ASTV ผู้จัดการรายวัน - ย้ำความสัมพันธ์ “ไทย-จีน” เดินหน้าหนุนลงทุนระบบราง-หัวจักร คาด 2 สัปดาห์รู้ผล ด้านกระทรวงการคลัง-คมนาคมได้ทีเดินทางไปทาบรัฐบาลจีนร่วมลงทุนหนุนสินเชื่อส่งออก ขณะที่ทวิภาคีไทย-อินเดีย เร่งเปิดโอกาสเอกชน เข้าระบบเอฟทีเอ พร้อมสนับสนุนออสเตรเลียพัฒนาความพัฒนาความร่วมมือในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกในอนาคต
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เช้าวานนี้ (25 ต.ค.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เข้าพบและหารือกับ นายเหวิน เจีย เป่า นายกรัฐมนตรีจีน แบบทวิภาคี ณ โรงแรมฮิลตัน หัวหิน-ชะอำ ในโอกาสเดินทางมาเข้าร่วมการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน ครั้งที่ 15
นายเหวิน เจีย เป่า เริ่มต้นด้วยการแสดงความยินดีและชื่นชมการจัดเตรียมงานประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 15 ของไทย ซึ่งไทยได้ทำงานอย่างหนักหลายอย่างที่ทำให้การประชุมในครั้งนี้เป็นไปอย่างราบรื่น และ ยินดีที่จะร่วมมือผลักดันการประชุมครั้งนี้ให้ได้ผลมากยิ่งขึ้น
**ปธน.จีน ถวายพระพรในหลวงหายประชวร
นายเหวิน ยังได้กล่าวแสดงความปลื้มปิติและส่งความปรารถนาดีจากประธานาธิบดีจีน ผ่านนายกรัฐมนตรีจีนแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเพื่อให้ทรงหายจากพระอาการประชวร โดยเห็นว่า ตลอดเวลาที่ผ่านมา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีบทบาทที่สำคัญในการเสริมสร้าง ความสัมพันธ์ระหว่างไทยและจีน
ด้านนายอภิสิทธิ์ กล่าวต้อนรับและขอบคุณนายกรัฐมนตรีจีนที่ได้แสดง ความห่วงใย และส่งความปรารถนาดีแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และขอบคุณที่ทางรัฐบาลจีน ได้ถวายการต้อนรับสมเด็จพระเทพพระรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี เป็นอย่างดีในทุกครั้งที่ พระองค์ทรงเสด็จไปเยือนเมืองจีน
ทั้งนี้ รัฐบาลไทยยังคงระลึกถึงการไปเยือนเมืองจีนเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา และได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดีจากทางรัฐบาลจีน และได้รับการสนับสนุนผลักดันความร่วมมือในหลายประเด็น อีกทั้ง เมื่อเดินทางกลับมาถึงเมืองไทย ภาคธุรกิจจากจีนได้ให้ความสนใจเพิ่ม การค้าการลงทุนในไทยมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ประเทศไทยยังได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวจีน มากยิ่งขึ้นอีกด้วย
ในโอกาสที่ปีหน้าเป็นปีแห่งการครบรอบความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-จีน 35 ปี จะขอเชิญนายก รัฐมนตรีจีนเยือนประเทศไทย รวมถึงในอีก 2 สัปดาห์ข้างหน้าผู้นำพรรคคอมมิวนิสต์ของจีน จะได้มาเยือนประเทศไทยซึ่งจะช่วยกระชับความสัมพันธ์ในทุกระดับระหว่างสองฝ่ายให้มากยิ่งขึ้น
2 สัปดาห์หนุนลงทุนระบบราง-หัวจักร
