xs
xsm
sm
md
lg

ยึดรถจักรอีก ส่งมือใหม่ขับ ฝ่าไฟหวิดชน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน - ปัญหารถไฟภาคใต้ยังตึงเครียด ผู้บริหารส่งคนขับรถพร้อมช่างเครื่องจากกทม. ยึดรถไฟขบวน 463 วิ่งลงพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ ฝ่าสัญญาณไฟแดง เกือบประสานงารถไฟท่องเที่ยวลังกาวี–หาดใหญ่ และเกือบตกราง จนถูกกลุ่มสหภาพฯ ปิดล้อมและหวิดปะทะกันขึ้น ด้านคนขับให้การตำรวจถูกขัดขวางการเดินรถจนเกือบเกิดปัญหา เผยรถไฟหยุดวิ่ง นักเรียนกว่าพันคนไปเรียนไม่ได้ ขณะที่การแก้ปัญหา 2 ฝ่าย “ผู้บริหาร-.-สหภาพฯ”ล่ม นายกฯ พูดชัดห้ามเอาเรื่องการให้บริการมาเป็นเงื่อนไขเจรจา “โสภณ” เตรียมบรรจุนักเรียนวิศวะรถไฟ 171 คนเป็นพนักงานขับรถแทน เผยเตรียมควง ”สุเทพ” ลัดฟ้าถกกู้จีนซื้อหัวจักรเพิ่มอีก 7 หัวแบบจีทูจี เชือดไก่ให้ลิงดู พักงาน-ไล่ ออก 10 พนักงานสร้างปัญหา

วานนี้ (27 ต.ค.) สถานการณ์การหยุดเดินรถไฟอย่างต่อเนื่องของสหภาพณรถไฟหาดใหญ่ ยังคงตึงเครียดอย่างหนัก จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่สามารถเปิดเดินรถไฟจากสถานีหาดใหญ่ลงพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ได้ และล่าสุดวานนี้เกือบเกิดอุบัติเหตุรถไฟชนกัน หลังจากที่เมื่อเวลาประมาณ 11.00 น. ทางการรถไฟแห่งประเทศไทยได้มีความพยายามจะนำขบวนรถ 463 พัทลุง-สุไหงโก-ลก ออกจากสถานีหาดใหญ่เพื่อจะไปรับผู้โดยสาร 3 จังหวัดชายแดนใต้ โดยใช้พนักงานขับรถและช่างเครื่องที่ถูกส่งมาจากส่วนกลาง ที่เดินทางมาจากกรุงเทพฯโดยมีกำลังตำรวจรถไฟคุ้มกันหนาแน่น

แต่ปรากฎว่า แต่หลังจากรถเคลื่อนตัวจากสถานีหาดใหญ่ไปได้เพียง 300 เมตร รถขบวนดังกล่าวได้ฝ่าฝืนสัญญาณควบคุมทำให้ต้องหยุดรถกะทันหัน เนื่องจากเกือบจะชนกับขบวนรถอีกหนึ่งขบวนในชานชาลาเดียวกัน เป็นรถขบวนลังกาวี-หาดใหญ่ ซึ่งส่งผู้โดยสารลงหมดแล้วกำลังจะเข้าเทียบชานชาลา โดยทั้ง 2 ขบวนอยู่ห่างกันเพียง 200 เมตรเท่านั้น และถ้าหากวิ่งออกไปอีกเพียง 50 เมตรก็จะตกรางด้วย

เหตุการณ์ดังกล่าวสร้างความไม่พอใจให้กับกลุ่มสหภาพฯรถไฟหาดใหญ่ที่ไปเฝ้าสังเกตุการณ์ก่อนที่รถจะออกเป็นอย่างมากและได้เข้าไปห้อมล้อมหัวรถจักรและให้พนักงานขับหยุดเดินขบวนและลงจากรถทันที ซึ่งสถานการณ์ชุลมุนอยู่กว่า 1 ชั่วโมงและต้องประสานกำลังตำรวจรถไฟและกำลังตำรวจ สภ.หาดใหญ่กว่า 100 นายเข้ามาควบคุมสถานการณ์ก่อนที่จะสามารถนำตัวพนักงานขับและช่างเครื่องลงจากรถท่ามกลางเสี่ยงโห่ร้องขับไล่ของกลุ่มสหภาพฯรถไฟหาดใหญ่ นำไปขึ้นรถของตำรวจรถไฟออกไปได้อย่างปลอดภัย โดยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทางกลุ่มสหภาพฯรถไฟหาดใหญ่ไม่ได้ใช้ความรุนแรงและเกิดการกระทบกระทั่งกันแต่อย่างใด

