xs
xsm
sm
md
lg

ฮุนเซน..เอ็งแน่มั๊กมาก!

เผยแพร่:   โดย: ชัชวาลย์ ชาติสุทธิชัย

ฮุนเซน-เป็นคนเขมรที่รู้กึ๋นผู้นำและนักการเมืองชั่วบางคนในชาติไทยโดยแท้!

สภาพผู้คนสังคมไทยในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข มีจุดอ่อนมากมายทั้งในเมืองและชนบท

โดยเฉพาะปัญหาทางเศรษฐกิจที่ไม่สมดุล มีปัญหาช่องว่างระหว่างคนรวยและคนจน ปัญหาสื่อมวลชนไทยไร้คุณภาพ-คุณธรรม-มโนธรรม-จริยธรรม และต้องทำธุรกิจสื่อแบบพึ่งพิงกลุ่มทุน ปัญหาอิทธิพลท้องถิ่นที่ทำธุรกิจสีเทาและสีดำ ฯลฯ

ทำให้นักการเมืองชั่วใช้จุดอ่อนเหล่านั้น สร้างวงจรอุบาทว์ขึ้นในชาติอย่างค่อนข้างถาวร ด้วยการโกงและซื้อเสียงเอาชนะนักการเมืองน้ำดี เข้าสู่สภาและขึ้นกุมอำนาจบริหารบ้านเมือง ด้วยการคอร์รัปชันโกงกินกันอย่างต่อเนื่อง

ดังนั้น...ผู้นำและนักการเมืองชั่วบางคน จึงพร้อมทรยศชาติ-ขายชาติ ขอเพียงพอใจในผลประโยชน์ส่วนตนและพรรคพวกเท่านั้น!

ผู้นำชาติต่างๆ ในโลกและผู้นำชาติบริเวณชายขอบประเทศไทย จึงรู้ว่า..หากอยากได้อะไรในชาติไทย ต้องใช้กลยุทธ์ซื้อผู้นำและนักการเมืองชั่วของไทยก่อน ด้วยการให้ผลประโยชน์งุบงิบเป็นการส่วนตน กับพวกผู้นำและนักการเมืองชั่วของไทยไงล่ะครับ

ฮุนเซน..รู้กฎข้อนี้เป็นอย่างดี และใช้กฎข้อนี้ได้อย่างชาญฉลาดมีประสิทธิภาพ เพราะฮุนเซนก็เป็นคนชนิดเดียวกันกับผู้นำ และนักการเมืองชั่วไทยนั่นเอง

ฮุนเซน..รู้ว่าคนทรยศและขายชาตินั้น ไม่มีวันที่จะรักใครจริง ยกเว้นเอาผลประโยชน์ซื้อคนเหล่านั้นครับ

ดังนั้นจึงอย่าแปลกใจ..ที่ฮุนเซน-ทักษิณ-ชวลิต และนักการเมืองไทยอีกหลายคน เคยทะเลาะกันอย่างเอาเป็นเอาตาย ถึงขนาดตายไม่เผา-เงาไม่เหยียบ หรือบางครั้งถึงขนาดตามล่าฆ่ากันมาแล้ว แต่วันดีคืนดีพอผลประโยชน์โคจรมาตรงกัน คนเหล่านี้ก็กลับจูบปากกันได้อย่างไม่อายผีสางเทวดา ชนิดคอการเมืองที่เก๋าเกมยัง “หน้าแตก” มาแล้ว

กรณี ฮุนเซน กับ “คนหน้าเหลี่ยม” เป็นตัวอย่างการเมืองที่คลาสสิก เพราะตอนนั้น..ฮุนเซนกับ “คนหน้าเหลี่ยม” ไม่กินเส้นกัน ดังนั้น..ความยิ่งใหญ่ของฮุนเซนจึงมีโอกาสจะส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อธุรกิจของ “คนหน้าเหลี่ยม” ในด้านลบ

นั่นทำให้ “คนหน้าเหลี่ยม” กับพลพรรคตัดสินใจร่วมกับผู้นำเขมรฝ่ายตรงข้ามกับฮุนเซน ก่อการรัฐประหารข้ามชาติขึ้นไงล่ะครับ

