เชียงราย-รถตู้เบนซ์ “ชัยสิทธิ์ ชินวัตร” ญาติผู้พี่ “นช.ทักษิณ” มุ่งหน้าไปเชียงรายพุ่งชนรถ จยย.ชาวบ้านเสียชีวิตคาที่ 1 สาหัส 1 ก่อนที่เบนซ์คันหรู่จะเสียหลักลงไปอยู่ในร่องน้ำขางถนน สภาพพังยับเยินทั้งเบนซ์-จยย.ส่วน “ชัยสิทธิ์” ขาหักหามขึ้น “ฮ” ส่งเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลในกรุงเทพฯ ด้านแม่ 2 พี่น้องเคราะห์ร้ายขึ้นโรงพัก ขณะที่ตำรวจแจ้งยืนยันเป็นอุบัติเหตุ รับปากจะประสานคณะอดีต ผบ.ทบ.ให้ เพื่อดูแลเรื่องค่าเสียหายตามความเหมาะสม
เมื่อเช้าวานนี้ (3 พ.ย.) พ.ต.ท.ชัยยฤทธิ์ อนุฤทธิ์ สารวัตรใหญ่ สภ.แม่เจดีย์ใหม่ อ.เวียงป่าเป้า และ พ.ต.ท.ประทวน อาจกล้า สารวัตรเวร สภ.แม่เจดีย์ใหม่ จ.เชียงราย ได้รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุบนถนนสายเชียงใหม่-เชียงรายพื้นที่หมู่บ้านขุนลาว หมู่ 7 ต.แม่เจดีย์ใหม่ โดยมีทั้งผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ จึงประสานกับหน่วยกู้ภัยและแพทย์โรงพยาบาลเวียงป่าเป้าไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพบเป็นถนนสองช่องจราจรห่างจากด่านตรวจแม่โถ ไปทาง จ.เชียงราย ประมาณ 100 เมตรโดยเป็นทางตรงแต่มีร่องน้ำลึกอยู่ด้านข้างและปกคลุมด้วยป่าไม้ทั้ง 2 ข้างทาง
จากการตรวจสอบพบรถที่ประสบอุบัติเหตุ ประกอบด้วยรถยนต์ตู้ยี่ห้อเบนซ์ รุ่นวีโต้ สีขาว ทะเบียน ฮฉ 4228 กรุงเทพฯ จอดข้างทางสภาพด้านหน้าพังยับเยิน โดยล้อหน้าด้านขวาหลุดออกจากตัวรถ กระจกหน้ามีรอยแตก ส่วนตัวรถเสียหลักอยู่ในร่องน้ำคอนกรีตข้างทาง
ภายในรถมีคนขับและผู้โดยสาร 4 คน ประกอบด้วยคนขับชื่อนายทศพล คุณศิลป์ อายุ 31 ปี บ้านเลขที่ 44/4 หมู่ 2 ต.ดอนแก้ว อ.สารภี จ.เชียงใหม่ ส่วนผู้โดยสารประกอบไปด้วย พล.อ.ชัยสิทธิ์ ชินวัตร อายุ 64 ปี อดีต ผบ.ทบ.และลูกพี่ลูกน้องของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี, นายวสันต์ ธัมมะมาลา อายุ 68 ปี อยู่ ต.ช้างเผือก อ.เมือง จ.เชียงใหม่ และนายสุชาติ พรหมเศรณี อายุ 53 ปี บ้านเลขที่ 12 หมู่บ้านมณีนพรัตน์ ต.ศรีภูมิ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นเจ้าของรถด้วย โดย พล.อ.ชัยสิทธิ์ ได้รับบาดเจ็บข้อเท้าด้านซ้ายหัก เจ้าหน้าที่จึงเข้าไปปฐมพยาบาลเบื้องต้นเป็นการเร่งด่วน
ห่างจากรถตู้ประมาณ 10 เมตรพบรถจักรยานยนต์ฮอนด้า สีเงินบรอนซ์ ป้ายแดง ทะเบียน ชฮก 87 ล้มอยู่ สภาพถูกชนจนพังไม่เหลือเค้าเดิม ใกล้กันพบศพผู้เสียชีวิตเป็นคนขับรถจักรยานยนต์ ทราบชื่อว่านายฐิติพงษ์ ใจยา อายุ 26 ปี บ้านเลขที่ 74 หมู่บ้านจำบอน หมู่ 5 ต.แม่เจดีย์ใหม่ ทำงานเป็นพนักงานของบริษัทเอกชนรายหนึ่ง ที่ศีรษะและลำตัวถูกกระทบกระเทือนอย่างหนักจนเสียชีวิต ใกล้กันยังพบผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 คนเป็นน้องสาวของผู้ตายชื่อว่า น.ส.ชีวาพร ใจยา อายุ 19 ปี เป็นนักศึกษาชั้นปีที่ 1 มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ ที่ซ้อนท้ายได้รับบาดเจ็บขาซ้ายหัก เจ้าหน้าที่จึงนำตัวศพและผู้ได้รับบาดเจ็บทั้งหมดส่งโรงพยาบาลเวียงป่าเป้า
