xs
xsm
sm
md
lg

ทอท.ทวนแผนการลงทุน8หมื่นล.หลังศก.ชะลอตัว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน- ทอท.เตรียมทบทวนตัวเลขการลงทุน 8หมื่นล้านบาทใน 5ปีข้างหน้าใหม่ คาดจะสามารถลดวงเงินลงทุนได้เนื่องจากเศรษฐกิจชะลอตัวฉุดค่าวัสดุ-ก่อสร้างลง เผยแนวโน้มผู้โดยสารระหว่างประเทศเพิ่มขึ้นในช่วงก.ย.-ต.ค.เติบโต 10% มั่นใจปีหน้าแจ่มใสหากไม่มีเหตุการณ์เหนือความคาดหมาย

นายเสรีรัตน์ ประสุตานนท์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน)หรือทอท. เปิดเผยว่า ขณะนี้บริษัทฯอยู่ระหว่างการทบทวนการลงทุน 5 ปี (2553-2557)จากเดิมวงเงินลงทุน 8 หมื่นล้านบาท คาดว่าจะสามารถลดวงเงินลงทุนลงได้ เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวทำให้ค่าวัสดุก่อสร้างและการก่อสร้างปรับลดลงได้ ซึ่งจะได้ข้อสรุปในเดือนพ.ย.นี้

ทั้งนี้แผนการลงทุน 5 ปีของทอท. ประกอบด้วย โครงการส่วนขยายอาคารผู้โดยสารในประเทศที่สนามบินสุวรรณภูมิ โครงการส่วนขยายอาคารผู้โดยสารที่สนามบินภูเก็ต โครงการรันเวย์ 3และอาคารเทียบเครื่องบิน เป็นต้น ซึ่งโครงการลงทุนเหล่านี้จะทำให้สนามบินสุวรรณภูมิมีศักยภาพในการรองรับผู้โดยสารเพิ่มขึ้นจาก 45 ล้านคนในปัจจุบันเป็น 80 ล้านคนได้ภายในปี 2558

นายเสรีรัตน์ กล่าวต่อไปว่า ในปี 2553 บริษัทฯมีแผนลงทุนโครงการขยายอาคารผู้โดยสารในประเทศที่สนามบินสุวรรณภูมิ ใช้เงินลงทุน6 พันล้านบาท รองรับผู้โดยสารเพิ่มขึ้นจาก 45 ล้านคนเป็น65 ล้านคน และโครงการส่วนขยายอาคารผู้โดยสารที่สนามบินภูเก็ต ใช้เงินลงทุน 5,790 ล้านบาท รองรับผู้โดยสารเพิ่มขึ้นจาก 6 ล้านคนเป็น 12 ล้านคน คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างในปลายปีนี้ แล้วเสร็จในปี 2556 ซึ่งแหล่งเงินทุนจะมาจากการดำเนินงานของบริษัทฯที่ปัจจุบันมีกระแสเงินสดกว่าหมื่นล้านบาท โดยในช่วงปีแรกจะใช้เงินลงทุนไม่มาก เพราะส่วนใหญ่เป็นค่าใช้จ่ายด้านการออกแบบ

“ในปี 2553 บริษัทฯจะไม่ใช้เงินลงทุนมากนัก เพราะอยู่ในช่วงออกแบบ แต่มีโครงการลงทุนค่อนข้างมาก เพื่อรองรับจำนวนผู้โดยสารที่จะเพิ่มขึ้นจาก45 ล้านคนเป็น 80 ล้านคนในปี 2558 ซึ่งปัจจุบันมีจำนวนผู้โดยสารอยู่ที่ 40 ล้านคน”

สำหรับผลประกอบการในปี 52 ไม่ดีสำหรับธุรกิจการบินเมื่อเทียบจากปีก่อน เป็นไปตามภาวะธุรกิจการบินทั่วโลกที่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว แต่ในช่วงเดือนก.ย.-ต.ค.นี้พบว่าจำนวนผู้โดยสารระหว่างประเทศเริ่มดีขึ้น โดยขยายตัวเพิ่มขึ้น10%เมื่อเทียบจากปีก่อน โดยช่วงเวลาที่เหลืออีก 2 เดือนของปีนี้น่าจะดีขึ้นเพราะเป็นช่วงไฮซีซัน และในปีหน้า คาดว่าจะดีกว่าปีนี้หากไม่มีเหตุการณนอกเหนือความคาดหมาย
กำลังโหลดความคิดเห็น