สำหรับประเด็นด้านความร่วมมือ รัฐบาลไทยได้ติดตาม ความร่วมมือด้านรถไฟและระบบรถราง ซึ่งกระทรวงคมนาคมได้จัดตั้งคณะทำงานในด้านนี้มารองรับซึ่งคาดว่าไม่เกิน 2 สัปดาห์จะมีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ กระทรวงการคลังและกระทรวงคมนาคมจะได้เดินทางไปทาบทามรัฐบาลจีนเพื่อร่วมลงทุนโดยเฉพาะการสนับสนุนสินเชื่อเพื่อการส่งออก
ขณะที่รัฐบาลไทยได้ขอบคุณรัฐบาลจีนที่ริเริ่มความร่วมมือหลายอย่างที่สนับสนุนความร่วมมือของภูมิภาคในกรอบอาเซียน โดยเฉพาะข้อเสนอของนายกรัฐมนตรีจีนหลายข้อต่อที่ประชุมเมื่อวานนี้ (24 ต.ค.) แม้ว่าวาระการดำรงตำแหน่งประธานอาเซียนของรัฐบาลไทยจะหมดลงในปีนี้ แต่จะยังคงยืนยันการสานต่อการสนับสนุนบทบาทของจีนต่ออาเซียนต่อไป นอกจากนี้ ในระยะสั้นรัฐบาลไทยจะผลักดัน "มาตรการริเริ่มเชียงใหม่ (Chiangmai Initiative)" ให้เป็นรูปธรรม
ทางด้านมิตรภาพของรัฐบาลไทย-จีน ได้ผ่านการพิสูจน์ผ่านกาลเวลาและกระแสความเปลี่ยนแปลง ของสังคมโลก ในฐานะประเทศในภูมิภาคเดียวกัน ได้ติดตามความก้าวหน้าของไทยมาโดยตลอด และขออวยพรให้รัฐบาลไทยประสบความสำเร็จในการพัฒนาประเทศ ให้ก้าวหน้า มั่นคง และประชาชนในประเทศมีความสุข
**ย้ำไทยเป็นคู่ค้าสำคัญอันดับ 3
สำหรับในปีหน้าที่จะครบรอบความสัมพันธ์ทางการทูต 35 ปี รัฐบาลจีนยินดีให้ความร่วมมือในเชิงยุทธศาสตร์ระหว่าง 2 ประเทศ เพื่อยกระดับความสัมพันธ์สองฝ่ายไปสู่ระดับที่สูงขึ้น ทั้งนี้ ไทยเป็นคู่ค้าอันดับที่ 3 ของจีนในอาเซียน เศรษฐกิจของไทยสามารถส่งเสริมจีนได้มาก และทั้งสองประเทศมีการไปมาหาสู่กันโดยตลอด ทางจีนเห็นว่าไทยควรใช้ประโยชน์จากคณะกรรมการร่วมด้านเศรษฐกิจที่ทั้งสองฝ่ายมีอยู่แล้วเพื่อส่งเสริมการค้าระหว่างสองประเทศให้เต็มที่
สำหรับเจตนารมณ์ของรัฐบาลไทยต่อโครงการความร่วมมือรถรางและหัวรถจักร รวมทั้งความร่วมมือด้านพลังงานรัฐบาลจีนมีความยินดีและท่าทีในเชิงบวก โดยจีนได้เสนอสินเชื่อส่งออกต่อไทยในปีเพื่อเสริมสร้าง โครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ในไทย นอกจากนี้ การค้าผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรและ การขยายความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวก็เป็นสิ่งที่จำเป็น ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา รัฐบาลไทยได้สนับสนุนจีน รวมทั้งได้แสดงบทบาทในเชิงสร้างสรรค์ในฐานะประธานอาเซียนในการส่งเสริมบทบาทของจีนต่อการร่วมมือกับอาเซียนในหลายด้าน
หนุนจีนแก้ปัญหาโลกร้อน
นายกรัฐมนตรีไทย ได้ยืนยันการผลักดันความสัมพันธ์ทางการทูตที่จะครบรอบ 35 ปี ไทย-จีน ในปีหน้า และการผลักดันการดำเนินการเขตการค้าเสรีอาเซียน (AFTA) โดยเร่งรัดการดำเนินงานผ่านคณะกรรมการร่วมในด้านต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง และขอชื่นชมรัฐบาลจีนโดยเฉพาะ เมื่อเร็วๆ นี้ ที่ประธานาธิบดีของจีนได้แถลงต่อที่ประชุมสหประชาชาติกล่าวสนับสนุนการแก้ไข ปัญหาการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ณ สถานที่จัดประชุมสหประชาชาติ กรุงนิวยอร์ก