แต่เนื่องจากอาการของ น.ส.ชีวาพร สาหัสจึงนำส่งไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ ขณะที่คณะของ พล.อ.ชัยสิทธิ์ ขอไปรักษาตัวต่อที่กรุงเทพฯ จึงได้ประสานกับฝ่ายทหาร ซึ่งเคยเป็นผู้ใต้บังคับบัญชา ได้แก่กองกำลังผาเมือง ทำให้ฝ่ายทหารนำเฮลิคอปเตอร์ไปรับคณะของ พล.อ.ชัยสิทธิ์ โดยนำเฮลิคอปเตอร์ลงที่โรงเรียนบ้านกู่ใกล้กับโรงพยาบาล ซึ่งตลอดการดำเนินการมีการกีดกันสื่อมวลชนไม่ให้เข้าไปถ่ายทำข่าวในครั้งนี้อย่างเข้มงวดด้วย จากนั้นได้นำ พล.อ.ชัยสิทธิ์ โดยสารโดยเฮลิคอปเตอร์ไปยังกองบิน 41 ก่อนที่จะนำตัวส่งต่อไปไปยังกรุงเทพฯ
พ.ต.ท.ประทวน ได้ตรวจสอบที่เกิดเหตุและเก็บรวบรวมข้อมูลหลักฐานทุกอย่างแล้วสันนิษฐานว่า ก่อนหน้านี้รถยนต์ตู้ของ พล.อ.ชัยสิทธิ์ ได้เดินทางจาก จ.เชียงใหม่ มุ่งหน้าจะไปทาง จ.เชียงราย เมื่อพ้นด่านตรวจพบเป็นทางตรงและไม่โค้งมากนักคิดว่าไม่น่าจะเกิดอุบัติเหตุขึ้นได้ แต่ปรากฏว่ารถยนต์ตู้กลับขับขี่ข้ามช่องจราจรไปทางฝั่งขวาและประสานงากับรถจักรยานยนต์ที่สองพี่น้องขับขี่ซ้อนท้ายกันมา จนทำให้คนขับขี่จักรยานยนต์เสียชีวิตคาที่ และน้องสาวได้รับบาดเจ็บสาหัส
ด้าน พล.ต.ต.ทรงธรรม อัลภาชน์ ผบก.ภ.จว.เชียงราย เผยว่า ได้รับแจ้งเบื้องต้นถึงอุบัติเหตุดังกล่าวแล้ว ทราบว่ารถยนต์ที่ พล.อ.ชัยสิทธิ์ นั่งมานั้นได้ชนท้ายจักรยานยนต์ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย ก่อนที่รถยนต์จะพลิกคว่ำทำให้ พล.อ.ชัยสิทธิ์ ได้รับบาดเจ็บสาหัสดังกล่าว ส่วนรายละเอียดของเหตุการณ์กำลังรอรายงานจากเจ้าหน้าที่ในพื้นที่อยู่
วันเดียวกัน นายสุภาพ ปันสุข ผู้ใหญ่บ้านจำบอนได้พานางศรีเพ็ญ ใจยา อายุ 45 ปี ผู้เป็นแม่ของ 2 พี่น้องเคราะห์ร้ายเดินทางไปยัง สภ.แม่เจดีย์ใหม่ เพื่อรับทราบเหตุการณ์ท่ามกลางความเศร้าโศกเสียใจของนางศรีเพ็ญ ซึ่งทาง พ.ต.ท.ประทวน ได้แจ้งสถานการณ์ให้ได้รับทราบและยืนยันว่าเป็นอุบัติเหตุจะประสานกับคณะของ พล.อ.ชัยสิทธิ์ ให้เพื่อดำเนินการตามกฎหมายจราจรและดูแลเรื่องความเสียหายจากเหตุการณ์ตามความเหมาะสม
รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับ พล.อ.ชัยสิทธิ์ เดินทางไปยัง จ.เชียงราย บ่อยครั้ง เพราะได้ดำเนินโครงการแก้จนอย่างถาวรโดยมีกลุ่มคนเสื้อแดง เช่น กลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตยเชียงราย เป็นแนวร่วม ปัจจุบันมีการจำหน่ายปุ๋ยตามโครงการให้กับชาวบ้านอย่างคึกคัก ขณะเดียวกันได้ร่วมบริจาคสร้างสถานีวิทยุชุมชนคนรากหญ้าเพื่อประชาธิปไตยของกลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตยเชียงราย เพื่อสร้างห้องส่งกระจายเสียงของสถานีดังกล่าวด้วย
