นางสาวโสภาวดี เลิศมนัสชัย รองผู้จัดการ สายงานการตลาดและงานบริการหลังการซื้อขายหลักทรัพย์ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า "ตลาดหลักทรัพย์ฯ ร่วมกับบริษัทหลักทรัพย์ไทยพาณิชย์จำกัด และบริษัทหลักทรัพย์ ซิตี้คอร์ป (ประเทศไทย) จำกัด จัดโรดโชว์ "Economic Recovery/ Domestic play" ขึ้นระหว่าง 27-28 ตุลาคม 2552 นี้ ที่สิงคโปร์ ซึ่งถือเป็นการเดินทางไป
โรดโชว์ครั้งที่ 6 ในรอบปี ซึ่งตลาดหลักทรัพย์ฯ คาดว่าจะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้ลงทุนสถาบันในสิงคโปร์ เนื่องจาก
โรดโชว์ครั้งนี้ มีบริษัทจดทะเบียนชั้นนำร่วมเดินทางไปให้ข้อมูลถึง 17 บริษัท ซึ่งแต่ละบริษัทล้วนเป็นบริษัทที่แข็งแกร่ง มีปัจจัยพื้นฐานที่ดีและเป็นที่สนใจของผู้ลงทุน"
โดย 17 บริษัทที่ร่วมเดินทางให้ข้อมูลแก่ผู้ลงทุนสถาบันที่สิงคโปร์ เป็นบริษัทขนาดกลางถึงขนาดใหญ่จาก 7 อุตสาหกรรมโดยมีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดรวมกันกว่า 1.8 ล้านล้านบาท คิดเป็น 31% ของมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดรวม (ณ วันที่ 22 ต.ค. 2552) ประกอบด้วย บมจ. เจริญโภคภัณฑ์อาหาร (CPF) ,บมจ. ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล (MINT) ,บมจ. แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (ADVANC) บมจ. ปตท. (PTT) , บมจ.ไทยออยล์ (TOP) ,บมจ. ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) , บมจ. ทิสโก้ไฟแนนเชียล กรุ๊ป (TISCO) , บมจ. บีอีซี เวิลด์ (BEC), บมจ. กรุงเทพดุสิตเวชการ (BGH) ,บมจ. ดิ เอราวัณ กรุ๊ป (ERAWAN) ,บมจ. โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ (HMPRO), บมจ. อสมท (MCOT) ,บมจ. การบินไทย (THAI) ,บมจ. ปตท.เคมิคอล (PTTCH) ,บมจ. พฤกษา เรียลเอสเตท (PS) ,บมจ.ไท คอน อินดัสเทรียล คอนเน็คชั่น (TICON) และบมจ. แสนสิริ (SIRI)
ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะนำเสนอข้อมูลภาพรวมเศรษฐกิจและการลงทุนในตลาดทุนไทย รวมถึงผลิตภัณฑ์ทางการเงินใหม่ ๆ ขณะที่บริษัทจดทะเบียนไทยจะมีโอกาสได้พบปะกับผู้ลงทุน และให้ข้อมูลเกี่ยวกับผลการดำเนินงานโดยตรง ซึ่งจะช่วยสร้างความเชื่อมั่นและสร้างสัมพันธ์ที่ดีระหว่างบริษัทจดทะเบียนไทยและผู้ลงทุนต่างประเทศ
โรดโชว์ครั้งที่ 6 ในรอบปี ซึ่งตลาดหลักทรัพย์ฯ คาดว่าจะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้ลงทุนสถาบันในสิงคโปร์ เนื่องจาก
โรดโชว์ครั้งนี้ มีบริษัทจดทะเบียนชั้นนำร่วมเดินทางไปให้ข้อมูลถึง 17 บริษัท ซึ่งแต่ละบริษัทล้วนเป็นบริษัทที่แข็งแกร่ง มีปัจจัยพื้นฐานที่ดีและเป็นที่สนใจของผู้ลงทุน"
โดย 17 บริษัทที่ร่วมเดินทางให้ข้อมูลแก่ผู้ลงทุนสถาบันที่สิงคโปร์ เป็นบริษัทขนาดกลางถึงขนาดใหญ่จาก 7 อุตสาหกรรมโดยมีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดรวมกันกว่า 1.8 ล้านล้านบาท คิดเป็น 31% ของมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดรวม (ณ วันที่ 22 ต.ค. 2552) ประกอบด้วย บมจ. เจริญโภคภัณฑ์อาหาร (CPF) ,บมจ. ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล (MINT) ,บมจ. แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (ADVANC) บมจ. ปตท. (PTT) , บมจ.ไทยออยล์ (TOP) ,บมจ. ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) , บมจ. ทิสโก้ไฟแนนเชียล กรุ๊ป (TISCO) , บมจ. บีอีซี เวิลด์ (BEC), บมจ. กรุงเทพดุสิตเวชการ (BGH) ,บมจ. ดิ เอราวัณ กรุ๊ป (ERAWAN) ,บมจ. โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ (HMPRO), บมจ. อสมท (MCOT) ,บมจ. การบินไทย (THAI) ,บมจ. ปตท.เคมิคอล (PTTCH) ,บมจ. พฤกษา เรียลเอสเตท (PS) ,บมจ.ไท คอน อินดัสเทรียล คอนเน็คชั่น (TICON) และบมจ. แสนสิริ (SIRI)
ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะนำเสนอข้อมูลภาพรวมเศรษฐกิจและการลงทุนในตลาดทุนไทย รวมถึงผลิตภัณฑ์ทางการเงินใหม่ ๆ ขณะที่บริษัทจดทะเบียนไทยจะมีโอกาสได้พบปะกับผู้ลงทุน และให้ข้อมูลเกี่ยวกับผลการดำเนินงานโดยตรง ซึ่งจะช่วยสร้างความเชื่อมั่นและสร้างสัมพันธ์ที่ดีระหว่างบริษัทจดทะเบียนไทยและผู้ลงทุนต่างประเทศ