ASTVผู้จัดการรายวัน - พนักงานสอบสวนเร่งทำสำนวนส่งฟ้องมือฆ่าหั่นศพให้ทันศุกร์นี้ เตรียมแจ้งเพิ่ม 2 ข้อหา กักขัง - ลักทรัพย์ ถึงเรือนจำ หลังติดตามทรัพย์สินผู้ตายได้คืนบางส่วน ด้าน "น้องมินท์" อาการดีขึ้นเริ่มทำกายภาพบำบัด แพทย์รอเช็กสภาพจิต ก่อนอนุญาตร่วมงานศพมารดา
วานนี้ (18 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าคดี นายสิริพงศ์ กาญจนนิวิฐ อายุ 40 ปี โชเฟอร์แท็กซี่ใช้อาวุธปืนยิงนางสุนันท์ ศรีสุวรรณ อายุ 38 ปี จนเสียชีวิต และหั่นศพ ด.ช.โช มาคิโน วัย 5 ขวบ ก่อนนำไปทิ้งเพื่ออำพรางคดีว่า ทีมพนักงานสอบสวนนำโดย พ.ต.ท.สุกิจ อรุณฤกษ์ถวิล รอง ผกก.สส.สน.ตลิ่งชัน และ พ.ต.ท.ประเสริฐ สีตลาสัย พนักงานสอบสวน (สบ 3) สน.ตลิ่งชัน เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน ได้ร่วมกันทำงานเพื่อคลี่คลายคดีดังกล่าว โดยหลังจากได้นำทรัพย์สินของนางสุนันท์ ซึ่งประกอบด้วยสร้อยคอทองคำหนัก 3 บาท 1 เส้น สร้อยข้อมือทองคำหนัก 5 บาท 1 เส้น พระเลี่ยมทอง 4 องค์ นาฬิกาโรเล็กซ์ฝังเพชร 1 เรือน ธนบัตรญี่ปุ่น 16,000 เยน รวมมูลค่าของกลางกว่า 500,000 บาท กลับคืนมาได้แล้วเมื่อวันที่ (17 ต.ค.) ก็นำทรัพย์สินทั้งหมดไปให้น้องมินท์ ดูที่โรงพยาบาลพระรามเก้า ซึ่งน้องมินท์ ยืนยันชัดเจนว่า ยังมีทรัพย์สินบางรายการที่สูญหายอยู่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อน้องมินท์ ให้ข้อมูลเกี่ยวกับทรัพย์สินบางรายการของนางสุนันท์ที่ยังไม่ได้คืนมา ทางผู้บังคับบัญชาก็ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนลงพื้นที่ติดตามทรัพย์สินจากบุคคลใกล้ชิดของนายสิริพงศ์กลับคืนมาให้ครบ แต่รายชื่อของบุคคลเหล่านั้นยังคงถูกปิดเป็นความลับอยู่ ซึ่งผู้บังคับบัญชาได้กำชับให้ดำเนินการอย่างเร่งรัดที่สุด เนื่องจากพนักงานสอบสวนพยายามที่จะสรุปสำนวนส่งฟ้องอัยการให้ทันวันศุกร์นี้ (23 ต.ค.) เพราะสำนวนคดีมีความคืบหน้าไปกว่า 90 % แล้ว ขาดเพียงผลการตรวจพิสูจน์อาวุธปืน และรอยนิ้วมือแฝงภายในรถแท็กซี่สีชมพู หมายเลขทะเบียน ทล-5979 กทม. ที่นายสิริพงศ์ ใช้ก่อเหตุมาประกอบสำนวนเท่านั้น
อย่างไรก็ตามในวันพรุ่งนี้ (19 ต.ค.) เวลาประมาณ 09.00 น. ทีมพนักงานสอบสวนจะรวบรวมพยานหลักฐานและเอกสารที่เกี่ยวข้องออกเดินทางจาก สน.ตลิ่งชัน ไปยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพ เพื่อทำการสอบปากคำและแจ้งข้อกล่าวนายสิริพงศ์ เพิ่มเติมอีก 2 ข้อหาคือ กักขังหน่วงเหนี่ยวและลักทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยมีและใช้อาวุธ นอกจากนี้คดีที่เกิดขึ้นมีอัตราโทษสูงถึงประหารชีวิต หากว่ากันตามกฎหมายแล้ว ทางสภาทนายความจะต้องจัดส่งทนายความร่วมเดินทางไปรับฟังการสอบสวนผู้ต้องหาด้วย
ด้าน นพ.ไพรัช เจาฑะเกษตริน ผู้ช่วยผู้บริหารฝ่ายการแพทย์ และผู้เชี่ยวชาญด้านศัลยกรรมกระดูก เจ้าของไข้ของน้องมินท์ กล่าวว่า ขณะนี้อาการของน้องมินท์ดีขึ้นเกือบเป็นปกติแล้ว ไม่มีไข้แล้ว โดยทีมแพทย์จะเริ่มทำการกายภาพบำบัดให้น้องมินท์ในวันนี้เป็นวันแรก ซึ่งร่างกายของน้องมินท์ก็มีการตอบสนองที่ดี และทีมแพทย์ก็จะทำกายภาพบำบัดต่อไปเรื่อยๆ จนกว่าร่างกายจะดีขึ้น
