“ซินเนอร์จี้” เปิดเกมรุกขายตรงยุคที่สองในไทย ขยายไลน์กลุ่มสินค้าของใช้ในครัวเรือน พร้อมโหมหนักกลุ่มลดน้ำหนัก มั่นใจปีนี้รายได้รวมเติบโต 400% สู่ 300 ล้านบาท
นายศุภพงศ์ จันทรวีระกุล ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ซินเนอร์จี้ เวิลด์ไวด์ มาร์เก็ตติ้ง (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจขายตรงหลายชั้นจากประเทศอเมริกา เปิดเผยว่า ในปีนี้ถือว่าธุรกิจของบริษัทฯเข้าสู่ยุคที่สองแล้ว หลังจากที่ผ่านมา 5 ปีในไทยเป็นยุคของการสร้างแบรนด์สินค้าและความเชื่อถือทางธุรกิจ ไม่ได้มุ่งเน้นยอดขายมากนักเนื่องจากธุรกิจขายตรงในไทยมีการแข่งขันค่อนข้างรุนแรง จึงจำเป็นต้องสร้างบริการให้แข็งแกร่งก่อน
ทั้งนี้แผนงานรุกตลาดในปีหน้าบริษัทฯเตรียมที่จะขยายกลุ่มสินค้าเพิ่มอีกกลุ่มคือ กลุ่มสินค้าในครัวเรือน จากเดิมที่มีเพียง 3 กลุ่มคือ 1.กลุ่มสกินแคร์ สัดส่วนยอดขาย 15% 2.กลุ่มลดน้ำหนัก สัดส่วนยอดขาย 5% และ 3.กลุ่มอาหารเสริม สัดส่วนยอดขาย 80% รวมแล้วจะเป็น 4 กลุ่ม ซึ่งสินค้าที่ขายในไทยนั้นขณะนี้มีประมาณ 35 เอสเคยู เป็นแบรดน์ซินเนอร์จี้ทั้งหมดนำเข้ามาจากอเมริกา ราคาอยู่ที่ 500-2,500 บาท
โดยสินค้ากลุ่มที่ 4 นั้นในปีหน้าจะนำเข้ายาสีฟัน และเตรียมนำเข้าน้ำยาทำความสะอาดภายในบ้านด้วย คาดว่าช่วงแรกจะมีสัดส่วนยอดขายกลุ่มนี้ 5% ส่วนกลุ่มอื่นก็จะมีนำเข้าต่อเนื่อง เช่น กลุ่มลดน้ำหนักในเดือนพฤศจิกายนนี้จะมีการเปิดตัวสินค้าใหม่ที่ญี่ปุ่นเป็นครั้งแรก และจะนำเข้ามาจำหน่ายในไทยด้วย และจะเป็นกลุ่มที่บริษัทฯจะขยายตลาดมากขึ้นด้วยเพื่อรองรับกับตลาดรวมลดน้ำหนักที่เติบโตอย่างมาก
ล่าสุดบริษัทฯได้ใช้งบประมาณ 50 ล้านบาท ในการซื้อลิขสิทธิ์เครื่องตรวจวัดความดันโลหิตและลิ้นหัวใจ “B-Pro Pulse Wave Device” เข้ามาให้บริการลูกค้านาน 6 เดือน โดยสมาชิกไม่เสียค่าบริการ แต่ในอเมริกาผู้ใช้บริกาต้องเสีย 70-200 ดอลล่าร์ ส่วนที่ยุโรปต้องเสีย 500 ยูโร
อย่างไรก็ตามในส่วนของแผนการขยายสาขานั้นยังไม่มี ปัจจุบันมีจำนวน 4 สาขา ของบริษัทเองคือที่ เชียงใหม่ โคราช สุราษฎร์ธานี กทม. แต่จะใช้นโยบายให้นักธุรกิจอิสระของซินเนอร์จี้ที่สนใจเป็นผู้ลงทุนเปิดศูนย์ย่อยเอง ซึ่งขณะนี้มีเริ่มบ้างแล้วย่านชานเมือง
ปัจจุบันบริษัทฯมีสมาชิกหรือนักธุรกิจอิสระประมาณ 25,000 – 30,000 ราย ส่วนที่แอคทีฟมีประมาณ 40% โดยเสียค่าสมาชิก 200 บาทตลอดชีพ จะได้รับส่วนลดซื้อสินค้า 25% พร้อมกับคะแนนสะสมเพื่อรับสิทธิพิเศษอื่นๆ สำหรับแผนการรุกตลาดนี้ บริษัทฯคาดว่าภายในปีนี้จะมียอดขายรวมมากกว่า 300 ล้านบาท หรือมีอัตราการเติบโต
