นายเจริญ จันทร์พลังศรี ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยโพลีคอนส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TPOLY เปิดเผยว่า หลังจากที่บริษัทฯ ได้ลงนามในสัญญาก่อสร้างเพิ่มเติมอีก 2 โครงการ คือ โครงการคอนโดมีเนียม Life@Ladprao ของ บริษัท เอเชี่ยนพร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) เพื่อก่อสร้างอาคารเพื่อที่พักอาศัยสูง 32 ชั้นมูลค่างาน 232 ล้านบาท และโครงการของมหาวิทยาลัยราชภัฎอุดรธานี เพื่อก่อสร้างอาคารหอพักมหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี 2 อาคาร มูลค่างาน 103 ล้านบาท
ทำให้ปัจจุบัน TPOLY มีงานในมือที่รอรับรู้เป็นรายได้ (Backlog) แล้วประมาณ 2,700 ล้านบาท และช่วงไตรมาสสุดท้ายปีนี้เตรียมยื่นประมูลงานใหม่เพิ่มเติมอีกมูลค่าไม่น้อยกว่า 4,000 ล้านบาท โดยคาดว่าจะได้รับงานไม่ต่ำกว่า 30% ของมูลค่างานที่เข้าร่วมประมูล ซึ่งจะทำให้มูลค่างานในมือเพิ่มขึ้นอยู่ในระดับ 4,000 ล้านบาทตามเป้าหมายที่วางไว้ได้ ถึงแม้ว่าจะมีการทยอยรับรู้รายได้จากงานในมือ
ปัจจุบัน TPOLY ยังมีตลาดหลักอยู่ใน 14 จังหวัด ภาคใต้ คิดเป็นสัดส่วน 58% ของมูลค่างานในมือ และจากสัดส่วนดังกล่าวคิดเป็นงานใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ 13% ส่วนที่เหลือจะเป็นงานจากภูมิภาคอื่นๆ ทั่วประเทศ ซึ่งหลังจากนี้การยื่นประมูลงานจะยังให้ความสำคัญกับภาคใต้ เพราะเชี่ยวชาญและชำนาญการทำงานในพื้นที่อย่างดี และผลงานได้รับการยอมรับทำให้มีโอกาสได้รับงานใหม่ ๆ เพิ่ม พร้อมขยายฐานธุรกิจเข้าสู่ภูมิภาคอื่นในลักษณะติดตามเจ้าของโครงการไปเปิดสาขาในภูมิภาคต่าง ๆ และในส่วนของกลุ่มลูกค้ายังให้ความสำคัญทั้งภาครัฐและเอกชน ซึ่งมีสัดส่วนงานภาครัฐ 74% ที่เหลือ 26% เป็นงานของภาคเอกชน
" จากประสบการณ์และผลงานที่เราฝากไว้ในเกือบทุกกลุ่มธุรกิจทำให้เรามีใบเบิกทางในการขยายธุรกิจเข้าสู่กลุ่ม จึงถือว่าปัจจุบัน TPOLY จะสามารถทำธุรกิจรับเหมาก่อสร้างได้อย่างครบวงจรและในภาวะเศรษฐกิจปัจจุบัน บริษัทฯ ได้ปรับเป้าหมายการประมูลงานในกลุ่มลูกค้าราชการมากขึ้น ส่วนภาคเอกชนจะเน้นเข้าประมูลงานเฉพาะกลุ่ม พร้อมปรับแผนขยายเข้าสู่กลุ่มโครงการสาธารณูปโภคพื้นฐานอย่างจริงจัง หลังจากที่รัฐบาลได้เริ่มขับเคลื่อนโครงการไทยเข้มแข็งออกมาอย่างเป็นรูปธรรม เชื่อว่าการทำธุรกิจรับเหมาก่อสร้างอย่างครบวงจรจะทำให้ TPOLY เติบโตได้อย่างแข็งแกร่งในระยะยาว " นายเจริญกล่าว
