ASTVผู้จัดการรายวัน-“ปิยะพันธ์”เร่งทอท.สรุปแผนสร้างอาคารผู้โดยสารภายในประเทศ และรันเวย์ที่ 3 สนามบินสุวรรณภูมิ ชงบอร์ดในเดือนมิ.ย.นี้ ชี้ต้องเร่งเดินหน้า หวั่นล่าช้าจะไม่ทันกับการเติบโตของจำนวนผู้โดยสาร ด้านทอท. เผยอยู่ระหว่างทำแผนการลงทุนด้านการเงิน
นายปิยะพันธ์ จัมปาสุต ประธานคณะกรรมการบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้เร่งรัดให้ฝ่ายบริหารทอท. รวบรวมรายละเอียดแผนการก่อสร้างอาคารผู้โดยสารภายในประเทศ และทางวิ่ง (รันเวย์) ที่ 3 เพื่อขยายขีดความสามารถในการรองรับผู้โดยสารของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ วงเงิน ประมาณ 10,000 ล้านบาท และให้รายงานต่อที่ประชุมบอร์ดทอท.ภายในเดือน มิ.ย.นี้ เนื่องจากมีความจำเป็นต้องเร่งดำเนินการก่อสร้างรองรับจำนวนผู้โดยสารที่มีปริมาณเพิ่มขึ้นในอนาคต
ทั้งนี้ บอร์ดทอท. ได้เห็นชอบถึงความจำเป็นของแผนดังกล่าว ตั้งแต่วันที่ 26 มี.ค.2552 โดยเห็นว่า ทอท. มีความจำเป็นที่ต้องดำเนินการก่อสร้าง เนื่องจากขณะนี้จำนวนผู้โดยสารที่สนามบินสุวรรณภูมิมีอยู่ประมาณ 42 ล้านคนต่อปี ซึ่งใกล้ถึงขีดความสามารถในการรองรับจำนวนผู้โดยสารที่ประมาณ 45 ล้านคนต่อปีแล้ว โดยจากประมาณการเติบโตของผู้โดยสารเฉลี่ยในปี 2553 คาดว่าจำนวนผู้โดยสารจะเพิ่มขึ้นประมาณ 3-4% จากปี 2552 ซึ่งเป็นอัตราการเติบโตที่ลดลงจากภาวะเศรษฐกิจถดถอย โดยภาวะปกติการเติบโตของผู้โดยสารจะเฉลี่ยประมาณ 6-7% ต่อปี
“ขณะนี้จำนวนผู้โดยสาร 43 ล้านคนต่อปี ขณะที่ขีดความสามารถสามารถรองรับได้สูงสุดเพียง 45 ล้านคนต่อปี ซึ่งแม้จะมีปัญหาภาวะเศรษฐกิจโลก และโรคไข้หวัดใหญ่ 2009 เกิดขึ้นและทำให้จำนวนผู้โดยสารมีจำนวนน้อยลงบ้าง แต่ในทางกลับกันถ้าไม่มีปัญหาเหล่านี้ สุวรรณภูมิผู้โดยสารเกิน 45 ล้านคนไปแล้ว ดังนั้น แผนการก่อสร้างอาคารผู้โดยสาร และรันเวย์ที่ 3 จำเป็นที่จะต้องเร่งสร้างอย่างรวดเร็ว”นายปิยะพันธ์ กล่าว
สำหรับแผนการก่อสร้างอาคารผู้โดยสารภายในประเทศนั้น จะสามารถดำเนินการก่อสร้างได้ในเวลาประมาณ 3 ปี สามารถเพิ่มขีดความสามารถในการรองรับผู้โดยสารได้อีก 10-15 ล้านคนต่อปี ซึ่งจะทันกับการเติบโตของผู้โดยสาร หากเริ่มโครงการในปี 2553 จะแล้วเสร็จในปี 2557 ทำให้สนามบินสุวรรณภูมิมีขีดความสามารถรองรับผู้โดยสารเพิ่มเป็น 60 ล้านคนต่อปี
นายสมชัย สวัสดีผล รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ (สายงานวิศวกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศ) รักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ทอท. กล่าวว่า ขณะนี้แผนดังกล่าวอยู่ระหว่างการจัดทำงบประมาณ เพื่อเสนอต่อคณะอนุกรรมการการเงินและการลงทุนของทอท.เพื่อพิจารณา ก่อนเสนอต่อบอร์ดทอท.เพื่อเห็นชอบ และจะต้องเสนอสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) และที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อขออนุมัติโครงการ
“โครงการดังกล่าวจำเป็นที่ต้องเร่งดำเนินอย่างรวดเร็ว แต่เนื่องจากต้องผ่านการพิจารณาจากหลายฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ทั้ง คณะอนุฯ การเงิน ,บอร์ดทอท., สศช., และครม. ซึ่งต้องใช้เวลาค่อนข้างมาก ดังนั้น หากไม่เร่งดำเนินการอาจไม่ทันต่อการเติบโตของจำนวนผู้โดยสารได้ “นายสมชัยกล่าว
