“เพชรา – มิสทิน” เซอร์ไพร้ซ์ ที่ลงตัว เป็นทอล์กออฟเดอะทาวน์

เวลานี้เจอะเจอใคร ก็มีแต่คำถาม ว่า เห็น “เพชรา เชาวราษฎร์” แสดงหนังโฆษณามิสทินหรือยัง

กลายเป็น Talk of the Town ทั่วบ้านทั่วเมือง ไปแล้ว กับหนังโฆษณาชิ้นนี้ ที่ชื่อชุดว่า “Beauty Mind” ของแบรนด์มิสทิน ของบริษัท เบทเตอร์เวย์ (ประเทศไทย) จำกัด

และไม่น่าเชื่อว่า เพียงความยาวแค่ 45 วินาทีของหนังโฆษณาเรื่องนี้ จะสามารถสะกดอารมณ์ผู้ชมให้นั่งนิ่งหน้าจอทีวีจนจบโฆษณาได้

ถือเป็นความเซอร์ไพร์ซอย่างมากที่ เพชรา เชาวราษฎร์ ในวัย 60 กว่าปี กลับมาปรากฏกายบนจอภาพยนตร์อีกครั้ง แม้ว่าจะเป็นเพียงภาพยนตร์โฆษณาก็ตาม หลังจากที่ห่างหายไปจากสายตาผู้ชมมากกว่า 30 ปี ที่เธอต้องเก็บตัวเงียบอยู่ตามลำพังกับคู่ชีวิตที่ชื่อ ชรินทร์ นันทนาคร มาตลอด เหลือไว้เพียงผลงานการแสดงหนังมากกว่า 300 เรื่อง ในช่วงเวลา 16 ปี ให้อยู่ในความทรงจำของคนรุ่นก่อน

โปรเจ็คต์นี้ต้องตบมือให้กับ “ดนัย ดีโรจนวงศ์” กรรมการผู้จัดการ บริษัท เบทเตอร์เวย์ (ประเทศไทย) จำกัด ที่ต้องการทำประโยชน์ ตอบแทนสิ่งดีๆ และช่วยเหลือสังคม รวมทั้งช่วยเหลือผู้พิการทางสายตาให้ได้รับโอกาสและเงินทุนในการรักษาดวงตา ในรูปแบบซีเอสอาร์

และทำไมต้องเป็นเพชรา ???

เหตุผลหลักคือ 1.เพราะเพชราเป็นหนังเอกหนังฉายา นัยน์ตาหยาดน้ำผึ้ง แม้ว่าทุกวันนี้เธอจะอยู่ในโลกมืดก็ตาม ที่อยู่ในความทรงจำของแฟนหนังมาตลอด และเมื่อมิสทินมีเป้าหมายที่จะบริจาคให้กับมูลนิธิช่วยคนตาบอดแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชินูปถัมภ์ ซึ่งรายได้จากการจำหน่ายลิปสติกมิสทิน ไดมอนด์ ทุก 1 แท่ง จากปรกติราคา 109 บาท พิเศษเพียง 79 บาท มิสทิน จะมอบ 10 บาท แด่มูลนิธิช่วยคนตาบอดแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชินูปถัมภ์

ก็ถือว่า เพชรา เป็นคำตอบที่ถูกต้อง

2.ต้องการใช้ซีเอสอาร์ในการสร้างแบรนด์ให้อยู่ในใจผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งต้องการให้เป็นที่ดึงดูด ทั้งคนรุ่นใหม่และคนรุ่นเก่า ซึ่งก็ได้ผลเพราะ คนรุ่นเก่าก็รู้สึกว่า ได้พบกับสิ่งที่พวกเขารู้จักคุ้นเคยดีแต่หายไปนาน ทำให้ได้ใจคนรุ่นนี้ ขณะที่คนรุ่นใหม่ไม่รู้จัก ได้ยินแต่เชื่อ ก็ติตตามดูทำให้เกิดการกล่าวขานกัน

และอาจจะเป็นความบังเอิญที่ลงตัวก็ได้ ที่ลิปสติกรุ่นไดมอนด์นี้ ก็แปลว่า เพชร ขณะที่คุณอี๊ด ก็ชื่อ เพชรา จึงกลายเป็นความเหมาะสมกลมกลืนอย่างยิ่ง

“ผมคิดว่างานนี้ การที่เราเชิญคุณเพชรามาร่วมงานกับเราครั้งนี้ ถือเป็นความลงตัว ที่ถูกที่และถูกเวลา” นายดนัยกล่าวอย่างภูมิใจ

ว่ากันว่า ครั้งแรกที่ดนัยติดต่อ เพชรา ผ่านคนรู้จักส่วนตัว เพื่อให้มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ ได้รับการปฏิเสธจากเพชรา แต่เขาก็ไม่ย่อท้อ ครั้งที่สองได้คิดโปรเจกต์นี้ขึ้นมา ว่าต้องการทำซีเอสอาร์และขอเชิญให้ เพชรา มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ คำตอบก็คือ โอเค

เรียกได้ว่า งานนี้ มิสทิน ได้ทั้งกล่อง ได้ทั้งเงิน เพราะเพียงแค่หนังโฆษณาออกฉายไม่ทันไร (ออนแอร์วันที่ 30 ก.ย.52) ล่าสุดมีกระแสข่าวว่า ยอดขายลิปสติกไดมอนด์ ทะลุ 4 แสนชิ้นแล้ว จากเป้าที่ตั้งไว้ 1 ล้านแท่งจนถึงสิ้นปีนี้