ขณะที่ นพ.วิทยา วันเพ็ญ จิตแพทย์โรงพยาบาลพระรามเก้า กล่าวว่า ขณะนี้น้องมินท์ยังมีอาการนอนหลับไม่สนิท และฝันร้ายอยู่บ้าง ซึ่งแพทย์จะรอให้สภาพจิตใจของน้องมินท์ ดีขึ้นกว่านี้เสียก่อน จึงจะอนุญาตให้เดินทางไปร่วมงานศพของ นางสุนันท์ ผู้เป็นแม่
วานนี้ (18 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าคดี นายสิริพงศ์ กาญจนนิวิฐ อายุ 40 ปี โชเฟอร์แท็กซี่ใช้อาวุธปืนยิงนางสุนันท์ ศรีสุวรรณ อายุ 38 ปี จนเสียชีวิต และหั่นศพ ด.ช.โช มาคิโน วัย 5 ขวบ ก่อนนำไปทิ้งเพื่ออำพรางคดีว่า ทีมพนักงานสอบสวนนำโดย พ.ต.ท.สุกิจ อรุณฤกษ์ถวิล รอง ผกก.สส.สน.ตลิ่งชัน และ พ.ต.ท.ประเสริฐ สีตลาสัย พนักงานสอบสวน (สบ 3) สน.ตลิ่งชัน เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน ได้ร่วมกันทำงานเพื่อคลี่คลายคดีดังกล่าว โดยหลังจากได้นำทรัพย์สินของนางสุนันท์ ซึ่งประกอบด้วยสร้อยคอทองคำหนัก 3 บาท 1 เส้น สร้อยข้อมือทองคำหนัก 5 บาท 1 เส้น พระเลี่ยมทอง 4 องค์ นาฬิกาโรเล็กซ์ฝังเพชร 1 เรือน ธนบัตรญี่ปุ่น 16,000 เยน รวมมูลค่าของกลางกว่า 500,000 บาท กลับคืนมาได้แล้วเมื่อวันที่ (17 ต.ค.) ก็นำทรัพย์สินทั้งหมดไปให้น้องมินท์ ดูที่โรงพยาบาลพระรามเก้า ซึ่งน้องมินท์ ยืนยันชัดเจนว่า ยังมีทรัพย์สินบางรายการที่สูญหายอยู่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อน้องมินท์ ให้ข้อมูลเกี่ยวกับทรัพย์สินบางรายการของนางสุนันท์ที่ยังไม่ได้คืนมา ทางผู้บังคับบัญชาก็ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนลงพื้นที่ติดตามทรัพย์สินจากบุคคลใกล้ชิดของนายสิริพงศ์กลับคืนมาให้ครบ แต่รายชื่อของบุคคลเหล่านั้นยังคงถูกปิดเป็นความลับอยู่ ซึ่งผู้บังคับบัญชาได้กำชับให้ดำเนินการอย่างเร่งรัดที่สุด เนื่องจากพนักงานสอบสวนพยายามที่จะสรุปสำนวนส่งฟ้องอัยการให้ทันวันศุกร์นี้ (23 ต.ค.) เพราะสำนวนคดีมีความคืบหน้าไปกว่า 90 % แล้ว ขาดเพียงผลการตรวจพิสูจน์อาวุธปืน และรอยนิ้วมือแฝงภายในรถแท็กซี่สีชมพู หมายเลขทะเบียน ทล-5979 กทม. ที่นายสิริพงศ์ ใช้ก่อเหตุมาประกอบสำนวนเท่านั้น
อย่างไรก็ตามในวันพรุ่งนี้ (19 ต.ค.) เวลาประมาณ 09.00 น. ทีมพนักงานสอบสวนจะรวบรวมพยานหลักฐานและเอกสารที่เกี่ยวข้องออกเดินทางจาก สน.ตลิ่งชัน ไปยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพ เพื่อทำการสอบปากคำและแจ้งข้อกล่าวนายสิริพงศ์ เพิ่มเติมอีก 2 ข้อหาคือ กักขังหน่วงเหนี่ยวและลักทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยมีและใช้อาวุธ นอกจากนี้คดีที่เกิดขึ้นมีอัตราโทษสูงถึงประหารชีวิต หากว่ากันตามกฎหมายแล้ว ทางสภาทนายความจะต้องจัดส่งทนายความร่วมเดินทางไปรับฟังการสอบสวนผู้ต้องหาด้วย
ด้าน นพ.ไพรัช เจาฑะเกษตริน ผู้ช่วยผู้บริหารฝ่ายการแพทย์ และผู้เชี่ยวชาญด้านศัลยกรรมกระดูก เจ้าของไข้ของน้องมินท์ กล่าวว่า ขณะนี้อาการของน้องมินท์ดีขึ้นเกือบเป็นปกติแล้ว ไม่มีไข้แล้ว โดยทีมแพทย์จะเริ่มทำการกายภาพบำบัดให้น้องมินท์ในวันนี้เป็นวันแรก ซึ่งร่างกายของน้องมินท์ก็มีการตอบสนองที่ดี และทีมแพทย์ก็จะทำกายภาพบำบัดต่อไปเรื่อยๆ จนกว่าร่างกายจะดีขึ้น
ขณะที่ นพ.วิทยา วันเพ็ญ จิตแพทย์โรงพยาบาลพระรามเก้า กล่าวว่า ขณะนี้น้องมินท์ยังมีอาการนอนหลับไม่สนิท และฝันร้ายอยู่บ้าง ซึ่งแพทย์จะรอให้สภาพจิตใจของน้องมินท์ ดีขึ้นกว่านี้เสียก่อน จึงจะอนุญาตให้เดินทางไปร่วมงานศพของ นางสุนันท์ ผู้เป็นแม่