นายปิยะพันธ์ จัมปาสุต ประธานคณะกรรมการบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้เร่งรัดให้ฝ่ายบริหารทอท. รวบรวมรายละเอียดแผนการก่อสร้างอาคารผู้โดยสารภายในประเทศ และทางวิ่ง (รันเวย์) ที่ 3 เพื่อขยายขีดความสามารถในการรองรับผู้โดยสารของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ วงเงิน ประมาณ 10,000 ล้านบาท และให้รายงานต่อที่ประชุมบอร์ดทอท.ภายในเดือน มิ.ย.นี้ เนื่องจากมีความจำเป็นต้องเร่งดำเนินการก่อสร้างรองรับจำนวนผู้โดยสารที่มีปริมาณเพิ่มขึ้นในอนาคต
ทั้งนี้ บอร์ดทอท. ได้เห็นชอบถึงความจำเป็นของแผนดังกล่าว ตั้งแต่วันที่ 26 มี.ค.2552 โดยเห็นว่า ทอท. มีความจำเป็นที่ต้องดำเนินการก่อสร้าง เนื่องจากขณะนี้จำนวนผู้โดยสารที่สนามบินสุวรรณภูมิมีอยู่ประมาณ 42 ล้านคนต่อปี ซึ่งใกล้ถึงขีดความสามารถในการรองรับจำนวนผู้โดยสารที่ประมาณ 45 ล้านคนต่อปีแล้ว โดยจากประมาณการเติบโตของผู้โดยสารเฉลี่ยในปี 2553 คาดว่าจำนวนผู้โดยสารจะเพิ่มขึ้นประมาณ 3-4% จากปี 2552 ซึ่งเป็นอัตราการเติบโตที่ลดลงจากภาวะเศรษฐกิจถดถอย โดยภาวะปกติการเติบโตของผู้โดยสารจะเฉลี่ยประมาณ 6-7% ต่อปี
“ขณะนี้จำนวนผู้โดยสาร 43 ล้านคนต่อปี ขณะที่ขีดความสามารถสามารถรองรับได้สูงสุดเพียง 45 ล้านคนต่อปี ซึ่งแม้จะมีปัญหาภาวะเศรษฐกิจโลก และโรคไข้หวัดใหญ่ 2009 เกิดขึ้นและทำให้จำนวนผู้โดยสารมีจำนวนน้อยลงบ้าง แต่ในทางกลับกันถ้าไม่มีปัญหาเหล่านี้ สุวรรณภูมิผู้โดยสารเกิน 45 ล้านคนไปแล้ว ดังนั้น แผนการก่อสร้างอาคารผู้โดยสาร และรันเวย์ที่ 3 จำเป็นที่จะต้องเร่งสร้างอย่างรวดเร็ว”นายปิยะพันธ์ กล่าว
สำหรับแผนการก่อสร้างอาคารผู้โดยสารภายในประเทศนั้น จะสามารถดำเนินการก่อสร้างได้ในเวลาประมาณ 3 ปี สามารถเพิ่มขีดความสามารถในการรองรับผู้โดยสารได้อีก 10-15 ล้านคนต่อปี ซึ่งจะทันกับการเติบโตของผู้โดยสาร หากเริ่มโครงการในปี 2553 จะแล้วเสร็จในปี 2557 ทำให้สนามบินสุวรรณภูมิมีขีดความสามารถรองรับผู้โดยสารเพิ่มเป็น 60 ล้านคนต่อปี
นายสมชัย สวัสดีผล รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ (สายงานวิศวกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศ) รักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ทอท. กล่าวว่า ขณะนี้แผนดังกล่าวอยู่ระหว่างการจัดทำงบประมาณ เพื่อเสนอต่อคณะอนุกรรมการการเงินและการลงทุนของทอท.เพื่อพิจารณา ก่อนเสนอต่อบอร์ดทอท.เพื่อเห็นชอบ และจะต้องเสนอสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) และที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อขออนุมัติโครงการ
“โครงการดังกล่าวจำเป็นที่ต้องเร่งดำเนินอย่างรวดเร็ว แต่เนื่องจากต้องผ่านการพิจารณาจากหลายฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ทั้ง คณะอนุฯ การเงิน ,บอร์ดทอท., สศช., และครม. ซึ่งต้องใช้เวลาค่อนข้างมาก ดังนั้น หากไม่เร่งดำเนินการอาจไม่ทันต่อการเติบโตของจำนวนผู้โดยสารได้ “นายสมชัยกล่าว