เมื่อเวลา19.20 น.วานนี้ (4พ.ย.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังการหารือกับพล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผบช.น. และพล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผช.ผบ.ตร. นานกว่า 2 ชั่วโมงถึงปัญหาตลาดคลองเตยว่าได้มอบหมายให้นายเกื้อกูล ด่านชัยวิจิตร รมช.คมนาคม และผู้ว่าฯการท่าเรือแห่งประเทศไทย เข้าดำเนินการซึ่งก่อนหน้านี้มีการยุติความรุนแรงได้ระยะหนึ่งแต่เกิดเงื่อนไขเกี่ยวกับตลาดสี่ขึ้นมา และตนได้สั่งให้จัดการให้เรียบร้อยไม่ให้เกิดความรุนแรงอีกและให้เดินหน้าเรื่องกระบวนการเจรจาในภาพรวม โดยต้องคุยกับทางบริษัท และพ่อค้าแม่ค้าว่ามีทางทำอย่างไรที่ให้ทุกฝ่ายทำงานของตนเองได้
เมื่อถามว่าจุดที่ได้ข้อยุติต้องเป็นอย่างไรเนื่องจากพ่อค้าแม่ค้ายืนยันจะค้าขายในที่เดิม นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เรื่องของภาวะชั่วคราวให้เป็นไปตามคำสั่งต่อศาล เพราะเป็นการไปยื่นต่อศาล
เมื่อถามว่าการค้าขายเป็นไปตามปกติหรือไม่นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เป็นไปตามคำสั่งศาล และไม่ให้มีการใช้ความรุนแรงใดๆทั้งสิ้น ส่วนที่จะไปรื้อถอนอะไรอีกนั้นก็ต้องอิงกับคำสั่งศาลทั้งหมด เมื่อถามว่า มีการพิจารณาทบทวนหรือไม่ถึงการยกเลิกสัญญาที่ทำกับบริษัทลิเกิ้ลด้วยหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่าทุกอย่างต้องเป็นไปตามสัญญา มีประเด็นที่เกี่ยวข้องอยู่ ซึ่งทางรมช.คมนาคมกับการท่าเรือฯ จะคุยกับทางบริษัทให้ทราบ
เมื่อถามว่า การเดินตามแนวทางนี้จะทำให้ยุติความรุนแรงได้หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ได้ชั่วคราว ขณะนี้เพื่อแก้ปัญหาเฉพาะหน้าให้ได้ ส่วนการเดินหน้าระยะกลางต้องรอฟังการดำเนินงานของผู้ที่เกี่ยวข้อง
"ปัญหาขณะนี้มีแนวโน้มว่าจะเกิดความรุนแรงขึ้นภายใน 1-2 วันข้างหน้า ฉะนั้นภาวะเร่งด่วนต้องหยุดตรงนั้นให้ได้ สุดท้ายจะหยุดทั้งหมดได้หรือไม่ ขึ้นอยู่กับการเจรจาต่อ เพราะการเจรจาคืนก่อนไม่สามารถบรรลุข้อตกลงได้" นายอภิสิทธิ์กล่าว
เมื่อถามอีกว่าถือเป็นจุดเริ่มต้นที่จะเจรจาร่วมกันหรือไม่นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ขณะนี้ต้องหยุดยั้งภาวะซึ่งมีแนวโน้มจะมีความรุนแรงมากขึ้นให้ได้ ซึ่งมีการเสนอวิธีการการทำงานในคืนวันนี้ (4 พ.ย.) และคืนวันพรุ่งนี้ (5 พ.ย.) ส่วนระยะต่อไปขึ้นอยู่กับการเชิญฝ่ายต่างๆ จัดการภายใน1-2 วัน เมื่อถามว่า นายกฯต้องไปดูด้วยตัวเองหรือไม่นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่ารอผลการรายงาน จริงๆแล้วปัญหาไม่ควรจะมาถึงตรงนี้ เพราะมีความเดือดร้อน ด้านหนึ่งมีการใช้ความรุนแรง อีกด้านหนึ่งมีการปิดถนน กระทบต่อประชาชน สุดท้ายก็หนีไม่พ้น