**เผยเหตุฝ่าสัญญาณไฟจนหวิดชน

นายสาโรจน์ รักษ์จันทร์ กรรมการสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจรถไฟแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ที่พนักงานขับรถไฟที่นำขบวนรถ 463 พัทลุง-สุไหงโก-ลกออกจากสถานีหาดใหญ่นั้น เป็นทีมพนักงานที่เดินทางมาจากสถานีบางซื่อกรุงเทพฯ เพื่อปฎิบัติหน้าที่ชั่วคราวตามคำสั่งของฝ่ายบริหารการรถไฟฯ แต่หลังจากขบวนรถเคลื่อนตัวจากสถานีได้เพียง 300 เมตร รถขบวนดังกล่าวได้วิ่งฝ่าฝืนสัญญาณควบคุม ทำให้ประแจติดค้าง ส่งผลให้ขบวนรถไฟต้องหยุดทันที เนื่องจากระบบสัญญานเกิดขัดข้องไปด้วย และเกือบพุ่งชนกับขบวนรถลังกาวี-หาดใหญ่ ซึ่งจอดส่งผู้โดยสารกำลังจะเข้าเทียบชานชาลาเดียวกัน โดยทั้ง 2 ขบวนอยู่ห่างกันเพียง 200 เมตรเท่านั้น

จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทางสหภาพฯอยู่ระหว่างการรวมหลักฐานและพยานเพื่อเตรียมแจ้งความดำเนินคดีกับพนักขับรถไฟฯ และฝ่ายบริหารการรถไฟที่ออกคำสั่งให้เปิดเดินรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของผู้โดยสาร เนื่องจากหากขบวนรถดังกล่าวฝ่าสัญญาณไฟออกไปจากสถานีไปได้ ขบวนรถดังกล่าวจะพุ่งเข้าชนขบวนรถไฟสายต่างประเทศที่จอดส่งผู้โดยสารที่สถานีรถไฟหาดใหญ่ทันที

นายวิรุฬ สะแกคุ้ม ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจรถไฟแห่งประเทศไทย สาขาหาดใหญ่ กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นการทำผิดระเบียบการเดินรถอย่างร้ายแรง เพราะมีการฝ่าสัญญาณไฟแดงที่ทางหอควบคุมการเดินรถไฟได้ให้สัญญาณ เนื่องจากยังมีขบวนรถไฟจอดขวางอยู่ในรางเดียวกัน ที่สำคัญประแจรางรถไฟไม่ได้อยู่ในตำแหน่งที่จะทำให้รถไฟขบวนนี้วิ่งออกไปได้ อีกทั้งขบวนรถก็ไม่อยู่ในสภาพที่พร้อมใช้งาน เพราะระบบเบรคยังไม่สมบูรณ์และใช้พนักงานขับที่ไม่ชำนาญพื้นที่ โดยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทางผู้บริหารจะต้องรับผิดชอบ

**พนง.ขับชี้จงใจขัดขวาง

วันเดียวกันพนักงานสอบสวน สภ.หาดใหญ่ ได้เชิญตัวพนักงานของการรถไฟฯจากส่วนกลาง 13 คน ทั้งพนักงานขับและช่างเครื่องที่ถูกส่งมาขับรถไฟในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้เข้าให้การ โดยทั้ง 13 คนให้การว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นการจงใจพยายามขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของพนักงานขับรถที่ส่วนกลางส่งมาและตั้งข้อสังเกตว่ามีการจงใจที่จะไม่ให้รถไฟขบวนดังกล่าวออกจากสถานี ทั้งการปิดประแจรางรถไฟให้รถวิ่งไปอีกทางและนำขบวนรถมาขวางเส้นทางเอาไว้ ทั้งนี้เนื่องจากก่อนที่จะเปิดเดินรถได้มีการเคลียร์เส้นทางเรียบร้อยแล้ว