แต่รัฐประหารครานั้น..ล้มเหลว ฮุนเซนจับคนไทยไปคุมขังกว่า 30 กว่าคน และยังตามล่าตามจับคนของ “คนหน้าเหลี่ยม” อย่างเอาเป็นเอาตาย จนหลายคนต้องหลบหนีจากกัมพูชาชนิดเลือดตาแทบกระเด็น กว่าจะข้ามกลับมายังผืนแผ่นดินไทยได้

ทว่า..เมื่อ “คนหน้าเหลี่ยม” ขึ้นเถลิงอำนาจในชาติไทย ก็ใช้ตำรา “โจรย่อมเข้าใจในโจร” คนชั่วย่อมเข้าใจความต้องการของคนชั่วด้วยกัน “ฮุนเซน” และ “คนหน้าเหลี่ยม” ได้ใช้ผลประโยชน์ทั้งลับและเปิดเผย เป็น “กาว” เชื่อม “มิตรภาพ” ครั้งใหม่จนสำเร็จ

ทว่า..ฮุนเซนนั้นชาญฉลาดกว่า รู้ว่าคนโลภมากในฝั่งไทยเห็นแก่เงินจนไม่สนใจความถูกผิด ดังนั้น..ฮุนเซนจึงใช้น้ำมันในพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลของไทย-กัมพูชา ที่ธนาคารโลกประมาณการว่ามีมูลค่ากว่า 5 ล้านล้านบาท มาเป็นเหยื่อก้อนโต “ล่อตะเข้หน้าเหลี่ยม”

ได้ผลครับ...ตัวเลขเงินมากมายขนาดนี้ ทำให้ “ท่านผู้นำหน้าเหลี่ยม” ตาโตเป็นไข่ห่านทันที จนถึงกับดีดลูกคิดรางแก้วว่า หากตนได้ผลประโยชน์ก้อนนี้เข้ากระเป๋า ก็จะรวยติดอันดับโลกในระดับต้นๆ อย่างแน่นอน

คนเค็มชนิด “มหาสมุทรเรียกพ่อ” อย่างฮุนเซน และ “คนหน้าเหลี่ยม” ต่างรู้อยู่แก่ใจว่า โลกนี้ไม่มีอะไรได้มาแบบฟรีๆ ส่วนใครจะได้มากกว่าใครนั้น เป็นเรื่องของคนสองคนจะต้องตกลงกันแบบลับๆ ล่อๆ คนอื่นไม่เกี่ยวนะจะบอกให้..จริงไหม?

“กระจอกข่าววงใน” กระซิบบอกว่า ครั้งนั้น..ผลการตกลงร่วมมือกันแบบลับๆ ก็คือ ฮุนเซนชูประเด็นฮ็อตตรงใจชาวกัมพูชา ด้วยการหาเสียงเลือกตั้งเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้งหนึ่ง โดยทึกทักว่าดินแดนบริเวณโดยรอบปราสาทพระวิหารเป็นของกัมพูชา และประกาศจะเอาผืนดินเหล่านั้นคืนจากประเทศไทย!

แน่นอน...“คนหน้าเหลี่ยม” ในฐานะผู้นำชาติไทย จึงร่วมแผนสานฝันฮุนเซนให้เป็นจริงในสายตาของชาวกัมพูชา ด้วยการแอบขยิบตาปล่อยให้ทหารเขมร ยกพลเข้ามายึดยอดเขาบางลูก ตั้งวัดและหมู่บ้านในผืนแผ่นดินไทย โดยทหารไทยที่รักษาพื้นที่แถบนั้น..วางเฉยเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ตามนโยบายรัฐบาลไทยใจเขมรไงล่ะครับ

นอกจากนั้นรัฐบาล “คนหน้าเหลี่ยม” และรัฐบาลนอมินีของเขา ยังให้รัฐมนตรีต่างประเทศเดินทางไปเซ็นรับรองเอกสาร ยอมให้รัฐบาลเขมรยื่นขอให้เขาพระวิหาร และพื้นที่บริเวณโดยรอบของไทยขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกแต่เพียงฝ่ายเดียว รวมทั้งยังไปยอมรับแผนที่อัตราส่วน 1 ต่อ 2 แสนของกัมพูชา ที่ยื่นต่อยูเนสโกอีกด้วย