สำหรับปีนี้มั่นใจว่าจะสามารถผลักดันรายได้ ให้เติบโตต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมาตาม เป้าหมายที่วางไว้ได้ โดยคาดว่าจะอยู่ที่ 2,100 ล้านบาท จากปีก่อนที่ทำได้ 1,700 ล้านบาท
ทำให้ปัจจุบัน TPOLY มีงานในมือที่รอรับรู้เป็นรายได้ (Backlog) แล้วประมาณ 2,700 ล้านบาท และช่วงไตรมาสสุดท้ายปีนี้เตรียมยื่นประมูลงานใหม่เพิ่มเติมอีกมูลค่าไม่น้อยกว่า 4,000 ล้านบาท โดยคาดว่าจะได้รับงานไม่ต่ำกว่า 30% ของมูลค่างานที่เข้าร่วมประมูล ซึ่งจะทำให้มูลค่างานในมือเพิ่มขึ้นอยู่ในระดับ 4,000 ล้านบาทตามเป้าหมายที่วางไว้ได้ ถึงแม้ว่าจะมีการทยอยรับรู้รายได้จากงานในมือ
ปัจจุบัน TPOLY ยังมีตลาดหลักอยู่ใน 14 จังหวัด ภาคใต้ คิดเป็นสัดส่วน 58% ของมูลค่างานในมือ และจากสัดส่วนดังกล่าวคิดเป็นงานใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ 13% ส่วนที่เหลือจะเป็นงานจากภูมิภาคอื่นๆ ทั่วประเทศ ซึ่งหลังจากนี้การยื่นประมูลงานจะยังให้ความสำคัญกับภาคใต้ เพราะเชี่ยวชาญและชำนาญการทำงานในพื้นที่อย่างดี และผลงานได้รับการยอมรับทำให้มีโอกาสได้รับงานใหม่ ๆ เพิ่ม พร้อมขยายฐานธุรกิจเข้าสู่ภูมิภาคอื่นในลักษณะติดตามเจ้าของโครงการไปเปิดสาขาในภูมิภาคต่าง ๆ และในส่วนของกลุ่มลูกค้ายังให้ความสำคัญทั้งภาครัฐและเอกชน ซึ่งมีสัดส่วนงานภาครัฐ 74% ที่เหลือ 26% เป็นงานของภาคเอกชน
" จากประสบการณ์และผลงานที่เราฝากไว้ในเกือบทุกกลุ่มธุรกิจทำให้เรามีใบเบิกทางในการขยายธุรกิจเข้าสู่กลุ่ม จึงถือว่าปัจจุบัน TPOLY จะสามารถทำธุรกิจรับเหมาก่อสร้างได้อย่างครบวงจรและในภาวะเศรษฐกิจปัจจุบัน บริษัทฯ ได้ปรับเป้าหมายการประมูลงานในกลุ่มลูกค้าราชการมากขึ้น ส่วนภาคเอกชนจะเน้นเข้าประมูลงานเฉพาะกลุ่ม พร้อมปรับแผนขยายเข้าสู่กลุ่มโครงการสาธารณูปโภคพื้นฐานอย่างจริงจัง หลังจากที่รัฐบาลได้เริ่มขับเคลื่อนโครงการไทยเข้มแข็งออกมาอย่างเป็นรูปธรรม เชื่อว่าการทำธุรกิจรับเหมาก่อสร้างอย่างครบวงจรจะทำให้ TPOLY เติบโตได้อย่างแข็งแกร่งในระยะยาว " นายเจริญกล่าว
สำหรับปีนี้มั่นใจว่าจะสามารถผลักดันรายได้ ให้เติบโตต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมาตาม เป้าหมายที่วางไว้ได้ โดยคาดว่าจะอยู่ที่ 2,100 ล้านบาท จากปีก่อนที่ทำได้ 1,700 ล้านบาท