อย่างไรก็ตาม ในเบื้องต้นทางพนักงานสอบสวนได้ลงบันทึกคำให้การไว้เป็นหลักฐานหากทางการรถไฟฯ ในฐานะที่เป็นผู้เสียหายมาแจ้งความในภายหลังก็จะเรียกตัวผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ดังกล่าวมาทำการสอบสวนข้อเท็จจริงหากเป็นการจงใจขัดขวางก็จะดำเนินการเอาผิดกับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องต่อไป

ด้านนายสาโรจน์ สุขสำราญ พนักงานขับรถไฟขบวนที่ 463 หาดใหญ่-สุไหงโก-ลก ที่มีปัญหา กล่าวว่า ได้รับคำสั่งจากฝ่ายการช่างกลการรถไฟฯให้มาตรวจสอบความปลอดภัยการเดินรถจากสถานีหาดใหญ่ถึงสถานีสุไหงโก-ลก หลังจากที่สหภาพฯรถไฟอ้างว่าไม่ปลอดภัย

**นร.นราฯ กว่าพันหยุดเรียนตามรถไฟ

มีรายงานข่าวว่า หลังจากรถไฟหยุดวิ่งโดยเฉพาะในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้มาเป็นระยะเวลาร่วม 2 สัปดาห์ ได้ส่งผลกระทบต่อหลายฝ่ายอย่างมาก โดยเฉพาะเด็กนักเรียน พบว่า มีนักเรียนของโรงเรียนดารุสสาลาม ซึ่งเป็นโรงเรียนสอนศาสนาเอกชน ในพื้นที่ อ.ระแงะ จ.นราธิวาส ได้รับผลกระทบมานานกว่า 1 สัปดาห์แล้ว หลังจากที่โรงเรียนได้มีการเปิดการเรียนการสอนตามปกติ ทำให้นักเรียนกว่า 1,000 คนต้องหยุดการเรียนการสอนไปโดยปริยาย เนื่องจากส่วนใหญ่มีฐานะยากจน ผู้ปกครองไม่สามารถที่จะเหมารถยนต์รับ-ส่งให้บุตรหลานมาเรียนหนังสือตามปกติได้ เพราะในช่วงที่ผ่านมานักเรียนกลุ่มดังกล่าวสามารถนั่งรถไฟฟรีมาเรียนหนังสือ โดยที่ผู้ปกครองไม่ต้องแบกรับภาระค่าใช้จ่ายในส่วนนี้

นอกจากนี้ หากรถไฟยังหยุดวิ่งให้บริการแบบไม่มีกำหนดอีกต่อไป ในช่วงต้นสัปดาห์หน้า ระหว่างวันที่ 2 หรือ 3 พ.ย. 52 ที่จะถึงนี้จะมีนักเรียนอีกนับ 1,000 คนต้องได้รับความเดือดร้อนเพิ่มขึ้นอีกเป็นจำนวนทวีคูณ เนื่องจากโรงเรียนต่างๆจะทยอยเปิดการเรียนการสอนทั่วทั้งจังหวัด ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบทำให้มีนักเรียนต้องหยุดเรียนหนังสือเพิ่มเติมอีกเป็นพันๆคน แถมยังสร้างความเดือดร้อนให้กับผู้ปกครองที่ต้องแบกรับภาระอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้อีกเป็นจำนวนมาก

**นายกฯ จี้ผู้บริหารแก้ปัญหาภายใน

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงปัญหารถไฟยังหยุดเดินรถในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ว่า นายโสภณ ซารัมย์ รมว.คมนาคม ได้รายงานในคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า การเดินรถสายหลักสายยาวเป็นปกติแล้วและพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้มีปัญหาเฉพาะที่ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส ซึ่งก็หยุดเดินรถเฉพาะในพื้นที่ดังกล่าว และการตรวจสอบหัวรถจักรก็มีกรณีเดียว จึงเชื่อว่าน่าจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติในเร็วๆ นี้ ส่วนการเจรจากับสหภาพ รฟท.ยังดำเนินต่อไป แต่ขออย่าเอาเรื่องการบริการประชาชนมาเป็นเงื่อนไข