ขณะที่ฝ่ายจีน ได้แสดงท่าทีของรัฐบาลจีนต่อปัญหาดังกล่าวเป็นจุดยืนที่ไม่เคยเปลี่ยน และต่อจากนี้จะได้แสดงจุดยืนดังกล่าวในการประชุมว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ณ กรุงโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก ให้ได้ผลที่เป็นรูปธรรมมากขึ้น ทั้งนี้ ขอขอบคุณนายกรัฐมนตรีไทยและรัฐบาลไทยที่ได้กรุณาเชิญมาเยี่ยม เยียนเมืองไทยหลายครั้ง และหวังว่าจะได้มีโอกาสมาอีก อีกทั้งเห็นว่าทั้งสองประเทศควรรักษาประเพณีการเป็นครอบครัวเดียวกัน
**ไทย-อินเดีย เร่งเปิดโอกาสเอกชน
ขณะที่ค่ำวันที่ 24 ต.ค. นายอภิสิทธิ์ นายกฯ ได้พบปะหารือกับดร. Manmahan Singh นายกรัฐมนตรีอินเดีย ณ ห้องบ่อฝ้าย โรงแรมดุสิตธานี โดยนายกฯ อินเดีย กล่าวแสดงความชื่นชมนายกรัฐมนตรีว่าเป็นทั้งนักวิชาการและนักบริหารประเทศที่ดี และในฐานะตัวแทนของประเทศได้ถือโอกาสนี้ส่งคำอวยพรและความปรารถนาดีให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงหายจากพระอาการประชวรโดยเร็ว
ขณะที่ทั้งสองฝ่าย มีความประสงค์อย่างจริงใจที่จะเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างกันต่อไป แม้ว่า การค้าการลงทุนตลอดระยะเวลา 8-9 ปีที่ผ่านมาจะมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่องเป็นอย่างดีตลอดมา และเห็นว่า ไทย-อินเดียยังมีโอกาสอีกมากที่จะพัฒนาในด้านนี้ต่อไปอย่างใกล้ชิด และจะผลักดันให้ภาคเอกชนของทั้งสองประเทศสามารถใช้ประโยชน์จากกรอบความตกลงเขตการค้าเสรีไทย-อินเดียและอาเซียน-อินเดียอย่างเต็มที่ ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการจัดทำความตกลงด้านการค้าสินค้า (Agreement on Trade in Goods) ซึ่งอยู่ภายใต้กรอบความตกลงเขตการค้าเสรีไทย-อินเดีย ซึ่งนายกรัฐมนตรีอินเดียรับที่จะช่วยผลักดันในเรื่องนี้ให้สำเร็จโดยเร็ว
**แลกเปลี่ยนข้อมูลด้านข่าวกรอง
ส่วนด้านความร่วมมือด้านความมั่นคง ที่สองฝ่ายมีความร่วมมือเพื่อต่อต้านการก่อการร้าย การแลกเปลี่ยนข้อมูลด้านข่าวกรองอย่างใกล้ชิดเพื่อประโยชน์สองฝ่าย ซึ่งในขณะนี้สองฝ่ายก็อยู่ระหว่างการจัดทำ MoU ว่าด้วยความร่วมมือด้านการทหารที่ครอบคลุม ทั้งนี้อินเดียยังได้แสดงความขอบคุณไทยที่สนับสนุนการฟื้นฟูมหาวิทยาลัย Nalanda ซึ่งอินเดียเสนอให้เป็นสถาบันระหว่างประเทศด้วย
สำหรับความร่วมมือในระดับภูมิภาค มีการย้ำถึงความร่วมมือระหว่างกันอย่างใกล้ชิดในเวทีระหว่างประเทศ โดยเฉพาะภายใต้กรอบอาเซียน BIMSTEC ซึ่งจะช่วยส่งเสริมความเชื่อมโยงที่แน่นแฟ้นมากขึ้นในระดับประชาชน วัฒนธรรม การเรียนรู้และแลกเปลี่ยนด้านการศึกษา รวมทั้งความร่วมมือเพื่อเสริมสร้างความมั่นคงทางพลังงานและความมั่นคงอาหาร นอกจากนี้จะช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์ทั้งในระดับพหุภาคีและทวิภาคีต่อไป และประสงค์ให้นายกรัฐมนตรีจะสามารถไปเยือนอินเดียอย่างเป็นทางการในอนาคตอันใกล้ เช่นเดียวกับที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะนายกรัฐมนตรีได้เชิญให้นายกรัฐมนตรีอินเดียมาเยือนไทยเช่นกัน
