเวลาเดียวกันทาง “จิ๋ว” พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ก็ได้รับสัญญาณเคลื่อนไหวพร้อมๆกัน โดยมีกำหนดการลงใต้ไปป่วนอีกรอบหลังจากก่อนหน้านั้นไปพ่นน้ำลายเสนอแนวคิด “นครรัฐปัตตานี” จนมีเสียงด่ากันพึม พิสูจน์ได้จากผลสำรวจชาวใต้ที่ออกมาล่าสุดพบว่าเกือบร้อยละ 80 ไม่มีใครสนใจแนวคิดบ้าบอดังกล่าวของ “ทหารแก่” คนนี้แม้แต่น้อย เพราะตัวเองสับสนคนเดียวไม่พอ ยังลากคนอื่นมั่วตามไปด้วย
00 จะว่าไปแล้วทั้งสองเรื่องคือ แม้ว ไปเขมร ส่วน จิ๋ว ลงใต้ในช่วงที่บังเอิญเป็นช่วงที่จะมีการประชุมเอเปกที่สิงคโปร์ ในวันที่ 14-15 พ.ย. และก่อนหน้านั้น นายกฯอภิสิทธิ์ ในฐานะประธานอาเซียนก็ดันมีคิวจะพบหารือกับประธานาธิบดีโอบามา ของสหรัฐฯ ในแบบ อาเซียน-สหรัฐฯ เสียด้วยซี นี่แหละจึงเป็นสาเหตุสำคัญส่วนหนึ่งสำหรับการตัดสินใจมาเขมรยอมถูกตราหน้าเป็นคนขายชาติก็ยอม ต้องการ “สร้างข่าว” เพื่อ“กลบข่าว” เท่านั้น
00 บางครั้งสำหรับคนบางคนบางเรื่องอาจจะยอมกันไม่ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาพของผู้นำอินเตอร์ ที่ระยะหลังนายกฯอภิสิทธิ์ กำลังไต่ระดับเพดานผู้นำระดับสากลมากขึ้นเรื่อยๆ เห็นได้จากได้ขึ้นเวทีจับมือกับผู้นำระดับโลก ระดับภูมิภาคเป็นว่าเล่น เริ่มจากเข้าร่วมประชุมผู้นำจี 20 เป็นเจ้าภาพประชุมสุดยอดอาเซียนถึง 2 ครั้ง แม้จะพยายามขัดขวางจนล่มไปบ้าง ไปปาถกฐาในที่ประชุมใหญ่ยูเอ็นที่เป็นสุดยอดปราถนาของผู้นำที่ต้องทำให้ได้สักครั้ง ล่าสุดไปร่วมประชุมผู้นำลุ่มแม่น้ำโขงที่ญี่ปุ่นมาหมาดๆ เป็นใครก็ต้องอิดฉาตาร้อนเป็นธรรมดา มีเงินเป็นแสนล้าน แต่ไม่มีใครคบ มีแต่ผู้นำเถื่อนๆ ถ่อยๆ จากประเทศด้อยพัฒนาประเทศหนึ่งเท่านั้นที่อ้าแขนรับ ยิ่งคิดมันยิ่งกลุ่มวุ้ย อย่างนี้มันต้องขายชาติประชดมันซะเลย ฮึ่ม !!
00 นี่ก็สะท้อนตัวตนที่แท้จริงของ ทักษิณ ชินวัตร ว่ามีทัศนคติต่อสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างไร ล่าสุดเห็นการให้สัมภาษณ์ผ่านสื่ออังกฤษ “เดอะไทมส์” ที่กล่าวหาพาดพิงไปถึงองค์พระเจ้าอยู่หัว โดยไม่คิดว่าจะออกมาจากปากของคนไทยคนหนึ่ง ซึ่งคำพูดในลักษณะดังกล่าวไม่ใช่เพิ่งเกิดขึ้นเป็นครั้งแรก เพราะก่อนหน้านี้เมื่อสองสามเดือนก่อนคนขายชาติคนนี้ ก็เคยกล่าวผ่านไฟแนลเชียลไทมส์ ให้ร้ายพระองค์ท่านในทำนองเดียวกันมาแล้ว อีกไม่นานก็คงได้เห็นบั้นปลายของคนประเภทนี้ว่าจะมีจุดจบอย่างไร เพราะเลวร้ายเกินกว่าจะให้อภัยได้แล้ว !!