“เวลานี้หน้าที่เราให้เดินรถเต็มที่และหวังว่าจะยุติปัญหากันได้ โดยไม่ต้องให้ผมลงไปแก้ปัญหา ตอนนี้ผมว่าให้เขาทำงานกันก่อน อย่าเพิ่งไปมีเงื่อนไขอย่างนั้นอย่างนี้ให้เขาคุยกันก่อน ถ้าไม่รู้เรื่องค่อยว่ากัน แต่การบริการต้องเดินต่อตอนนี้ก็ใกล้ปกติแล้ว ส่วนกรณีที่สหภาพรัฐวิสาหกิจยื่นหนังสือขอให้นายกฯเป็นประธานแก้ไขปัญหายังไม่เห็นเรื่อง หากเขายินดีให้บริการตามปกติก็มาคุยกันได้ ”

**”โสภณ”เตรียมบรรจุ 171 นร.วิศวะรถไฟ

นายโสภณ ซารัมย์ รมว.คมนาคม เปิดเผยภายหลังการประชุม ครม.วานนี้ว่า ที่ประชุมได้มีมติเห็นชอบให้การรรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ยกเว้นการปฏิบัติตามมติ ครม.เมื่อวันที่ 28 ก.ค.2541 ที่กำหนดให้ ร.ฟ.ท.รับพนักงานเพิ่มได้ร้อยละ 5 ของพนักงานโดยอนุมัติให้ ร.ฟ.ท.บรรจุผู้จบการศึกษาจากโรงเรียนวิศวกรรมรถไฟปี 2551 เป็นพนักงาน ร.ฟ.ท.จำนวน 171 อัตรา ประกอบด้วยตำแหน่งช่างเครื่อง 12 อัตรา ตำแหน่งพนักงานสถานีและบำรุงทาง 50 อัตรา  พร้อมทั้งรับทราบสถานการณ์การหยุดเดินรถ การแก้ปัญหาเฉพาะหน้า การให้ความช่วยเหลือผู้โดยสาร และการแก้ปัญหาระยะยาว

ทั้งนี้ มติ ครม.วันที่ 28 ก.ค.2541 นั้นทำให้ ร.ฟ.ท.ฝ่านการช่างกลขาดพนักงาน 380 อัตรา (พนักงานขับรถ 209 อัตรา ช่างเครื่อง 171 อัตรา) และพนักงานเดินรถและช่างโยธา 390 อัตรา ซึ่งการหยุดเดินรถที่เกิดขึ้น ทำให้เห็นความจำเป็นที่ต้องมีพนักงานขับรถทดแทน

นายโสภณ กล่าวว่า ได้รายงานความคืบหน้ากรณีรถไฟหยุดวิ่งให้ครม.รับทราบ โดยนายกรัฐมนตรีได้ให้การบ้านเรื่องการเจรจากับสหภาพฯ ร.ฟ.ท.แต่การเจรจาจะต้องไม่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งยืนยันว่า หลักในการแก้ปัญหาของตน และ ร.ฟ.ท.นั้นไม่ต้องการเอาชนะสหภาพฯ แต่กระบวนการแก้ปัญหาต้องยึดตามเหตุผลที่ควรจะเป็น ไม่ใช่ยอมเพราะเห็นว่าประชาชนเดือดร้อน เพราะไม่เกี่ยวกัน สิ่งที่สหภาพฯขอมาถ้าจะยอมให้ได้สิ่งนั้นต้องเป็นประโยชน์ การเจรจาหรือลงนามตกลงใดๆ ขณะนี้ไม่มีจนกว่าสหภาพฯ จะกลับไปปฏิบัติหน้าที่ตามปกติก่อน

“ครม.และนายกฯบอกว่าให้ช่วยกันชี้แจงไปในทางเดียวกัน ไม่ได้พูดถึงเรื่องที่ผมและผู้ว่าฯร.ฟ.ท.จะต้องลาออกเพื่อแสดงความรับผิดชอบกับปัญหา เพราะไม่เกี่ยวกัน ยอมรับว่าปัญหานี้แก้ไขล่าช้า ซึ่งไม่ได้หมายถึงผมและผู้บริหารร.ฟ.ท.ไม่มีศักยภาพ ผมยอมถูกตำหนิว่าแก้ปัญหาล่าช้า เพราะเป็นการดำเนินการตามกฎหมายและระเบียบที่มี ไม่ได้ใช้กฎหมู่ ไม่ยอมสหภาพฯเพื่อรักษาตัวเองให้รอดแล้วหมกปัญหาเอาไว้ เพราะถ้ายอมสหภาพฯ ในอนาคตเรื่องแบบนี้ก็ต้องเกิดขึ้นอีก”นายโสภณกล่าว

