นายศิลปิน บูรณศิลปิน รองผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายกิจกรรมพิเศษ บริษัททีพีไอ โพลีน จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงกรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ระบุว่า นายประชัย เลี่ยวไพรัตน์ ประธานบริษัททีพีไอ โพลีน ไม่ให้ความร่วมมือกับกกต. ในการเดินทางเข้าชี้แจงเกี่ยวกับเงินบริจาคของพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งเป็นการให้ข่าว ในลักษณะสร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณะชน จึงขอยืนยันว่าที่ผ่านมา นายประชัย ได้ให้ความร่วมมือกับ กกต.มาโดยตลอด โดยได้ส่งนายไวพจน์ คตบัว ผู้รับมอบอำนาจ มาให้ถ้อยคำกับ กกต. และเมื่อวันที่ 2 ต.ค.ที่ผ่านมา นายประชัย ได้ทำหนังสือ ยืนยันการมอบหมายให้นายไวพจน์เข้าชี้แจงเป็นความจริงทุกประการ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับรายละเอียดในหนังสือที่นายประชัย เลี่ยวไพรัตน์ ส่งมาชี้แจงกับทางกกต.พร้อมกับปฏิเสธว่าไม่ได้มีการจ่ายเงินให้กับคนของพรรคประชาธิปัตย์ แต่ได้จ่ายเงินให้กับบริษัท เมซไซอะ บิซิเนส แอนด์ครีเอชั่นจำกัด เพื่อไปทำการโฆษณาประชาสัมพันธ์สงเสริมด้านการขายและการตลาดในช่วงปี 2547-2548 ประมาณ 8 โครงการ ในวงเงิน 258 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทได้รับการร้องขอจากตัวแทนจำหน่ายของบริษัท ให้ช่วยเหลือด้านการตลาด เพื่อไปแข่งขันด้านการค้ากับบริษัทคู่แข่งในพื้นที่ภาคใต้
โดยการว่าจ้างตามสัญญาดังกล่าวของบริษัททีพีไอฯ และบริษัทเมซไซอะฯ ได้มีการทำบัญชีงบการเงิน และยื่นชำระภาษีต่อกรมสรรพกรอย่างถูกต้อง ทั้งนี้ ทางบริษัททีพีไอฯได้ยืนยันว่าในช่วงระหว่างปี 2547-2548 นั้น ไม่เคยบริจาคเงินหรือผลประโยชน์ใดๆให้แก่พรรคประชาธิปัตย์
อย่างไรก็ตามในรายละเอียดของหนังสือชี้แจง ได้ระบุช่วงท้ายว่า ทางบริษัททีพีไอ โพลีน ได้ใช้สิทธิ์ฟ้องดำเนินคดีอาญาในความผิดฐานหมิ่นประมาทกับ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธาน ส.ส.พรรคเพื่อไทย ที่ศาลจังหวัดไชยา เนื่องจาก ได้นำความเท็จกล่าวหาว่า บริษัททีพีไอ โพลีน ได้สนับสนุนหรือบริจาคเงินให้กับพรรคประชาธิปัตย์ ผ่านบริษัทแมซไซอะ ฯในการประชุมสภาฯ ทั้งที่ไม่เป็นความจริง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับรายละเอียดในหนังสือที่นายประชัย เลี่ยวไพรัตน์ ส่งมาชี้แจงกับทางกกต.พร้อมกับปฏิเสธว่าไม่ได้มีการจ่ายเงินให้กับคนของพรรคประชาธิปัตย์ แต่ได้จ่ายเงินให้กับบริษัท เมซไซอะ บิซิเนส แอนด์ครีเอชั่นจำกัด เพื่อไปทำการโฆษณาประชาสัมพันธ์สงเสริมด้านการขายและการตลาดในช่วงปี 2547-2548 ประมาณ 8 โครงการ ในวงเงิน 258 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทได้รับการร้องขอจากตัวแทนจำหน่ายของบริษัท ให้ช่วยเหลือด้านการตลาด เพื่อไปแข่งขันด้านการค้ากับบริษัทคู่แข่งในพื้นที่ภาคใต้
โดยการว่าจ้างตามสัญญาดังกล่าวของบริษัททีพีไอฯ และบริษัทเมซไซอะฯ ได้มีการทำบัญชีงบการเงิน และยื่นชำระภาษีต่อกรมสรรพกรอย่างถูกต้อง ทั้งนี้ ทางบริษัททีพีไอฯได้ยืนยันว่าในช่วงระหว่างปี 2547-2548 นั้น ไม่เคยบริจาคเงินหรือผลประโยชน์ใดๆให้แก่พรรคประชาธิปัตย์
อย่างไรก็ตามในรายละเอียดของหนังสือชี้แจง ได้ระบุช่วงท้ายว่า ทางบริษัททีพีไอ โพลีน ได้ใช้สิทธิ์ฟ้องดำเนินคดีอาญาในความผิดฐานหมิ่นประมาทกับ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธาน ส.ส.พรรคเพื่อไทย ที่ศาลจังหวัดไชยา เนื่องจาก ได้นำความเท็จกล่าวหาว่า บริษัททีพีไอ โพลีน ได้สนับสนุนหรือบริจาคเงินให้กับพรรคประชาธิปัตย์ ผ่านบริษัทแมซไซอะ ฯในการประชุมสภาฯ ทั้งที่ไม่เป็นความจริง