ต้องบอกว่าสิ่งที่ มิสทิน ได้ครั้งนี้ คุ้มค่ามาก เพราะได้ทั้งกล่อง ได้ทั้งเงิน กับงบประมาณที่ลงทุนไป 70 ล้านบาท จากงบตลาดรวม 470 ล้านบาท

อีกทั้งยังสามารถขยายตลาดลกลุ่มเป้าหมายระดับบนให้เป็นสัดส่วน 30% จากเดิมมีเพียง 20% ในสิ้นปีนี้ และคาดว่าในอีก 2 ปีจากนี้ กลุ่มระดับบนจะมีประมาณ 50%

ขณะที่เบื้องหลังของทีมงานการสร้างสรรค์และถ่ายทำหนังโฆษณาชุดนี้ก็น่าสนใจไม่น้อย

นายปริยชาต ปลาดตา ผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์ บริษัท เฟมไลน์ จำกัด ในฐานะเอเจนซี่สร้างสรรค์งาน บอกว่า ครั้งแรกที่ได้รับโจทย์นี้ก็ท้าทายอย่างมาก เพราะโดยส่วนตัวก็ชอบ พี่อี๊ดหรือ คุณเพชรา เชาวราษฎร์ เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว พอรู้ว่าต้องถ่ายทำหนังโฆษณากับเพชราตัวจริง ก็ยิ่งตื่นเต้นมากขึ้น ต้องตั้งใจทำให้ดีที่สุด

คอนเซ็ปต์คือ การที่จะต้องทำให้คุณเพชรากลับมาปรากฏกายต่อสายตาประชาชนหลังจากหายไปกว่า 30 ปี จึงต้องนำสองสิ่งมาผสมสานกัน คือ อดีตที่รุ่งเรืองและเป็นดารายอดนิยม กับปัจจุบันในความเป็นจริงของเพชรา เราเลยทำเป็นฮอลล์ออฟเฟรม ในห้อง แล้วให้คุณเพชราเดินเข้ามา สัมผัส กับบรรยากาศเก่า ที่เหมือนกับการมองย้อนไปในอดีต ด้วยการสัมผัสกับภาพในหนังเก่าๆที่ผ่านมา

เบื้องหลังการถ่ายทำงานนี้ ไม่ได้ยากอย่างที่เข้าใจกันเลย เราใช้เวลาถ่ายทำในมูนสตาร์สตูดิโอแค่วันเดียวตั้งแต่ 7 โมงเช้า ถึง 5 ทุ่มก็เรียบร้อย และทุกฉากแทบจะไม่ต้องเทกใหม่เลย เพราะคุณเพชราก็เป็นมืออาชีพด้านการแสดงอยู่แล้ว เป็นศิลปินในสายเลือด ไม่ต้องแนะนำหรือบอกอะไรมากเลย พี่อี๊ดจะรู้ตัวดีว่า จะต้องเดินยังไง ตอนไหนควรวางท่าทางอย่างไร เอี้ยวตัวยังไง แกรู้หมด เหมือนกับคนทั่วไป

ส่วนปัญหาเรื่องการมองไม่เห็นนั้นก็ไม่ได้เป็นอุปสรรค เพราะทีมงานใช้วิธีสื่อสารกันด้วยเสียง ซึ่งก่อนที่จะถ่ายทำแต่ละฉากนั้น ก็ให้พี่อี๊ดได้ทดลองเดินตามไลน์ที่กำหนดไว้ก่อน เมื่อคุ้นแล้วก็เริ่มถ่ายทำเลย

สำหรับนายปริยชาตและเฟมไลน์นี้ มีส่วนร่วมในผลงานที่สร้างทอล์คออฟเดอะทาวน์ให้กับ มิสทิน มาแล้วไม่ต่ำกว่า 3 ครั้ง

ย้อนไปเมื่อ 10 กว่าปีก่อนกับหนังโฆษณาชื่อชุดว่า “อุบัติเหตุรัก” ที่มี ตัวละครเอกชื่อว่า “ฟ้า-รจน์” ที่นำแสดงโดย “นุ่น-สิรินทา บุณยศักดิ์” และ “ไมเคิล พูพาร์ท” เป็นละครซีรี่ย์ที่ทำให้คนต้องติดตามชมต่อเนื่อง จนทำให้นักแสดงทั้งคู่โด่งดังในชั่วเวลาข้ามคืน

ต่อมาก็คือหนังโฆษณาชุด เต่าเรียกแม่ ผลิตภัณณ์โรลออนมิสทิน มากกว่า 5 ปีที่ผ่านมา ที่ส่งผลให้วลีที่ว่า เต่าเรียกแม่ เป็นคำยอดฮิตติดปากคนทั้งเมือง

ล่าสุดกับหนังเรื่อง บิวตี้ไมด์ ที่ก็ไม่น้อยหน้ากว่างานก่อนๆ แต่อย่างใด

“ทั้งสามเรื่องมีความแตกต่างกัน แต่เรื่องที่ยากที่สุดคือ เต่าเรียกแม่ แต่สำหรับเรื่อง บิวตี้ไมด์นี้ มู้ดแอนด์โทน มันลงตัว ผมชอบมาก”

นี่คือ ทอล์กออฟเดอะทาวน์ ที่ลงตัวระหว่าง “เพชรา กับ มิสทิน”