นายศุภพงศ์ จันทรวีระกุล ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ซินเนอร์จี้ เวิลด์ไวด์ มาร์เก็ตติ้ง (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจขายตรงหลายชั้นจากประเทศอเมริกา เปิดเผยว่า ในปีนี้ถือว่าธุรกิจของบริษัทฯเข้าสู่ยุคที่สองแล้ว หลังจากที่ผ่านมา 5 ปีในไทยเป็นยุคของการสร้างแบรนด์สินค้าและความเชื่อถือทางธุรกิจ ไม่ได้มุ่งเน้นยอดขายมากนักเนื่องจากธุรกิจขายตรงในไทยมีการแข่งขันค่อนข้างรุนแรง จึงจำเป็นต้องสร้างบริการให้แข็งแกร่งก่อน
ทั้งนี้แผนงานรุกตลาดในปีหน้าบริษัทฯเตรียมที่จะขยายกลุ่มสินค้าเพิ่มอีกกลุ่มคือ กลุ่มสินค้าในครัวเรือน จากเดิมที่มีเพียง 3 กลุ่มคือ 1.กลุ่มสกินแคร์ สัดส่วนยอดขาย 15% 2.กลุ่มลดน้ำหนัก สัดส่วนยอดขาย 5% และ 3.กลุ่มอาหารเสริม สัดส่วนยอดขาย 80% รวมแล้วจะเป็น 4 กลุ่ม ซึ่งสินค้าที่ขายในไทยนั้นขณะนี้มีประมาณ 35 เอสเคยู เป็นแบรดน์ซินเนอร์จี้ทั้งหมดนำเข้ามาจากอเมริกา ราคาอยู่ที่ 500-2,500 บาท
โดยสินค้ากลุ่มที่ 4 นั้นในปีหน้าจะนำเข้ายาสีฟัน และเตรียมนำเข้าน้ำยาทำความสะอาดภายในบ้านด้วย คาดว่าช่วงแรกจะมีสัดส่วนยอดขายกลุ่มนี้ 5% ส่วนกลุ่มอื่นก็จะมีนำเข้าต่อเนื่อง เช่น กลุ่มลดน้ำหนักในเดือนพฤศจิกายนนี้จะมีการเปิดตัวสินค้าใหม่ที่ญี่ปุ่นเป็นครั้งแรก และจะนำเข้ามาจำหน่ายในไทยด้วย และจะเป็นกลุ่มที่บริษัทฯจะขยายตลาดมากขึ้นด้วยเพื่อรองรับกับตลาดรวมลดน้ำหนักที่เติบโตอย่างมาก
ล่าสุดบริษัทฯได้ใช้งบประมาณ 50 ล้านบาท ในการซื้อลิขสิทธิ์เครื่องตรวจวัดความดันโลหิตและลิ้นหัวใจ “B-Pro Pulse Wave Device” เข้ามาให้บริการลูกค้านาน 6 เดือน โดยสมาชิกไม่เสียค่าบริการ แต่ในอเมริกาผู้ใช้บริกาต้องเสีย 70-200 ดอลล่าร์ ส่วนที่ยุโรปต้องเสีย 500 ยูโร
อย่างไรก็ตามในส่วนของแผนการขยายสาขานั้นยังไม่มี ปัจจุบันมีจำนวน 4 สาขา ของบริษัทเองคือที่ เชียงใหม่ โคราช สุราษฎร์ธานี กทม. แต่จะใช้นโยบายให้นักธุรกิจอิสระของซินเนอร์จี้ที่สนใจเป็นผู้ลงทุนเปิดศูนย์ย่อยเอง ซึ่งขณะนี้มีเริ่มบ้างแล้วย่านชานเมือง
ปัจจุบันบริษัทฯมีสมาชิกหรือนักธุรกิจอิสระประมาณ 25,000 – 30,000 ราย ส่วนที่แอคทีฟมีประมาณ 40% โดยเสียค่าสมาชิก 200 บาทตลอดชีพ จะได้รับส่วนลดซื้อสินค้า 25% พร้อมกับคะแนนสะสมเพื่อรับสิทธิพิเศษอื่นๆ สำหรับแผนการรุกตลาดนี้ บริษัทฯคาดว่าภายในปีนี้จะมียอดขายรวมมากกว่า 300 ล้านบาท หรือมีอัตราการเติบโต