นางสดศรี สัตยธรรม กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ด้านกิจการพรรคการเมือง กล่าวถึงกรณีการทำประชามติ ว่า จุดมุ่งหมายของการทำประชามติเพื่อยุติข้อพิพาทที่เกิดขึ้น ซึ่งหากทำประชามติแต่ยังเกิดความขัดแย้งก็ไม่มีประโยชน์ ทั้งนี้ เห็นว่าการทำประชามติควรทำภายหลังผ่านการพิจารณาของสภาฯ แล้ว เพราะหากทำประชามติหลังผ่านวาระแรกแล้วสภาฯ ไม่เห็นด้วย ประชามติที่ทำจะเกิดปัญหาในทางปฏิบัติ
อย่างไรก็ตาม หากบุคคลใดเห็นว่าการทำประชามติไม่ถูกต้อง ก็สามารถยื่นฟ้องต่อศาลปกครองได้
พร้อมกันนี้ นางสดศรี ยืนยันว่า สำนักงาน กกต.ยังไม่ได้รับหนังสือของนายประชัย เลี่ยวไพรัตน์ ประธานบริหาร บริษัท ทีพีไอโพลีน จำกัด (มหาชน) กรณีเงินบริจาค 258 ล้านบาท ของพรรคประชาธิปัตย์ ตามที่นายศิลปิน บูรณศิลปิน รองผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายกิจกรรมพิเศษ บริษัท ทีพีไอฯ ระบุ ว่าส่งมาเมื่อวันที่ 2 ตุลาคมที่ผ่านมา โดยในวันที่ 28 ตุลาคม อนุกรรมการไต่สวนจะรายงานความคืบหน้าต่อที่ประชุม กกต. ว่าจะให้ทำพยานหรือออกหนังสือเรียกนายประชัยเข้าชี้แจง
อย่างไรก็ตาม หากบุคคลใดเห็นว่าการทำประชามติไม่ถูกต้อง ก็สามารถยื่นฟ้องต่อศาลปกครองได้
พร้อมกันนี้ นางสดศรี ยืนยันว่า สำนักงาน กกต.ยังไม่ได้รับหนังสือของนายประชัย เลี่ยวไพรัตน์ ประธานบริหาร บริษัท ทีพีไอโพลีน จำกัด (มหาชน) กรณีเงินบริจาค 258 ล้านบาท ของพรรคประชาธิปัตย์ ตามที่นายศิลปิน บูรณศิลปิน รองผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายกิจกรรมพิเศษ บริษัท ทีพีไอฯ ระบุ ว่าส่งมาเมื่อวันที่ 2 ตุลาคมที่ผ่านมา โดยในวันที่ 28 ตุลาคม อนุกรรมการไต่สวนจะรายงานความคืบหน้าต่อที่ประชุม กกต. ว่าจะให้ทำพยานหรือออกหนังสือเรียกนายประชัยเข้าชี้แจง