**ย้ำจีดีพีไทย บวกขึ้น 2-4% ในปี 53
ขณะที่การหารือทวิภาคี ระหว่างนายอภิสิทธิ์ กับนาย Kevin Rudd นายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย ในประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 15 นายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย ได้กล่าวถวายพระพรพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และยินดีที่เห็นพระองค์ปรากฎพระวรกายผ่านสื่อมวลชนเมื่อวันศุกร์ 23 ตุลาคมที่ผ่านมา ด้วยพระอนามัยที่สมบูรณ์แข็งแรง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ มิได้ทรง เป็นขวัญใจของชุมชนของคนไทยในออสเตรเลียเท่านั้น แต่ยังเป็นเคารพของคนออสเตรเลียเช่นเดียวกัน
ขณะที่ด้านความร่วมมือ นายอภิสิทธิ์ ในฐานะประธานอาเซียน กล่าวว่า อาเซียน พร้อมที่จะรับฟังความคิดเห็นของออสเตรเลียต่อการพัฒนาความร่วมมือในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ในอนาคต ซึ่งเชื่อว่าจะต้องขยายความร่วมมือให้กว้างขวาง นอกเหนือไปจาก ความร่วมมือด้านการค้า การลงทุน ไปสู่ความร่วมมือด้านความมั่นคง การป้องกันอาชญากรรมข้ามชาติและประเด็นสังคมอื่นๆ ครอบคลุมความร่วมมือทั่วภูมิภาค
นายกฯย้ำว่า กล่าวถึงความก้าวหน้ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของไทยว่า จะสามารถเห็นการเติบโตของไทยในทางบวกอยู่ที่ร้อยละ 2-4 ในปีหน้า จากการดำเนินการลงทุนปรับโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ของรัฐบาล อย่างไรก็ตามรัฐบาลยังคงต้องเดินหน้าการพัฒนา โดยเฉพาะการสร้างศักยภาพและความสามารถทางการแข่งขัน การศึกษา ในตอนท้าย นายกรัฐมนตรียังได้แสดงความวิตกในการเปลี่ยนแปลงมาตรฐานข้อกำหนดด้านภาษาอังกฤษสำหรับแรงงานต่างชาติในออสเตรเลีย ซึ่งไทยได้แจ้งว่าอาจเป็นอุปสรรคต่อพ่อครัวแม่ครัวไทยและกิจการร้านอาหารไทยในออสเตรเลีย ซึ่งนายกรัฐมนตรีออสเตรเลียยังรับปากจะนำข้อห่วงใยของไทยนำไปพิจารณาอีกครั้ง
**ทวิภาคดีไทย-นิวซีแลนค์ ราบรื่น
ส่วนการทำทวิภาคีกับนาย John Key นายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์ ได้แสดงความยินดีที่ทราบว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระพลานามัยที่แข็งแรงขึ้น
ส่วนความร่วมมือระหว่างอาเซียนและนิวซีแลนด์ ภายใต้กรอบความตกลงเขตการค้าเสรีอาเซียน ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ ที่มีผลอย่างเป็นรูปธรรม โดยเฉพาะการค้าและการลงทุนที่การเติบโตอย่างต่อเนื่องและเชื่อว่าทั้งสองภูมิภาคยังมีศักยภาพในการขยายตัวและพัฒนาได้อย่างกว้างขวางและลึกซึ้งมากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ นิวซีแลนด์ ยังได้ขยายความร่วมมือด้านการค้าและการลงทุนกับนานาประเทศอย่างต่อนื่อง อาทิ ความตกลงเขตการค้าเสรีระหว่างนิวซีแลนด์และจีน และความตกลงเขตการค้าเสรีระหว่างนิวซีแลนด์และมาเลเซีย สำหรับความตกลง Thailand-New Zealand Closer Economic Partnership (TNZCEP) ก็ทำให้ปริมาณและมูลค่าการค้าของทั้งสองประเทศได้เพิ่มมากยิ่งขึ้นด้วย
ด้านนายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า อยากเห็นความร่วมมือในภูมิภาคขยายกรอบ มากกว่า การค้าและการลงทุน ไปสู่ด้านสังคมและเทคโนโลยี ทั้งนี้ยังแสดงความประทับใจต่อการปฏิรูปการบริหารจัดการภายรัฐของนิวซีแลนด์ ซึ่งมีรูปแบบที่น่าสนใจ โดยได้นำนักวิทยาศาสตร์ และนักวิชาการชั้นนำ โดยให้เป็นที่ปรึกษาของภาครัฐ ทำให้มีการเชื่อมต่อระหว่างนักวิชาการ ภาครัฐและภาคเอกชนซึ่งจะเป็นประโยชน์