**เตรียมซื้อหัวจักรใช้เงินกู้จีน

นายโสภณ กล่าวว่า จากการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนที่ผ่านมา จีนได้เสนอเงินกู้อัตราดอกเบี้ยพิเศษวงเงิน 400 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งกระทรวงคมนาคมเห็นว่าเรื่องเร่งด่วนที่มีความจำเป็นต้องใช้เงินกู้ดังกล่าวคือการจีดซื้อหัวรถจักรขั้นต่ำประมาณ 7 หัวมูลค่า 1,000-2,000 ล้านบาทเพื่อแก้ปัญหาร.ฟ.ท.โดยจะจัดซื้อแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) เนื่องจากสามารถดำเนินการได้รวดเร็วโดยหากสามารถตกลงกันได้ในปีนี้อีก 3 ปีถึงจะได้หัวรถจักรเข้ามา นอกจากนี้จีนยังแสดงความประสงค์ที่จะเชื่อมต่อระบบรางกับไทยอีกด้วย

อย่างไรก็ตาม เร็วๆ นี้จะเดินทางไปประเทศจีนพร้อมด้วยนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีเพื่อเจรจาความร่วมมือด้านระบบรางกับจีน  การซื้อหัวรถจักร และเชิญให้จีนเข้ามาลงทุนรถไฟทางคู่และรถไฟความเร็วสูงในประเทศไทย โดยจะรอให้คณะกรรมการ 4 ชุดที่กระทรวงคมนาคมตั้งขึ้นเพื่อรวบรวมข้อมูลรายละเอียดปัญหาของร.ฟ.ท. ประกอบด้วย ด้านโครงสร้างพื้นฐานด้านทรัพย์สิน ด้านกฎหมายและระเบียบข้อบังคับ และด้านบุคลากร สรุปข้อมูลให้เรียบร้อยก่อน ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาอีกประมาณ 2 สัปดาห์

**เจรจาสหภาพฯ ล่ม ตกลงกันไม่ได้

นายอิทธิพล ประภาวสิทธิ์ รองผู้ว่าฯ ร.ฟ.ท.ในฐานะประธานกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีรถไฟตกรางที่อำเภอเขาเต่า จ.ประจวบคีรีขันธ์ ได้เรียกนายสาวิทย์ แก้วหวาน ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจรถไฟแห่งประเทศไทยมาเจรจาหาข้อยุติปัญหา แต่การหารือต้องยุติกลางคันหลังเจรจาไปได้เพียง  10 นาที เนื่องจากข้อเสนอทั้ง 2 ฝ่าย ไม่สามารถตกลงกันได้

โดยฝ่ายสหภาพฯยืนยันว่า ถ้าจะเปิดเดินรถในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ผู้บริหาร ร.ฟ.ท.ต้องลงนามในบันทึกข้อตกลงว่าจะรับผิดชอบร่วมกันกับสหภาพฯ ถ้าเกิดอุบัติเหตุกับหัวรถจักร และต้องไม่เอาผิดพนักงานที่ลาหยุดเมื่อ 10 วันที่ผ่านมา แต่ผู้บริหารยังยืนยันแนวทางเดิมว่า ต้องมีการเปิดเดินรถก่อนถึงจะมาเจรจาเพื่อหาข้อสรุปในแนวทางที่เรียกร้อง ทำให้ที่ประชุมไม่สามารถหาข้อตกลงได้