เมื่อเช้าวานนี้ (3 พ.ย.) พ.ต.ท.ชัยยฤทธิ์ อนุฤทธิ์ สารวัตรใหญ่ สภ.แม่เจดีย์ใหม่ อ.เวียงป่าเป้า และ พ.ต.ท.ประทวน อาจกล้า สารวัตรเวร สภ.แม่เจดีย์ใหม่ จ.เชียงราย ได้รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุบนถนนสายเชียงใหม่-เชียงรายพื้นที่หมู่บ้านขุนลาว หมู่ 7 ต.แม่เจดีย์ใหม่ โดยมีทั้งผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ จึงประสานกับหน่วยกู้ภัยและแพทย์โรงพยาบาลเวียงป่าเป้าไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพบเป็นถนนสองช่องจราจรห่างจากด่านตรวจแม่โถ ไปทาง จ.เชียงราย ประมาณ 100 เมตรโดยเป็นทางตรงแต่มีร่องน้ำลึกอยู่ด้านข้างและปกคลุมด้วยป่าไม้ทั้ง 2 ข้างทาง
จากการตรวจสอบพบรถที่ประสบอุบัติเหตุ ประกอบด้วยรถยนต์ตู้ยี่ห้อเบนซ์ รุ่นวีโต้ สีขาว ทะเบียน ฮฉ 4228 กรุงเทพฯ จอดข้างทางสภาพด้านหน้าพังยับเยิน โดยล้อหน้าด้านขวาหลุดออกจากตัวรถ กระจกหน้ามีรอยแตก ส่วนตัวรถเสียหลักอยู่ในร่องน้ำคอนกรีตข้างทาง
ภายในรถมีคนขับและผู้โดยสาร 4 คน ประกอบด้วยคนขับชื่อนายทศพล คุณศิลป์ อายุ 31 ปี บ้านเลขที่ 44/4 หมู่ 2 ต.ดอนแก้ว อ.สารภี จ.เชียงใหม่ ส่วนผู้โดยสารประกอบไปด้วย พล.อ.ชัยสิทธิ์ ชินวัตร อายุ 64 ปี อดีต ผบ.ทบ.และลูกพี่ลูกน้องของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี, นายวสันต์ ธัมมะมาลา อายุ 68 ปี อยู่ ต.ช้างเผือก อ.เมือง จ.เชียงใหม่ และนายสุชาติ พรหมเศรณี อายุ 53 ปี บ้านเลขที่ 12 หมู่บ้านมณีนพรัตน์ ต.ศรีภูมิ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นเจ้าของรถด้วย โดย พล.อ.ชัยสิทธิ์ ได้รับบาดเจ็บข้อเท้าด้านซ้ายหัก เจ้าหน้าที่จึงเข้าไปปฐมพยาบาลเบื้องต้นเป็นการเร่งด่วน
ห่างจากรถตู้ประมาณ 10 เมตรพบรถจักรยานยนต์ฮอนด้า สีเงินบรอนซ์ ป้ายแดง ทะเบียน ชฮก 87 ล้มอยู่ สภาพถูกชนจนพังไม่เหลือเค้าเดิม ใกล้กันพบศพผู้เสียชีวิตเป็นคนขับรถจักรยานยนต์ ทราบชื่อว่านายฐิติพงษ์ ใจยา อายุ 26 ปี บ้านเลขที่ 74 หมู่บ้านจำบอน หมู่ 5 ต.แม่เจดีย์ใหม่ ทำงานเป็นพนักงานของบริษัทเอกชนรายหนึ่ง ที่ศีรษะและลำตัวถูกกระทบกระเทือนอย่างหนักจนเสียชีวิต ใกล้กันยังพบผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 คนเป็นน้องสาวของผู้ตายชื่อว่า น.ส.ชีวาพร ใจยา อายุ 19 ปี เป็นนักศึกษาชั้นปีที่ 1 มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ ที่ซ้อนท้ายได้รับบาดเจ็บขาซ้ายหัก เจ้าหน้าที่จึงนำตัวศพและผู้ได้รับบาดเจ็บทั้งหมดส่งโรงพยาบาลเวียงป่าเป้า
