xs
xsm
sm
md
lg

เผยใจ“ชุมพล”เลือกยุบทีพีซีโยนให้ททท.รับภาระอีลิทต่อ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน – “ชุมพล” เผยทางเลือกในใจ ยุบบริษัทไทยแลนด์พริวิเลจคาร์ด พร้อมโอนสมาชิกอีลิทการ์ดกิจการให้ ททท.รับไปบริหารจัดการ   แต่ทั้งนี้ต้องเสนอครม.เป็นผู้ฟันธงมั่นใจ 17 พ.ย.เข้า ครม.ชัวร์  

นายชุมพล ศิลปะอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา  เปิดเผยว่า  ในวันที่ 17 พ.ย. 52 จะ เสนอ  2 แนวทางเลือกดำเนินการต่ออีลิทการ์ด ให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)พิจารณา ได้แก่  1. ปิดบริษัท และ ยุติโครงการ และ 2. ดำเนินกิจการต่อไป โดยมี 3 แนวทาง ได้แก่ โดยปรับแผน  โดยดึงภาคเอกชนมาร่วมทุน และ โดยโอนภารกิจให้ ททท. ซึ่งจะอยู่ภายใต้ฝ่ายสินค้าการท่องเที่ยว
สาเหตุที่ต้องให้ ครม.เป็นผู้พิจารณาตัดสิน  เพราะต้องการรับฟังฟังความเห็นจากทุกฝ่ายร่วมกัน ไม่อยากใช้ความคิดของตัวเองเพียงคนเดียวเป็นผู้ตัดสิน แต่โดยส่วนตัว เห็นว่า วิธีที่ดีที่สุด คือการให้ ททท.เข้าไปดำเนินกิจการ  
หากเลือกแนวทางโอนภารกิจให้ ททท.ดำเนินการต่อ บริษัทไทยแลนด์ พริวิเลจ คาร์ด(ทีพีซี) จะต้องไปแจ้งจดทะเบียนปิดบริษัท  พร้อมจ่ายค่าชดเชยให้แก่พนักงานประจำ คนละ 6 เดือนตามกฎหมาย  ส่วน ททท.ที่ได้รับภารกิจไปดูแล ก็อาจต้องเพิ่มอัตรากำลัง ซึ่งเรื่องนี้ได้มอบหมายให้ นายอักกพล  พฤกษะวัน  ที่ปรึกษาระดับ 11 ททท. เป็นผู้ให้คำปรึกษาในด้านแนวทางนโยบายทั้งหมด
นายชุมพล กล่าวถึงความคืบหน้าการสรรหาผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ว่า  จะเสนอรายชื่อผู้ผ่านรอบสุดท้าย ต่อที่ประชุมคณะกรรมการบริหาร(บอร์ด)ททท.ในวันที่ 18 พ.ย.52 เพื่อพิจารณาเลือกเพียง 1 รายชื่อ จากนั้นจะเข้าสู่กระบวนการต่อรองเงินเดือน มั่นใจว่าภายใน 1 ธ.ค.52 ททท.จะได้ผู้ว่าการคนใหม่เริ่มปฎิบัติงานได้แน่นอน
ส่วนสถานการณ์การนักท่องเที่ยวต่างชาติขณะนี้เริ่มทยอยเดินทางเข้ามาเที่ยวในประเทศไทยกันจำนวนมากขึ้น  ภาพรวม 9 เดือนปีนี้ ได้กว่า 9.89 ล้านคน ขณะที่มีรายงานจากสนามบินสุวรรณภูมิว่า เฉพาะเดือนตุลาคม ปีนี้ จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางผ่านด่านสนามบินสุวรรณภูมิเกินวันละ 3 หมื่นคนมีมากถึง 12 วันแล้ว จากที่ผ่านมาทุกเดือนจะมีเกิน 3
หมื่นคนเพียงเดือนละ 3-5 วันเท่านั้น  ทำให้มั่นใจว่าถึงสิ้นปี จะได้นักท่องเที่ยวต่างชาติอยู่ระหว่าง 13.5-14.1 ล้านคน สร้างรายได้เข้าประเทศ  5.5 แสนล้านบาท

***โมเดลใหม่อีลิทสมาชิกเสียเงินเอง*****
ทางด้านนายอักกพล พฤกษะวัน ที่ปรึกษาระดับ 11 การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)   กล่าวว่า รูปแบบเบื้องต้นที่ได้นำเสนอต่อนายชุมพล หากอีลิทการ์ด ต้องอยู่ในความดูแลของ ททท. คือ จะต้องมีการปรับกฎระเบียบใหม่การออกบัตรใหม่ทั้งหมด ให้มีความเป็นพริวิเลจ จริงๆ ด้วยการ คงสิทธิประโยชน์หลักที่สำคัญไว้เท่านั้น เช่น
บริการช่องทางเข้าเมืองพิเศษที่สนามบิน(ฟาสต์แทรก)  สิทธิได้รับวีซ่าประเทศไทย 5 ปี  และ การต้อนรับในระดับที่ดีเลิศกรณีไปใช้บริการโรงแรม สปา กอล์ฟ และ อื่นๆ โดยสมาชิกต้องเสียค่าบริการเอง ทั้งหมด  เพราะ เราเชื่อว่า ผู้ที่เป็นสมาชิกคือผู้มีฐานะระดับไฮเอนด์  ดังนั้นการจ่ายเงินจึงไม่สำคัญเท่ากับการได้รับบริการ

“บัตรอีลิทที่มีอยู่ในปัจจุบันเป็นเหมือนบัตรเดบิต คือจ่ายเงินก่อน แล้ว เข้ามาใช้บริการ แต่บัตรอีลิทรูปแบบใหม่ จะเป็นพริวิเลจการ์ดระดับไฮเอนด์จริงๆด้วยจุดเด่นด้านการบริการชั้นเลิศ   ซึ่งถ้าเลือกบริการแบบนี้ นอกจาก ททท.ไม่ต้องเสียเงินจ่ายค่าบริการให้แก่สมาชิกแล้ว  ยังมีรายได้จากค่าคอมมิชชั่น ที่จะได้รับจากโรงแรม สปา หรือกอล์ฟ
ระดับหรูที่สมาชิกอีลิทเข้าไปใช้บริการ  ซึ่งรายได้ส่วนนี้ ก็จะนำมาจ่ายเป็นค่าบริการสมาชิกเดิม ซึ่งมีอยู่กว่า  2,500 ราย  ส่วนราคาบัตรสมาชิกใหม่ ยังไม่ได้คุยในรายละเอียดว่าจะกำหนดขายในราคาเท่าใด  “

***เพ็ญสุดายันให้ผู้ว่าททท.คนใหม่ตั้งรองฯ****
ทางด้านนางสาว เพ็ญสุดา ไพรอร่าม รักษาการผู้ว่าการททท. กล่าวว่า ในการประชุมบอร์ดวันที่ 18 พ.ย. นี้ ในส่วนของททท.และตัวเอง จะไม่มีการเสนอรายชื่อแต่งตั้งรองผู้ว่าการททท.ในตำแหน่งที่ยังไม่มีแน่นอน  โดยขอยืนยันว่าจะให้ผู้ว่าการ ททท.คนใหม่ เป็นผู้เลือกรองผู้ว่าเอง  แต่จะมีวาระลับหรือวาระจร เสนอเข้ามาหรือไม่นั้น ไม่สามารถรู้ได้
กำลังโหลดความคิดเห็น