**พักงาน-ไล่ออก 10 พนักงาน

รายงานข่าวแจ้งว่า กระทรวงคมนาคมและฝ่ายบริหาร ร.ฟ.ท.ตัดสินให้ลงโทษพนักงานกลุ่มที่ร่วมหยุดงานกับสหภาพฯอย่างเด็ดขาด โดยจะมีการพักงานและไล่ออกแกนนำของสหภาพฯ ร.ฟ.ท. จำนวน 10 คน ทั้งที่หาดใหญ่และส่วนกลางในข้อหาประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง เนื่องจากขัดคำสั่งศาลที่มีคำสั่งคุ้มครองไม่ให้ขัดขวางการเดินรถให้บริการแก่ประชาชน ขณะเดียวกันการยุยงให้มีการหยุดงาน สร้างความเสียหายให้แก่ ร.ฟ.ท. อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ร.ฟ.ท.มียอดความเสียหายจากการสูญรายได้ทั้งการโดยสารและขนส่งสินค้าแล้วกว่า 70 ล้านบาท

นายยุทธนา ทัพเจริญ ผู้ว่าการฯร.ฟ.ท. ยืนยันว่าหัวรถจักทั้ง 15 คันมีความพร้อม 100% แต่ยอมรับ ยังไม่สามารถเดินรถได้ทั้งหมด ในส่วนขบวนรถท้องถิ่น  อย่างไรก็ตาม ฝ่ายบริหาร ร.ฟ.ท.จะพยายามแก้ปัญหา เพื่อให้พื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้กลับมาเดินรถได้ทั้งหมดโดยเร็ว ส่วนการช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือนร้อนนั้น นายชัยรัตน์ สงวนชื่อ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก(ขบ.)  ได้สั่งให้ขนส่งจังหวัดเตรียมจัดรถโดยสารให้ความช่วยเหลือ

แหล่งข่าวจากกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า สาเหตุที่รถไฟตกรางที่สถานีเขาเต่า อ.หัวหิน เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมาจนทำให้มีผู้เสียชีวิตถึง 7 รายได้จากรายงานของ ร.ฟ.ท. รถไฟฯ พบว่าพนักงานขับรถ และช่างเครื่องอาจจะมีอาการเมาสุราและเกิดหลับใน นอกจากนี้ยังพบว่า ช่างเครื่องมีอาการหูดับอีกด้วย อย่างไรก็ตาม เรื่องดังกล่าวนั้นฝ่ายบริหารทราบดี แต่ไม่กล้าที่จะเปิดเผย เนื่องจากกลัวว่าจะเสียภาพลักษณ์ และขาดความเชื่อมั่นขององค์กรที่เอาพนักงานที่อยู่ในอาการเมาขึ้นมาขับรถ

**สหภาพฯ แจง กก.สิทธิฯ ถูกละเมิด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะอนุกรรมการสิทธิมนุษยชนว่าด้วยสิทธิพลเมือง และสิทธิทางการเมือง คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ซึ่งมี น.พ.นิรันดร์ พิทักษ์วัชระ กรรมการสิทธิฯ เป็นประธาน ได้ประชุมรับฟังคำชี้แจงของสหภาพแรงงานการรถไฟ กรณีที่สหภาพฯร้องเรียนว่าถูกละเมิดสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง โดยมีนางสุนันทา สว่างแก้ว และนายอรุณ ลีรักชาติ ตัวแทนสหภาพฯเป็นผู้เข้าชี้แจง โดยนางสุนันทา ชี้แจงว่า วันนี้สหภาพฯรถไฟที่สถานีรถไฟหาดใหญ่ได้อยู่ในที่ตั้ง แต่อีกฝั่งกลับมีทั้งตำรวจ ทหารและอาวุธ อีกทั้งยังสร้างภาพให้เราเป็นผู้ก่อการร้าย อาชญากร และยืนยันว่าสหภาพฯไม่เคยยึดหัวรถจักรแต่อย่างใด

ขณะที่นายอรุณ ชี้แจงการไม่เดินรถว่า เกิดจากกรณีอุบัติเหตุรถไฟตกรางที่สถานีฯ เขาเต่า แต่กลับมีการลงโทษพนักงานเท่านั้น ทั้งๆ ที่จากผลการสอบสวนยืนยันว่าอุปกรณ์ป้องกันความปลอดภัยไม่สามารถใช้งานได้ หรือแม้ว่าพนักงานจะวูบจริง แต่หากอุปกรณ์ใช้การได้ รถไฟจะถูกเบรกภายในสองนาที
กำลังโหลดความคิดเห็น