แต่เนื่องจากอาการของ น.ส.ชีวาพร สาหัสจึงนำส่งไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ ขณะที่คณะของ พล.อ.ชัยสิทธิ์ ขอไปรักษาตัวต่อที่กรุงเทพฯ จึงได้ประสานกับฝ่ายทหาร ซึ่งเคยเป็นผู้ใต้บังคับบัญชา ได้แก่กองกำลังผาเมือง ทำให้ฝ่ายทหารนำเฮลิคอปเตอร์ไปรับคณะของ พล.อ.ชัยสิทธิ์ โดยนำเฮลิคอปเตอร์ลงที่โรงเรียนบ้านกู่ใกล้กับโรงพยาบาล ซึ่งตลอดการดำเนินการมีการกีดกันสื่อมวลชนไม่ให้เข้าไปถ่ายทำข่าวในครั้งนี้อย่างเข้มงวดด้วย จากนั้นได้นำ พล.อ.ชัยสิทธิ์ โดยสารโดยเฮลิคอปเตอร์ไปยังกองบิน 41 ก่อนที่จะนำตัวส่งต่อไปไปยังกรุงเทพฯ
พ.ต.ท.ประทวน ได้ตรวจสอบที่เกิดเหตุและเก็บรวบรวมข้อมูลหลักฐานทุกอย่างแล้วสันนิษฐานว่า ก่อนหน้านี้รถยนต์ตู้ของ พล.อ.ชัยสิทธิ์ ได้เดินทางจาก จ.เชียงใหม่ มุ่งหน้าจะไปทาง จ.เชียงราย เมื่อพ้นด่านตรวจพบเป็นทางตรงและไม่โค้งมากนักคิดว่าไม่น่าจะเกิดอุบัติเหตุขึ้นได้ แต่ปรากฏว่ารถยนต์ตู้กลับขับขี่ข้ามช่องจราจรไปทางฝั่งขวาและประสานงากับรถจักรยานยนต์ที่สองพี่น้องขับขี่ซ้อนท้ายกันมา จนทำให้คนขับขี่จักรยานยนต์เสียชีวิตคาที่ และน้องสาวได้รับบาดเจ็บสาหัส
ด้าน พล.ต.ต.ทรงธรรม อัลภาชน์ ผบก.ภ.จว.เชียงราย เผยว่า ได้รับแจ้งเบื้องต้นถึงอุบัติเหตุดังกล่าวแล้ว ทราบว่ารถยนต์ที่ พล.อ.ชัยสิทธิ์ นั่งมานั้นได้ชนท้ายจักรยานยนต์ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย ก่อนที่รถยนต์จะพลิกคว่ำทำให้ พล.อ.ชัยสิทธิ์ ได้รับบาดเจ็บสาหัสดังกล่าว ส่วนรายละเอียดของเหตุการณ์กำลังรอรายงานจากเจ้าหน้าที่ในพื้นที่อยู่
วันเดียวกัน นายสุภาพ ปันสุข ผู้ใหญ่บ้านจำบอนได้พานางศรีเพ็ญ ใจยา อายุ 45 ปี ผู้เป็นแม่ของ 2 พี่น้องเคราะห์ร้ายเดินทางไปยัง สภ.แม่เจดีย์ใหม่ เพื่อรับทราบเหตุการณ์ท่ามกลางความเศร้าโศกเสียใจของนางศรีเพ็ญ ซึ่งทาง พ.ต.ท.ประทวน ได้แจ้งสถานการณ์ให้ได้รับทราบและยืนยันว่าเป็นอุบัติเหตุจะประสานกับคณะของ พล.อ.ชัยสิทธิ์ ให้เพื่อดำเนินการตามกฎหมายจราจรและดูแลเรื่องความเสียหายจากเหตุการณ์ตามความเหมาะสม
รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับ พล.อ.ชัยสิทธิ์ เดินทางไปยัง จ.เชียงราย บ่อยครั้ง เพราะได้ดำเนินโครงการแก้จนอย่างถาวรโดยมีกลุ่มคนเสื้อแดง เช่น กลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตยเชียงราย เป็นแนวร่วม ปัจจุบันมีการจำหน่ายปุ๋ยตามโครงการให้กับชาวบ้านอย่างคึกคัก ขณะเดียวกันได้ร่วมบริจาคสร้างสถานีวิทยุชุมชนคนรากหญ้าเพื่อประชาธิปไตยของกลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตยเชียงราย เพื่อสร้างห้องส่งกระจายเสียงของสถานีดังกล่าวด้วย