ด้านนายเกื้อกูล ด่านชัยวิจิตร รมช.คมนาคม ให้สัมภาษณ์ภายหลังผู้ค้าคลองเตย และคู่กรณีเข้าพบว่านายกฯเป็นห่วงเรื่องนี้ และให้ดูแลอย่างเข้มงวดไม่ว่าจะเป็นเรื่องสัญญาหรือการบังคับใช้ มีการพูดคุย และจะมีการประชุมกันต่อในวันที่ 5 พ.ย.นี้ ที่ท่าเรือคลองเตยในเวลา 09.30 น. เชื่อว่าทั้ง 2 ฝ่ายอยากสงบ ไม่อยากให้เกิดเรื่องโดยเราจะคุยแต่ละฝ่ายก่อน เพื่อเอาข้อตกลงของพล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง พูดคุยไว้มาเป็นหลัก
เมื่อถามว่าแนวทางนี้เขาจะรับได้หรือไม่ เพราะเคยทำข้อตกลงกันมาแล้ว นายเกื้อกูล กล่าวว่า เอาข้อตกลงเดิมมานั่งคุยกัน หากใครละเมิดข้อตกลงก็จะมีความผิด เชื่อว่าวันนี้ (5พ.ย.) จะได้ข้อสรุปออกมา เราขอความร่วมมือทั้ง 2 ฝ่าย อย่าใช้ความรุนแรงพยายามที่จะนั่งทำข้อตกลงพูดคุยกันให้ได้ เมื่อถามว่าจะมีการทบทวนสัญญาที่ทำไปหรือไม่ นายเกื้อกูล กล่าวว่า วันที่ 5 พ.ย.จะชัดเจน ดูว่าควรจะดำเนินการอย่างไร อย่างไรก็ตาม จะพยายามทำให้ดีที่สุด บังคับตามสัญญาให้มากที่สุด ส่วนจะเกิดความรุนแรงอีกหรือไม่ก็ต้องบังคับใช้กฎหมายอย่างเต็มที่ และเชื่อว่าทั้งคู่ต้องปฏิบัติตามกฎหมาย และการท่าเรือก็จะบังคับใช้กฎหมายตามที่เราได้ทำสัญญากับริษัทลีเกิ้ล โปรเฟสชั่นแนล จำกัด ว่าบริษัทลีเกิ้ลฯ จะปฏิบัติตามสัญญาอย่างเคร่งครัด เราจะเอาเรื่องสัญญามาดู ทั้งนี้สามารถยกเลิกได้หากทำผิดสัญญา
เมื่อถามว่าจุดที่ได้ข้อยุติต้องเป็นอย่างไรเนื่องจากพ่อค้าแม่ค้ายืนยันจะค้าขายในที่เดิม นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เรื่องของภาวะชั่วคราวให้เป็นไปตามคำสั่งต่อศาล เพราะเป็นการไปยื่นต่อศาล
เมื่อถามว่าการค้าขายเป็นไปตามปกติหรือไม่นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เป็นไปตามคำสั่งศาล และไม่ให้มีการใช้ความรุนแรงใดๆทั้งสิ้น ส่วนที่จะไปรื้อถอนอะไรอีกนั้นก็ต้องอิงกับคำสั่งศาลทั้งหมด เมื่อถามว่า มีการพิจารณาทบทวนหรือไม่ถึงการยกเลิกสัญญาที่ทำกับบริษัทลิเกิ้ลด้วยหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่าทุกอย่างต้องเป็นไปตามสัญญา มีประเด็นที่เกี่ยวข้องอยู่ ซึ่งทางรมช.คมนาคมกับการท่าเรือฯ จะคุยกับทางบริษัทให้ทราบ