เรียกว่า..แผนรู้เห็นเป็นใจและขายชาติ ยกที่ดินรอบปราสาทพระวิหารให้ฮุนเซนในครั้งนี้ ผู้นำและนักการเมืองชั่วไทยบางคน กระทำเพียงเพื่อแลกกับการได้เงินทองจากผลประโยชน์ทางด้านน้ำมัน ในทะเลที่ทับซ้อนระหว่างไทยและกัมพูชา ของคนไม่กี่คนเท่านั้นเองครับ

ที่น่าเสียใจก็คือ รัฐบาลอภิสิทธิ์ที่บงการโดย นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ยังไปต่อยอดเอื้อประโยชน์ให้ฮุนเซนและ “คนหน้าเหลี่ยม” อีก ด้วยการปล่อยให้ทหารเขมรยังคงยึดครองดินแดนไทยดังเดิม ซึ่งทำให้อธิปไตยของชาติเสียหายอย่างไม่รับผิดชอบ

อย่างไรก็ตาม..ฮุนเซนประเมินแล้วว่า รัฐบาลอภิสิทธิ์ที่ฮุนเซนครอบงำต่อรองไม่ได้ หากปล่อยให้อยู่ต่อไปอย่างมั่นคง..ย่อมไม่เป็นประโยชน์ต่อกัมพูชาเท่าที่ควร การสนับสนุน “คนหน้าเหลี่ยม” แบบสุดลิ่มทิ่มประตูจึงเกิดขึ้น เพราะฮุนเซนได้ “แทงหวยเถื่อน” อย่างมั่นใจแล้วว่า

รัฐบาลอภิสิทธิ์กำลังจะไป..รัฐบาลทักษิณชักใยกำลังจะมา!

ก็แหม..ฮุนเซนเองได้รับรายงานทั้งลับและเปิดเผย ทั้งจากสายลับเขมรและคนไทยขายชาติที่เป็นหนอนบ่อนไส้ว่า รัฐบาลอภิสิทธิ์นั้นไร้ทั้งขนมจีนน้ำยา บริหารชาติแบบอ่อนแอหน่อมแน้ม ถูกทักษิณและคนเสื้อแดงเขย่าเก้าอี้อย่างต่อเนื่อง จนสภาพรัฐบาล “คนรูปหล่อ” อยู่ในอาการลูกผีลูกคนจนจะล้มมิล้มแหล่แล้วครับ

แถมสภาพการเมืองไทยตอนนี้..ก็ไม่ต่างจากในอดีต เงิน-ยังคงเป็น “พระเจ้า” ของการหาเสียงเลือกตั้งเหมือนเดิม

เรียกว่า..ใครมีเงินก็ซื้อเสียงประชาชนในชนบทได้อย่างเป็นกอบเป็นกำ ใครมีเงินก็รอดพ้น จาก “ใบเหลือง-ใบแดง” ได้ ใครมีเงินก็ซื้อตำแหน่ง ส.ส.ได้ ใครมีเงินก็ซื้อตำแหน่งรัฐมนตรีได้ ใครมีเงินมากหน่อย..ก็ซื้อตำแหน่งเป็นนายกรัฐมนตรีได้

ที่สำคัญ..ใครมีเงินก็ซื้อประเทศไทยไว้ในกำมือได้ขอรับกระผม!
ดังนั้นฮุนเซนจึงเชื่อมั่นว่า..หากมีการเลือกตั้งในประเทศไทยเมื่อไหร่ ทักษิณจะต้องชนะอย่างท่วมท้น แน่นอน..รัฐบาลที่บงการโดยทักษิณ จะต้องเอื้อประโยชน์ทั้งต่อชาติกัมพูชา และต่อตัวฮุนเซนเองอย่างมหาศาล