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เช้าวานนี้ (25 ต.ค.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เข้าพบและหารือกับ นายเหวิน เจีย เป่า นายกรัฐมนตรีจีน แบบทวิภาคี ณ โรงแรมฮิลตัน หัวหิน-ชะอำ ในโอกาสเดินทางมาเข้าร่วมการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน ครั้งที่ 15
นายเหวิน เจีย เป่า เริ่มต้นด้วยการแสดงความยินดีและชื่นชมการจัดเตรียมงานประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 15 ของไทย ซึ่งไทยได้ทำงานอย่างหนักหลายอย่างที่ทำให้การประชุมในครั้งนี้เป็นไปอย่างราบรื่น และ ยินดีที่จะร่วมมือผลักดันการประชุมครั้งนี้ให้ได้ผลมากยิ่งขึ้น
**ปธน.จีน ถวายพระพรในหลวงหายประชวร
นายเหวิน ยังได้กล่าวแสดงความปลื้มปิติและส่งความปรารถนาดีจากประธานาธิบดีจีน ผ่านนายกรัฐมนตรีจีนแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเพื่อให้ทรงหายจากพระอาการประชวร โดยเห็นว่า ตลอดเวลาที่ผ่านมา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีบทบาทที่สำคัญในการเสริมสร้าง ความสัมพันธ์ระหว่างไทยและจีน
ด้านนายอภิสิทธิ์ กล่าวต้อนรับและขอบคุณนายกรัฐมนตรีจีนที่ได้แสดง ความห่วงใย และส่งความปรารถนาดีแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และขอบคุณที่ทางรัฐบาลจีน ได้ถวายการต้อนรับสมเด็จพระเทพพระรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี เป็นอย่างดีในทุกครั้งที่ พระองค์ทรงเสด็จไปเยือนเมืองจีน
ทั้งนี้ รัฐบาลไทยยังคงระลึกถึงการไปเยือนเมืองจีนเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา และได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดีจากทางรัฐบาลจีน และได้รับการสนับสนุนผลักดันความร่วมมือในหลายประเด็น อีกทั้ง เมื่อเดินทางกลับมาถึงเมืองไทย ภาคธุรกิจจากจีนได้ให้ความสนใจเพิ่ม การค้าการลงทุนในไทยมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ประเทศไทยยังได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวจีน มากยิ่งขึ้นอีกด้วย
ในโอกาสที่ปีหน้าเป็นปีแห่งการครบรอบความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-จีน 35 ปี จะขอเชิญนายก รัฐมนตรีจีนเยือนประเทศไทย รวมถึงในอีก 2 สัปดาห์ข้างหน้าผู้นำพรรคคอมมิวนิสต์ของจีน จะได้มาเยือนประเทศไทยซึ่งจะช่วยกระชับความสัมพันธ์ในทุกระดับระหว่างสองฝ่ายให้มากยิ่งขึ้น
2 สัปดาห์หนุนลงทุนระบบราง-หัวจักร
สำหรับประเด็นด้านความร่วมมือ รัฐบาลไทยได้ติดตาม ความร่วมมือด้านรถไฟและระบบรถราง ซึ่งกระทรวงคมนาคมได้จัดตั้งคณะทำงานในด้านนี้มารองรับซึ่งคาดว่าไม่เกิน 2 สัปดาห์จะมีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ กระทรวงการคลังและกระทรวงคมนาคมจะได้เดินทางไปทาบทามรัฐบาลจีนเพื่อร่วมลงทุนโดยเฉพาะการสนับสนุนสินเชื่อเพื่อการส่งออก
