น.พ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีความขัดแย้งระหว่างไทยและกัมพูชาว่า เหตุผลสำคัญมาจากผลประโยชน์จากบุคคลเพียงคนเดียวคือพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร จึงขอให้คนไทยบอยคอตการเล่นการพนันที่บ่อนกัมพูชา บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา เพราะเป็นที่รู้กันว่าสถานที่ดังกล่าวเป็นที่ฟอกเงินของนักการเมือง เพื่อนำมาใช้ในทางการเมือง ร่วมทั้ง ยังมีเครือข่ายไปฟอกเงินต่างประเทศ อาทิ เกาะเคย์แมน กลุ่มบริษัทนอมินี วินด์มาร์ค และแอมเพิลริช ซึ่งอยากให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เข้ามาช่วยตรวจสอบและขยายเส้นทางการเงินดังกล่าวด้วย
อย่างไรก็ตาม เรื่องดังกล่าว ไม่นับรวมเรื่องการค้าขายทางชายแดน ยังสนับสนุนให้ดำเนินการไปตามปกติ และขอให้คนไทยปฏิบัติกับชาวกัมพูชาเช่นเดิม อย่าเหมารวมว่าเป็นการกระทำเดียวกับนายกฯฮุนเซน
น.พ.บุรณัชย์ กล่าวด้วยว่าพ.ต.ท.ทักษิณ ต้องตอบคนไทยให้ได้ว่า การเดินสายไปยังประเทศต่างๆ มีความมุ่งหวังทางการเมืองอย่างไร เพราะเหตุใดจึงมีการกระทบกระทั่งระหว่างประเทศเกิดขึ้น และวันนี้พ.ต.ท.ทักษิณ มีความพยายามจะสัมปทานเพิ่มเติมหรือไม่ โดยเฉพาะก๊าซธรรมชาติ และจะพัฒนาเกาะกง ให้เป็นฮ่องกงแห่งที่ 2 หรือไม่ เพราะเรื่องนี้มีการตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์แม่โขงไทม์มาแล้ว
นอกจากนี้พ.ต.ท.ทักษิณ ยังเคยเข้าร่วมการปฏิวัติ 2537 ของกัมพูชาหรือไม่ และเหตุใดปี 2540 เพราะเหตุใดบริษัทเครือข่ายพ.ต.ท.ทักษิณ จึงได้รับการต่อเวลาสัมปทานเพิ่มขึ้น
น.พ.บุรณัชย์ ยังกล่าวถึงกรณี พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ประธานพรรคเพื่อไทย ที่จะเดินทางไปเยื่อนประเทศพม่า ซึ่งสอดคล้องกับการประชุมสุดยอดผู้นำเอเปก และการประชุมย่อยระหว่างอาเซียนและผู้นำสหรัฐอเมริกา ระหว่างวันที่ 13-15 พ.ย.นี้ ซึ่งอดสงสัยไม่ได้ว่าพล.อ.ชวลิต จงใจให้มีเหตุการณ์ตามมาอย่างเช่นกรณีครั้งไปเยื่อนกัมพูชาจนมีปัญหาตามมา ขอเรียนว่าการเคลื่อนไหวครั้งนี้ เป็นสาเหตุของปัญหามากกว่าหาทางออกให้ประเทศตามที่ พล.อ.ชวลิต กล่าวอ้าง
** จวกนช.แม้วทรยศชาติ
นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงสถานการณ์การเมืองในขณะนี้ว่า ทุกอย่างได้ปรากฏข้อเท็จจริงมากขึ้น โดยเฉพาะการเคลื่อนไหวของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรและบริวาร ซึ่งตนอยากจะชี้ถึง 3 ประโยคที่ต้องห้ามสำหรับคนไทย คือ "อย่าดึงฟ้าต่ำ อย่าทำหินแตก อย่าแยกแผ่นดิน"
ปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้น "อย่าดึงฟ้าต่ำ" ในวันนี้มีการจาบจ้วงสถาบันเบื้องสูงอย่างต่อเนื่อง ทั้งที่ลับและที่เปิดเผย ใช้สื่อทั้งใต้ดินและบนดิน โดยเฉพาะเว็บไซต์ที่รัฐบาลพยายามตามปิดตลอดเวลา รวมถึงการปราศรัยของกลุ่มเสื้อแดงบนเวทีชุมนุม ที่มีการจาบจ้วงโจมตีสถาบันองคมนตรี ซึ่งเป็นองค์กรใกล้ชิด รับใช้ใต้เบื้องยุคบาทที่จะต้องกระทบต่อสถาบันเบื้องสูงอย่างเลี่ยงไม่ได้
ส่วนประโยคที่ว่า "อย่าทำหินแตก" วันนี้ได้เกิดความแตกแยกในหมู่ประชาชนชัดเจน มีการปลุกระดมให้ประชาชนเลือกฝ่าย เลือกข้าง ระหว่างระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข กับระบอบทักษิณาธิปไตย ที่มีพ.ต.ท.ทักษิณเป็นแกนนำ และขณะนี้ยังมีความแตกแยกเกิดขึ้นระหว่างประเทศโดย พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นตัวการ
สำหรับประโยคที่ว่า "อย่าแยกแผ่นดิน" ได้มีการเสนอรูปแบบการปกครองพิเศษจาก พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ประธานพรรคเพื่อไทย โดยใช้คำว่า เขตปกครองพิเศษ หรือเรียกว่าการปกครองตนเองในรูปแบบพิเศษซึ่งความหมายก็คือ ต้องการให้ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นรัฐอิสระ แนวคิดดังกล่าวที่เสนอ เข้าทางกลุ่มแบ่งแยกดินแดนที่มีคว่ามหวังและอุดมการณ์แยก 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นรัฐอิสระ เมื่อมีการนี้จะทำให้กลุ่มดังกล่าวมีความหึกเหิม และมีความหวังโดยจะฉวยโอกาสจากการเสนอของพล.อ. ชวลิตว่าสามารถแยกเป็นรัฐอิสระได้ ปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนี้ได้เกิดขึ้นเป็นรูปธรรมจริงๆ
นายเทพไท ยังกล่าวถึงสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างกัมพูชาและประเทศไทย ที่มี พ.ต.ท.ทักษิณโดยประกาศจะเปิดเผยข้อเท็จจริงในวันที่ 10 พ.ย.นี้ ผ่านวิทยุออนไลน์ เว็บไซต์ และสถานนีโทรทัศน์พีเพิลแชลแนลนั้น ตนคิดว่าเป็นเรื่องที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ต้องการจะโฆษณาให้คนติดตาม และเชื่อว่าในวันดังกล่าวจะไม่มีอะไร เหมือนที่เคยประกาศจะมี บิ๊กเซอร์ไพร้ส์ ในวันเกิด สุดท้ายก็มีแต่ วิดีโอที่พ.ต.ท.ทักษิณ ทำบุญตักบาตรเท่านั้น