เมื่อถามว่า การเดินตามแนวทางนี้จะทำให้ยุติความรุนแรงได้หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ได้ชั่วคราว ขณะนี้เพื่อแก้ปัญหาเฉพาะหน้าให้ได้ ส่วนการเดินหน้าระยะกลางต้องรอฟังการดำเนินงานของผู้ที่เกี่ยวข้อง
"ปัญหาขณะนี้มีแนวโน้มว่าจะเกิดความรุนแรงขึ้นภายใน 1-2 วันข้างหน้า ฉะนั้นภาวะเร่งด่วนต้องหยุดตรงนั้นให้ได้ สุดท้ายจะหยุดทั้งหมดได้หรือไม่ ขึ้นอยู่กับการเจรจาต่อ เพราะการเจรจาคืนก่อนไม่สามารถบรรลุข้อตกลงได้" นายอภิสิทธิ์กล่าว
เมื่อถามอีกว่าถือเป็นจุดเริ่มต้นที่จะเจรจาร่วมกันหรือไม่นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ขณะนี้ต้องหยุดยั้งภาวะซึ่งมีแนวโน้มจะมีความรุนแรงมากขึ้นให้ได้ ซึ่งมีการเสนอวิธีการการทำงานในคืนวันนี้ (4 พ.ย.) และคืนวันพรุ่งนี้ (5 พ.ย.) ส่วนระยะต่อไปขึ้นอยู่กับการเชิญฝ่ายต่างๆ จัดการภายใน1-2 วัน เมื่อถามว่า นายกฯต้องไปดูด้วยตัวเองหรือไม่นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่ารอผลการรายงาน จริงๆแล้วปัญหาไม่ควรจะมาถึงตรงนี้ เพราะมีความเดือดร้อน ด้านหนึ่งมีการใช้ความรุนแรง อีกด้านหนึ่งมีการปิดถนน กระทบต่อประชาชน สุดท้ายก็หนีไม่พ้น
ด้านนายเกื้อกูล ด่านชัยวิจิตร รมช.คมนาคม ให้สัมภาษณ์ภายหลังผู้ค้าคลองเตย และคู่กรณีเข้าพบว่านายกฯเป็นห่วงเรื่องนี้ และให้ดูแลอย่างเข้มงวดไม่ว่าจะเป็นเรื่องสัญญาหรือการบังคับใช้ มีการพูดคุย และจะมีการประชุมกันต่อในวันที่ 5 พ.ย.นี้ ที่ท่าเรือคลองเตยในเวลา 09.30 น. เชื่อว่าทั้ง 2 ฝ่ายอยากสงบ ไม่อยากให้เกิดเรื่องโดยเราจะคุยแต่ละฝ่ายก่อน เพื่อเอาข้อตกลงของพล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง พูดคุยไว้มาเป็นหลัก
เมื่อถามว่าแนวทางนี้เขาจะรับได้หรือไม่ เพราะเคยทำข้อตกลงกันมาแล้ว นายเกื้อกูล กล่าวว่า เอาข้อตกลงเดิมมานั่งคุยกัน หากใครละเมิดข้อตกลงก็จะมีความผิด เชื่อว่าวันนี้ (5พ.ย.) จะได้ข้อสรุปออกมา เราขอความร่วมมือทั้ง 2 ฝ่าย อย่าใช้ความรุนแรงพยายามที่จะนั่งทำข้อตกลงพูดคุยกันให้ได้ เมื่อถามว่าจะมีการทบทวนสัญญาที่ทำไปหรือไม่ นายเกื้อกูล กล่าวว่า วันที่ 5 พ.ย.จะชัดเจน ดูว่าควรจะดำเนินการอย่างไร อย่างไรก็ตาม จะพยายามทำให้ดีที่สุด บังคับตามสัญญาให้มากที่สุด ส่วนจะเกิดความรุนแรงอีกหรือไม่ก็ต้องบังคับใช้กฎหมายอย่างเต็มที่ และเชื่อว่าทั้งคู่ต้องปฏิบัติตามกฎหมาย และการท่าเรือก็จะบังคับใช้กฎหมายตามที่เราได้ทำสัญญากับริษัทลีเกิ้ล โปรเฟสชั่นแนล จำกัด ว่าบริษัทลีเกิ้ลฯ จะปฏิบัติตามสัญญาอย่างเคร่งครัด เราจะเอาเรื่องสัญญามาดู ทั้งนี้สามารถยกเลิกได้หากทำผิดสัญญา