ขณะที่รัฐบาลไทยได้ขอบคุณรัฐบาลจีนที่ริเริ่มความร่วมมือหลายอย่างที่สนับสนุนความร่วมมือของภูมิภาคในกรอบอาเซียน โดยเฉพาะข้อเสนอของนายกรัฐมนตรีจีนหลายข้อต่อที่ประชุมเมื่อวานนี้ (24 ต.ค.) แม้ว่าวาระการดำรงตำแหน่งประธานอาเซียนของรัฐบาลไทยจะหมดลงในปีนี้ แต่จะยังคงยืนยันการสานต่อการสนับสนุนบทบาทของจีนต่ออาเซียนต่อไป นอกจากนี้ ในระยะสั้นรัฐบาลไทยจะผลักดัน "มาตรการริเริ่มเชียงใหม่ (Chiangmai Initiative)" ให้เป็นรูปธรรม
ทางด้านมิตรภาพของรัฐบาลไทย-จีน ได้ผ่านการพิสูจน์ผ่านกาลเวลาและกระแสความเปลี่ยนแปลง ของสังคมโลก ในฐานะประเทศในภูมิภาคเดียวกัน ได้ติดตามความก้าวหน้าของไทยมาโดยตลอด และขออวยพรให้รัฐบาลไทยประสบความสำเร็จในการพัฒนาประเทศ ให้ก้าวหน้า มั่นคง และประชาชนในประเทศมีความสุข
**ย้ำไทยเป็นคู่ค้าสำคัญอันดับ 3
สำหรับในปีหน้าที่จะครบรอบความสัมพันธ์ทางการทูต 35 ปี รัฐบาลจีนยินดีให้ความร่วมมือในเชิงยุทธศาสตร์ระหว่าง 2 ประเทศ เพื่อยกระดับความสัมพันธ์สองฝ่ายไปสู่ระดับที่สูงขึ้น ทั้งนี้ ไทยเป็นคู่ค้าอันดับที่ 3 ของจีนในอาเซียน เศรษฐกิจของไทยสามารถส่งเสริมจีนได้มาก และทั้งสองประเทศมีการไปมาหาสู่กันโดยตลอด ทางจีนเห็นว่าไทยควรใช้ประโยชน์จากคณะกรรมการร่วมด้านเศรษฐกิจที่ทั้งสองฝ่ายมีอยู่แล้วเพื่อส่งเสริมการค้าระหว่างสองประเทศให้เต็มที่
สำหรับเจตนารมณ์ของรัฐบาลไทยต่อโครงการความร่วมมือรถรางและหัวรถจักร รวมทั้งความร่วมมือด้านพลังงานรัฐบาลจีนมีความยินดีและท่าทีในเชิงบวก โดยจีนได้เสนอสินเชื่อส่งออกต่อไทยในปีเพื่อเสริมสร้าง โครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ในไทย นอกจากนี้ การค้าผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรและ การขยายความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวก็เป็นสิ่งที่จำเป็น ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา รัฐบาลไทยได้สนับสนุนจีน รวมทั้งได้แสดงบทบาทในเชิงสร้างสรรค์ในฐานะประธานอาเซียนในการส่งเสริมบทบาทของจีนต่อการร่วมมือกับอาเซียนในหลายด้าน
หนุนจีนแก้ปัญหาโลกร้อน
นายกรัฐมนตรีไทย ได้ยืนยันการผลักดันความสัมพันธ์ทางการทูตที่จะครบรอบ 35 ปี ไทย-จีน ในปีหน้า และการผลักดันการดำเนินการเขตการค้าเสรีอาเซียน (AFTA) โดยเร่งรัดการดำเนินงานผ่านคณะกรรมการร่วมในด้านต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง และขอชื่นชมรัฐบาลจีนโดยเฉพาะ เมื่อเร็วๆ นี้ ที่ประธานาธิบดีของจีนได้แถลงต่อที่ประชุมสหประชาชาติกล่าวสนับสนุนการแก้ไข ปัญหาการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ณ สถานที่จัดประชุมสหประชาชาติ กรุงนิวยอร์ก
ขณะที่ฝ่ายจีน ได้แสดงท่าทีของรัฐบาลจีนต่อปัญหาดังกล่าวเป็นจุดยืนที่ไม่เคยเปลี่ยน และต่อจากนี้จะได้แสดงจุดยืนดังกล่าวในการประชุมว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ณ กรุงโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก ให้ได้ผลที่เป็นรูปธรรมมากขึ้น ทั้งนี้ ขอขอบคุณนายกรัฐมนตรีไทยและรัฐบาลไทยที่ได้กรุณาเชิญมาเยี่ยม เยียนเมืองไทยหลายครั้ง และหวังว่าจะได้มีโอกาสมาอีก อีกทั้งเห็นว่าทั้งสองประเทศควรรักษาประเพณีการเป็นครอบครัวเดียวกัน