นายเทพไท กล่าวด้วยว่า สิ่งที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร น้องสาวพ.ต.ท.ทักษิณ ออกมายืนยันว่าพ.ต.ท.ทักษิณยังมีความรักชาติอย่างเดิม จึงอยากบอกว่าความรักชาติไม่ได้มีแค่คำพูด แต่อยู่ที่การปฏิบัติด้วย ไม่ทราบว่าความรักชาติของพ.ต.ท.ทักษิณเป็นการรักชาติจนน้ำลายไหล หรือไม่ ถ้ารักชาติจริง วันนี้ทำไมทำตัวเป็นคนทรยศต่อชาติ
"จากนี้ไปผมคิดว่าพ.ต.ท.ทักษิณ ต้องทำทุกวิถีทางเพื่อให้การเมืองไทยถึงทางตัน รัฐบาลถึงจุดจบ กลุ่มคนเหล่านี้กำลังทำร้ายประเทศ และประเทศชาติกำลังถูกฆาตกรรม โดยคนที่สวมวิญญานเป็นฆาตกร ดังนั้นสถานการณ์ต่อจากนี้ไปน่าจับตามองอย่างยิ่ง และเชื่อว่าประเทศไทยนั้น สิ่งศักดิ์มีจริง และพระสยามเทวาธิราช ได้คุ้มครองให้ประเทศชาติรอดพ้นจากภัย และทำให้คนไทยทั้งชาติกลับมาสามัคคีกัน ถ้าไม่มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ปรากฎการณ์เหล่านี้ก็จะไม่ปรากฏให้คนไทยเห็นว่า ใครคือคนรักชาติที่แท้จริง"
**เตรียมปั๊มเพลง"หนักแผ่นดิน"แจก
นอกจากนี้นายเทพไท ยังได้นำซีดีมาแสดงประกอบการแถลงข่าว พร้อมกับระบุว่ามีผู้หวังดีนำซีดีเพลง"คนหนักแผ่นดิน" ที่เคยใช้ออกอากาศเมื่อปี 2518 ทางสถานีวิทยุ จส. กรมการสื่อสารทหารบก มาให้กับตน และไม่น่าเชื่อว่าเพลงดังกล่าวจะกลับมาใช้ได้ในยุคปัจจุบัน ซึ่งเนื้อหามีความสอดคล้องมากกว่าในอดีตที่มีการต่อสู้ และขัดแย้งทางอุดมการณ์ของคนในสังคม แต่วันนี้ไม่ใช่เป็นเรื่องความขัดแย้งทางอุดมการณ์ แต่เป็นความขัดแย้งทางอุดมโกง ให้กับคนเพียงคนเดียว โดยตนจะปั้มซีดีเพลงนี้ ไปแจกให้กับสมาชิกพรรคเพื่อไทยให้ฟัง เพื่อกระตุ้นต่อมจิตสำนึกความรักชาติ ขึ้นมาบ้าง
นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณี นายนพดล ที่ออกมาตอบโต้นายกรัฐมนตรี กรณีการยกเลิกเอ็มโอยู โดยบอกว่านายกฯ เอาดีใส่ตัวนั้น ตนขอยืนยันว่าการพูดของนายกฯในรายการเชื่อมั่นประเทศไทย เป็นการอธิบายให้กับประชาชนเข้าใจสถานการณ์ให้ชัดเจน ไม่ได้เอาดีใส่ตัวตามที่กล่าวหา และในข้อเท็จจริงสัญญานี้ปรากฏชัดว่า พ.ต.ท.ทักษิณ มีส่วนเกี่ยวข้องกับเอ็มโอยู อาจจะทำให้การเจรจาระหว่างประเทศเสียเปรียบได้ แต่นายนพดล กลับมายืนยันว่าพ.ต.ท.ทักษิณ จะไม่ขายความลับให้กับเขมร ตนคิดว่าไม่มีหลักประกันใดยืนยันได้ว่า คนอย่าง พ.ต.ท.ทักษิณ จะไม่ขายความลับให้กับเขมร ในการเจรจาในเรื่องเอ็มโอยู เพราะพฤติกรรมที่ผ่านมาปรากฏชัดว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่เคยปกป้องผลประโยชน์ของประเทศชาติ แต่กลับเอาผลประโยชน์ของตัวเองเป็นที่ตั้ง ถ้ารักชาติจริง ก็คงจะไม่รับเป็นที่ปรึกษาให้กับรัฐบาลเขมร