ยิ่ง “คนตัวจิ๋ว” หอบผ้าผ่อนไปอยู่กับพรรค “คนหน้าเหลี่ยม” ฮุนเซนก็ยิ่งสุขใจกับการหนุนนักโทษชาย “หน้าเหลี่ยม” ไปพร้อมๆ กับการล้มล้างรัฐบาลอภิสิทธิ์ เพราะฮุนเซนเป็นนายกรัฐมนตรีที่มีอำนาจล้นเหลือในวันนี้ได้ ก็ด้วย “คนตัวจิ๋ว” สนับสนุนหนุนหลังฮุนเซน ทั้งลับและเปิดเผยมาโดยตลอดนั่นเอง

ฝนตกขี้หมูไหล-คนจัญไรมาพบกัน ร่วมมือ-ร่วมรบ-ร่วมล้มรัฐบาลอภิสิทธิ์ และยึดอำนาจรัฐคืนให้กับ “คนหน้าเหลียม” จึงเป็นความร่วมมือของคนชั่วอย่าง “พระยาละแวก” กับ “พระยาจักรี” ผู้ขายชาติและเป็นไส้ศึกให้เขมร รวมทั้งอดีตผู้นำโลภมากไม่รู้จักพออย่าง “คนหน้าเหลี่ยม” ไงล่ะครับ

หลังคนเหล่านี้เจอกัน..ฮุนเซนก็สวมวิญญาณคนเสื้อแดง บุกมาด่าและให้ร้ายป้ายสีชาติไทยอย่างเสียๆ หายๆ ถึงที่ประชุมอาเซียนที่โรงแรมดุสิตธานีอำเภอหัวหินทันที

โดยรัฐบาลอภิสิทธิ์ทำได้เพียงแค่ตอบโต้ฮุนเซนอย่างอ่อนแอ-หน่อมแน้ม ไม่มีมาตรการตอบโต้ในฐานะรัฐต่อรัฐพึงกระทำอย่างสมน้ำสมเนื้อและเหมาะสมเลย

ต้องยอมรับว่า..ฮุนเซนนายแน่มั๊กมาก นายฉลาดว่ะ..ที่ได้แผ่นดินไทยรอบปราสาทพระวิหาร 4.6 ตารางกิโลเมตรไงล่ะ แถมการที่รัฐบาลขายชาติไทยยอมรับแผนที่มาตราส่วน 1 ต่อ 2 แสน ยังทำให้ชาติเขมรจะได้ผืนดินไทยอีกนับแสนๆ ตารางกิโลเมตร ตามขอบรอบชายแดนไทย-เขมรอีกด้วย

เรื่องจิ๊บๆ ที่ฮุนเซนประกาศไม่ยอมส่งตัว นักโทษชายทักษิณให้กับรัฐบาลไทย อีกทั้งจะยกที่ดินและปลูกบ้านหรูให้ทักษิณ ได้อยู่อาศัยในผืนดินกัมพูชาอีกหนึ่งหลัง..เฮ้อ..คุ้มแสนคุ้ม

อ้อ..ฮุนเซน..นายอย่าลืมตอบแทนชายไทยใจเขมร ที่มีร่างดำปานหมีควายและเถือกเถาเหล่ากออยู่แถวภาคใต้ และเป็นนายกฯ ตัวจริงของชาติไทยในขณะนี้ คุณรู้ไหมฮุนเซน..นายคนนี้กับพรรคพวกน่ะ รับใช้ท่านฮุนเซนอย่างซื่อสัตย์ เช่นเดียวกับ “พระยาจักรี-ตัวจิ๋ว” ชนิดไม่ขาดตกบกพร่องเช่นกัน

ปลูกบ้านเพิ่มให้คนพวกนี้อีกคนละหลังได้ไหม? เพราะพวกนี้อาจไม่มีแผ่นดินอยู่เช่นเดียวกับ “คนหน้าเหลี่ยม” นะ..ฮุนเซน..ฮ่าฮ่าฮ่า...
ฮุนเซนรู้ใจคนไทยใจเขมรแบบ “คนหน้าเหลี่ยม” “พระยาจักรี-ตัวจิ๋ว” และ “พระยาขายชาติปักษ์ใต้” อย่างถึงกึ๋นเช่นนี้..ต้องยอมรับนะว่า..ฮุนเซน..เอ็งแน่มั๊กมาก!!!
กำลังโหลดความคิดเห็น