**ไทย-อินเดีย เร่งเปิดโอกาสเอกชน
ขณะที่ค่ำวันที่ 24 ต.ค. นายอภิสิทธิ์ นายกฯ ได้พบปะหารือกับดร. Manmahan Singh นายกรัฐมนตรีอินเดีย ณ ห้องบ่อฝ้าย โรงแรมดุสิตธานี โดยนายกฯ อินเดีย กล่าวแสดงความชื่นชมนายกรัฐมนตรีว่าเป็นทั้งนักวิชาการและนักบริหารประเทศที่ดี และในฐานะตัวแทนของประเทศได้ถือโอกาสนี้ส่งคำอวยพรและความปรารถนาดีให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงหายจากพระอาการประชวรโดยเร็ว
ขณะที่ทั้งสองฝ่าย มีความประสงค์อย่างจริงใจที่จะเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างกันต่อไป แม้ว่า การค้าการลงทุนตลอดระยะเวลา 8-9 ปีที่ผ่านมาจะมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่องเป็นอย่างดีตลอดมา และเห็นว่า ไทย-อินเดียยังมีโอกาสอีกมากที่จะพัฒนาในด้านนี้ต่อไปอย่างใกล้ชิด และจะผลักดันให้ภาคเอกชนของทั้งสองประเทศสามารถใช้ประโยชน์จากกรอบความตกลงเขตการค้าเสรีไทย-อินเดียและอาเซียน-อินเดียอย่างเต็มที่ ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการจัดทำความตกลงด้านการค้าสินค้า (Agreement on Trade in Goods) ซึ่งอยู่ภายใต้กรอบความตกลงเขตการค้าเสรีไทย-อินเดีย ซึ่งนายกรัฐมนตรีอินเดียรับที่จะช่วยผลักดันในเรื่องนี้ให้สำเร็จโดยเร็ว
**แลกเปลี่ยนข้อมูลด้านข่าวกรอง
ส่วนด้านความร่วมมือด้านความมั่นคง ที่สองฝ่ายมีความร่วมมือเพื่อต่อต้านการก่อการร้าย การแลกเปลี่ยนข้อมูลด้านข่าวกรองอย่างใกล้ชิดเพื่อประโยชน์สองฝ่าย ซึ่งในขณะนี้สองฝ่ายก็อยู่ระหว่างการจัดทำ MoU ว่าด้วยความร่วมมือด้านการทหารที่ครอบคลุม ทั้งนี้อินเดียยังได้แสดงความขอบคุณไทยที่สนับสนุนการฟื้นฟูมหาวิทยาลัย Nalanda ซึ่งอินเดียเสนอให้เป็นสถาบันระหว่างประเทศด้วย
สำหรับความร่วมมือในระดับภูมิภาค มีการย้ำถึงความร่วมมือระหว่างกันอย่างใกล้ชิดในเวทีระหว่างประเทศ โดยเฉพาะภายใต้กรอบอาเซียน BIMSTEC ซึ่งจะช่วยส่งเสริมความเชื่อมโยงที่แน่นแฟ้นมากขึ้นในระดับประชาชน วัฒนธรรม การเรียนรู้และแลกเปลี่ยนด้านการศึกษา รวมทั้งความร่วมมือเพื่อเสริมสร้างความมั่นคงทางพลังงานและความมั่นคงอาหาร นอกจากนี้จะช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์ทั้งในระดับพหุภาคีและทวิภาคีต่อไป และประสงค์ให้นายกรัฐมนตรีจะสามารถไปเยือนอินเดียอย่างเป็นทางการในอนาคตอันใกล้ เช่นเดียวกับที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะนายกรัฐมนตรีได้เชิญให้นายกรัฐมนตรีอินเดียมาเยือนไทยเช่นกัน
**ย้ำจีดีพีไทย บวกขึ้น 2-4% ในปี 53
ขณะที่การหารือทวิภาคี ระหว่างนายอภิสิทธิ์ กับนาย Kevin Rudd นายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย ในประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 15 นายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย ได้กล่าวถวายพระพรพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และยินดีที่เห็นพระองค์ปรากฎพระวรกายผ่านสื่อมวลชนเมื่อวันศุกร์ 23 ตุลาคมที่ผ่านมา ด้วยพระอนามัยที่สมบูรณ์แข็งแรง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ มิได้ทรง เป็นขวัญใจของชุมชนของคนไทยในออสเตรเลียเท่านั้น แต่ยังเป็นเคารพของคนออสเตรเลียเช่นเดียวกัน