"ผมคิดว่ามีแต่คนที่ใกล้ชิด และลิ่วล้อเท่านั้นที่ไว้วางใจ แต่คนไทย 63 ล้านคน ไม่ไว้วางใจ เห็นจากความเชื่อมั่นของเอแบคโพล ล่าสุดร้อยละ 70.7 เห็นว่าพ.ต.ทักษิณ และ พล.อ.ชวลิต ไม่ได้ทำเพื่อประเทศชาติแท้จริง ซึ่งเป็นสิ่งยืนยันความรู้สึกของคนไทยทั้งประเทศ ไม่ใช่เป็นเรื่องที่ผมยืนยันด้วยตัวเอง" นายเทพไทกล่าว
อย่างไรก็ตาม เรื่องดังกล่าว ไม่นับรวมเรื่องการค้าขายทางชายแดน ยังสนับสนุนให้ดำเนินการไปตามปกติ และขอให้คนไทยปฏิบัติกับชาวกัมพูชาเช่นเดิม อย่าเหมารวมว่าเป็นการกระทำเดียวกับนายกฯฮุนเซน
น.พ.บุรณัชย์ กล่าวด้วยว่าพ.ต.ท.ทักษิณ ต้องตอบคนไทยให้ได้ว่า การเดินสายไปยังประเทศต่างๆ มีความมุ่งหวังทางการเมืองอย่างไร เพราะเหตุใดจึงมีการกระทบกระทั่งระหว่างประเทศเกิดขึ้น และวันนี้พ.ต.ท.ทักษิณ มีความพยายามจะสัมปทานเพิ่มเติมหรือไม่ โดยเฉพาะก๊าซธรรมชาติ และจะพัฒนาเกาะกง ให้เป็นฮ่องกงแห่งที่ 2 หรือไม่ เพราะเรื่องนี้มีการตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์แม่โขงไทม์มาแล้ว
นอกจากนี้พ.ต.ท.ทักษิณ ยังเคยเข้าร่วมการปฏิวัติ 2537 ของกัมพูชาหรือไม่ และเหตุใดปี 2540 เพราะเหตุใดบริษัทเครือข่ายพ.ต.ท.ทักษิณ จึงได้รับการต่อเวลาสัมปทานเพิ่มขึ้น
น.พ.บุรณัชย์ ยังกล่าวถึงกรณี พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ประธานพรรคเพื่อไทย ที่จะเดินทางไปเยื่อนประเทศพม่า ซึ่งสอดคล้องกับการประชุมสุดยอดผู้นำเอเปก และการประชุมย่อยระหว่างอาเซียนและผู้นำสหรัฐอเมริกา ระหว่างวันที่ 13-15 พ.ย.นี้ ซึ่งอดสงสัยไม่ได้ว่าพล.อ.ชวลิต จงใจให้มีเหตุการณ์ตามมาอย่างเช่นกรณีครั้งไปเยื่อนกัมพูชาจนมีปัญหาตามมา ขอเรียนว่าการเคลื่อนไหวครั้งนี้ เป็นสาเหตุของปัญหามากกว่าหาทางออกให้ประเทศตามที่ พล.อ.ชวลิต กล่าวอ้าง
** จวกนช.แม้วทรยศชาติ
นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงสถานการณ์การเมืองในขณะนี้ว่า ทุกอย่างได้ปรากฏข้อเท็จจริงมากขึ้น โดยเฉพาะการเคลื่อนไหวของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรและบริวาร ซึ่งตนอยากจะชี้ถึง 3 ประโยคที่ต้องห้ามสำหรับคนไทย คือ "อย่าดึงฟ้าต่ำ อย่าทำหินแตก อย่าแยกแผ่นดิน"
ปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้น "อย่าดึงฟ้าต่ำ" ในวันนี้มีการจาบจ้วงสถาบันเบื้องสูงอย่างต่อเนื่อง ทั้งที่ลับและที่เปิดเผย ใช้สื่อทั้งใต้ดินและบนดิน โดยเฉพาะเว็บไซต์ที่รัฐบาลพยายามตามปิดตลอดเวลา รวมถึงการปราศรัยของกลุ่มเสื้อแดงบนเวทีชุมนุม ที่มีการจาบจ้วงโจมตีสถาบันองคมนตรี ซึ่งเป็นองค์กรใกล้ชิด รับใช้ใต้เบื้องยุคบาทที่จะต้องกระทบต่อสถาบันเบื้องสูงอย่างเลี่ยงไม่ได้
ส่วนประโยคที่ว่า "อย่าทำหินแตก" วันนี้ได้เกิดความแตกแยกในหมู่ประชาชนชัดเจน มีการปลุกระดมให้ประชาชนเลือกฝ่าย เลือกข้าง ระหว่างระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข กับระบอบทักษิณาธิปไตย ที่มีพ.ต.ท.ทักษิณเป็นแกนนำ และขณะนี้ยังมีความแตกแยกเกิดขึ้นระหว่างประเทศโดย พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นตัวการ
สำหรับประโยคที่ว่า "อย่าแยกแผ่นดิน" ได้มีการเสนอรูปแบบการปกครองพิเศษจาก พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ประธานพรรคเพื่อไทย โดยใช้คำว่า เขตปกครองพิเศษ หรือเรียกว่าการปกครองตนเองในรูปแบบพิเศษซึ่งความหมายก็คือ ต้องการให้ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นรัฐอิสระ แนวคิดดังกล่าวที่เสนอ เข้าทางกลุ่มแบ่งแยกดินแดนที่มีคว่ามหวังและอุดมการณ์แยก 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นรัฐอิสระ เมื่อมีการนี้จะทำให้กลุ่มดังกล่าวมีความหึกเหิม และมีความหวังโดยจะฉวยโอกาสจากการเสนอของพล.อ. ชวลิตว่าสามารถแยกเป็นรัฐอิสระได้ ปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนี้ได้เกิดขึ้นเป็นรูปธรรมจริงๆ
นายเทพไท ยังกล่าวถึงสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างกัมพูชาและประเทศไทย ที่มี พ.ต.ท.ทักษิณโดยประกาศจะเปิดเผยข้อเท็จจริงในวันที่ 10 พ.ย.นี้ ผ่านวิทยุออนไลน์ เว็บไซต์ และสถานนีโทรทัศน์พีเพิลแชลแนลนั้น ตนคิดว่าเป็นเรื่องที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ต้องการจะโฆษณาให้คนติดตาม และเชื่อว่าในวันดังกล่าวจะไม่มีอะไร เหมือนที่เคยประกาศจะมี บิ๊กเซอร์ไพร้ส์ ในวันเกิด สุดท้ายก็มีแต่ วิดีโอที่พ.ต.ท.ทักษิณ ทำบุญตักบาตรเท่านั้น
นายเทพไท กล่าวด้วยว่า สิ่งที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร น้องสาวพ.ต.ท.ทักษิณ ออกมายืนยันว่าพ.ต.ท.ทักษิณยังมีความรักชาติอย่างเดิม จึงอยากบอกว่าความรักชาติไม่ได้มีแค่คำพูด แต่อยู่ที่การปฏิบัติด้วย ไม่ทราบว่าความรักชาติของพ.ต.ท.ทักษิณเป็นการรักชาติจนน้ำลายไหล หรือไม่ ถ้ารักชาติจริง วันนี้ทำไมทำตัวเป็นคนทรยศต่อชาติ