ขณะที่ด้านความร่วมมือ นายอภิสิทธิ์ ในฐานะประธานอาเซียน กล่าวว่า อาเซียน พร้อมที่จะรับฟังความคิดเห็นของออสเตรเลียต่อการพัฒนาความร่วมมือในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ในอนาคต ซึ่งเชื่อว่าจะต้องขยายความร่วมมือให้กว้างขวาง นอกเหนือไปจาก ความร่วมมือด้านการค้า การลงทุน ไปสู่ความร่วมมือด้านความมั่นคง การป้องกันอาชญากรรมข้ามชาติและประเด็นสังคมอื่นๆ ครอบคลุมความร่วมมือทั่วภูมิภาค
นายกฯย้ำว่า กล่าวถึงความก้าวหน้ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของไทยว่า จะสามารถเห็นการเติบโตของไทยในทางบวกอยู่ที่ร้อยละ 2-4 ในปีหน้า จากการดำเนินการลงทุนปรับโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ของรัฐบาล อย่างไรก็ตามรัฐบาลยังคงต้องเดินหน้าการพัฒนา โดยเฉพาะการสร้างศักยภาพและความสามารถทางการแข่งขัน การศึกษา ในตอนท้าย นายกรัฐมนตรียังได้แสดงความวิตกในการเปลี่ยนแปลงมาตรฐานข้อกำหนดด้านภาษาอังกฤษสำหรับแรงงานต่างชาติในออสเตรเลีย ซึ่งไทยได้แจ้งว่าอาจเป็นอุปสรรคต่อพ่อครัวแม่ครัวไทยและกิจการร้านอาหารไทยในออสเตรเลีย ซึ่งนายกรัฐมนตรีออสเตรเลียยังรับปากจะนำข้อห่วงใยของไทยนำไปพิจารณาอีกครั้ง
**ทวิภาคดีไทย-นิวซีแลนค์ ราบรื่น
ส่วนการทำทวิภาคีกับนาย John Key นายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์ ได้แสดงความยินดีที่ทราบว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระพลานามัยที่แข็งแรงขึ้น
ส่วนความร่วมมือระหว่างอาเซียนและนิวซีแลนด์ ภายใต้กรอบความตกลงเขตการค้าเสรีอาเซียน ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ ที่มีผลอย่างเป็นรูปธรรม โดยเฉพาะการค้าและการลงทุนที่การเติบโตอย่างต่อเนื่องและเชื่อว่าทั้งสองภูมิภาคยังมีศักยภาพในการขยายตัวและพัฒนาได้อย่างกว้างขวางและลึกซึ้งมากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ นิวซีแลนด์ ยังได้ขยายความร่วมมือด้านการค้าและการลงทุนกับนานาประเทศอย่างต่อนื่อง อาทิ ความตกลงเขตการค้าเสรีระหว่างนิวซีแลนด์และจีน และความตกลงเขตการค้าเสรีระหว่างนิวซีแลนด์และมาเลเซีย สำหรับความตกลง Thailand-New Zealand Closer Economic Partnership (TNZCEP) ก็ทำให้ปริมาณและมูลค่าการค้าของทั้งสองประเทศได้เพิ่มมากยิ่งขึ้นด้วย
ด้านนายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า อยากเห็นความร่วมมือในภูมิภาคขยายกรอบ มากกว่า การค้าและการลงทุน ไปสู่ด้านสังคมและเทคโนโลยี ทั้งนี้ยังแสดงความประทับใจต่อการปฏิรูปการบริหารจัดการภายรัฐของนิวซีแลนด์ ซึ่งมีรูปแบบที่น่าสนใจ โดยได้นำนักวิทยาศาสตร์ และนักวิชาการชั้นนำ โดยให้เป็นที่ปรึกษาของภาครัฐ ทำให้มีการเชื่อมต่อระหว่างนักวิชาการ ภาครัฐและภาคเอกชนซึ่งจะเป็นประโยชน์