"จากนี้ไปผมคิดว่าพ.ต.ท.ทักษิณ ต้องทำทุกวิถีทางเพื่อให้การเมืองไทยถึงทางตัน รัฐบาลถึงจุดจบ กลุ่มคนเหล่านี้กำลังทำร้ายประเทศ และประเทศชาติกำลังถูกฆาตกรรม โดยคนที่สวมวิญญานเป็นฆาตกร ดังนั้นสถานการณ์ต่อจากนี้ไปน่าจับตามองอย่างยิ่ง และเชื่อว่าประเทศไทยนั้น สิ่งศักดิ์มีจริง และพระสยามเทวาธิราช ได้คุ้มครองให้ประเทศชาติรอดพ้นจากภัย และทำให้คนไทยทั้งชาติกลับมาสามัคคีกัน ถ้าไม่มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ปรากฎการณ์เหล่านี้ก็จะไม่ปรากฏให้คนไทยเห็นว่า ใครคือคนรักชาติที่แท้จริง"
**เตรียมปั๊มเพลง"หนักแผ่นดิน"แจก
นอกจากนี้นายเทพไท ยังได้นำซีดีมาแสดงประกอบการแถลงข่าว พร้อมกับระบุว่ามีผู้หวังดีนำซีดีเพลง"คนหนักแผ่นดิน" ที่เคยใช้ออกอากาศเมื่อปี 2518 ทางสถานีวิทยุ จส. กรมการสื่อสารทหารบก มาให้กับตน และไม่น่าเชื่อว่าเพลงดังกล่าวจะกลับมาใช้ได้ในยุคปัจจุบัน ซึ่งเนื้อหามีความสอดคล้องมากกว่าในอดีตที่มีการต่อสู้ และขัดแย้งทางอุดมการณ์ของคนในสังคม แต่วันนี้ไม่ใช่เป็นเรื่องความขัดแย้งทางอุดมการณ์ แต่เป็นความขัดแย้งทางอุดมโกง ให้กับคนเพียงคนเดียว โดยตนจะปั้มซีดีเพลงนี้ ไปแจกให้กับสมาชิกพรรคเพื่อไทยให้ฟัง เพื่อกระตุ้นต่อมจิตสำนึกความรักชาติ ขึ้นมาบ้าง
นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณี นายนพดล ที่ออกมาตอบโต้นายกรัฐมนตรี กรณีการยกเลิกเอ็มโอยู โดยบอกว่านายกฯ เอาดีใส่ตัวนั้น ตนขอยืนยันว่าการพูดของนายกฯในรายการเชื่อมั่นประเทศไทย เป็นการอธิบายให้กับประชาชนเข้าใจสถานการณ์ให้ชัดเจน ไม่ได้เอาดีใส่ตัวตามที่กล่าวหา และในข้อเท็จจริงสัญญานี้ปรากฏชัดว่า พ.ต.ท.ทักษิณ มีส่วนเกี่ยวข้องกับเอ็มโอยู อาจจะทำให้การเจรจาระหว่างประเทศเสียเปรียบได้ แต่นายนพดล กลับมายืนยันว่าพ.ต.ท.ทักษิณ จะไม่ขายความลับให้กับเขมร ตนคิดว่าไม่มีหลักประกันใดยืนยันได้ว่า คนอย่าง พ.ต.ท.ทักษิณ จะไม่ขายความลับให้กับเขมร ในการเจรจาในเรื่องเอ็มโอยู เพราะพฤติกรรมที่ผ่านมาปรากฏชัดว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่เคยปกป้องผลประโยชน์ของประเทศชาติ แต่กลับเอาผลประโยชน์ของตัวเองเป็นที่ตั้ง ถ้ารักชาติจริง ก็คงจะไม่รับเป็นที่ปรึกษาให้กับรัฐบาลเขมร
"ผมคิดว่ามีแต่คนที่ใกล้ชิด และลิ่วล้อเท่านั้นที่ไว้วางใจ แต่คนไทย 63 ล้านคน ไม่ไว้วางใจ เห็นจากความเชื่อมั่นของเอแบคโพล ล่าสุดร้อยละ 70.7 เห็นว่าพ.ต.ทักษิณ และ พล.อ.ชวลิต ไม่ได้ทำเพื่อประเทศชาติแท้จริง ซึ่งเป็นสิ่งยืนยันความรู้สึกของคนไทยทั้งประเทศ ไม่ใช่เป็นเรื่องที่ผมยืนยันด้วยตัวเอง" นายเทพไทกล่าว