xs
xsm
sm
md
lg

“ชรินทร์” เผย “เพชรา” ปลื้มโฆษณาสวย ฟีดแบคดีสายโทรศัพท์แทบไหม้ ทำเจ้าตัวน้ำตาซึม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“ชรินทร์” ปลื้มแทนภรรยา “เพชรา” ได้รางวัลบุคคลเกียรติยศกินรีทองคำ เผยฟีดแบคโฆษณาดีเกินคาด มีคนตาบอดโทรมาขอบคุณที่บ้านตลอดเวลา ทำ “เพชรา” ถึงกับน้ำตาซึม เพราะอยากตั้งมูลนิธิช่วยเหลือมานานแล้ว แย้มอดีตนางเอกดังชมโฆษณาสวยเลิศหรู ต่อไปอาจมีสิทธิ์เห็นงานชิ้นใหม่ พร้อมเผยเหตุที่ไม่ร้องเพลง “หยาดเพชร” ในโฆษณาเอง เพราะเรียกค่าตัวแพง ส้มเลยไปหล่นที่ “เวียร์”

เรียกว่าคุ้มค่าสมกับการรอคอยมายาวนานถึง 30 ปี ที่มีโอกาสได้ยลโฉมอดีตนางเอกยอดนิยม เจ้าของฉายานัยน์ตาหยาดน้ำผึ้ง “เพชรา เชาวราษฎร์” ในภาพยนตร์โฆษณาล่าสุดของเครื่องสำอางมิสทีน เพราะเธอยังคงดูสวยสง่าเป็นอมตะ มีราศีซูเปอร์สตาร์จับอยู่ทุกท่วงท่า และนอกจากความประทับใจดังกล่าวแล้ว อดีตนางเอกชื่อดังยังทำให้คนไทยปลาบปลื้ม
 
เมื่อเจ้าตัวเพิ่งได้รับรางวัลบุคคลเกียรติยศจากกินรีทองคำ ในงานปิดเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติกรุงเทพฯ ปี2552 ที่ผ่านมา โดยมีสามีคู่ทุกข์คู่ยากอย่าง “ชรินทร์ นันทนาคร” ขึ้นรับรางวัลแทน จากนั้นนักร้องเสียงทองได้เปิดเผยความรู้สึก และกล่าวขอบคุณทุกคนแทน “เพชรา” ที่ยังนึกถึง คาดเจ้าตัวคงภาคภูมิใจมากเช่นกันที่ได้รางวัล

“ก็รู้สึกว่าเป็นความปิติยินดีนะครับ ที่ยังระลึกถึงเพชรา เชาวราษฏร์ แต่ความจริงเพชรา เชาวราษฏร์ ก็เป็นดารานักแสดง ชรินทร์ นันทนาคร ก็เคยเป็นผู้อำนวยการสร้างและเคยเป็นผู้กำกับการแสดงมา เราก็เป็นศิลปินด้วยกันนะ เราก็ดีใจนะครับที่ได้รับรางวัล เขาคงจะภาคภูมิใจมากในการที่เขาได้ทำงานบุญงานกุศล ตอนนี้ถึงแม้ว่าเพชราดวงตาจะมองไม่เห็น แต่ดวงใจของเธอสว่างไสว”

เผยฟีดแบคโฆษณาของ “เพชรา” ดีมาก เสียงโทรศัพท์ที่บ้าน 3 เครื่องดังตลอดเวลา ส่วนใหญ่จะโทรมาขอบคุณที่ช่วยเหลือ ทำอดีตนางเอกดังถึงกับน้ำตาซึม เพราะหวังอยากตั้งมูลนิธิช่วยคนตาบอดมานานแล้ว

“ฟีดแบคดีมากเลย ตอนนี้เสียงโทรศัพท์ที่บ้าน 3 เครื่องดังพร้อมกันหมด (หัวเราะ) ส่วนใหญ่เขาก็จะบอกว่ายินดีที่ได้รับบริจาค ยินดีที่เพชราคิดถึงคนทุกข์ยากด้วยกัน ช่วยเหลือกัน ส่วนใหญ่คนที่โทรเข้ามาจะดีใจนะ บางคนก็ร้องไห้ในโทรศัพท์เลย คุณเพชราเขาก็ร้องไห้ มีน้ำตาซึมเหมือนกัน"
 
"คือที่บ้านมี 3 สายใช่มั้ย เขาก็พยายามจะรับให้ได้ทุกสาย กินข้าวก็กินกับโทรศัพท์ วางปุ๊บดังๆ บางคนบอกว่าของหนูต้องพูดนานหน่อย เพราะหนูโทรมา 1 ชั่วโมงแล้วเพิ่งได้ แต่ตอนนี้เสียไปแล้วสายนึง กำลังจะไปซื้อโทรศัพท์ใหม่อยู่ เป็นเพราะผมเองแหละ ผมพลาดทำโทรศัพท์ตก(หัวเราะ)”

“เพชรา เชาวราษฏร์ได้มีโอกาสสร้างสิ่งที่หวังไว้ คือเธออยากจะสร้างเป็นมูลนิธิดวงตาของเพชรา เชาวราษฏร์ แล้วก็ทำไม่ได้ เพราะมันติดขัดเรื่องหลายสิ่งหลายอย่าง การตั้งมูลนิธิมันต้องมีสถานที่ ต้องมีบัญชีรายรับรายจ่าย ต้องมีพนักงาน มีเจ้าหน้าที่ แล้วต้องแจ้งให้กับรัฐบาลหรือกรมสรรพากร คือมันยากก็เลยทำไม่ได้ เขาก็เลยมีความคิดอยากจะหาเงินบริจาคให้ดีกว่า แล้วก็มาทำครั้งนี้ได้รับความสำเร็จ มีเงินบริจาคให้กับสมาคมคนตาบอด ก็เป็นสิ่งที่เขาชื่นใจ”

ชมโฆษณาทำออกมาสวยมาก ขนาดภรรยามองไม่เห็นยังสัมผัสได้ว่า เป็นโฆษณาที่เลิศหรูอลังการ พร้อมเผยเหตุที่ไม่ร้องเพลง “หยาดเพชร” เอง เพราะเรียกค่าตัวแพง เจ้าของสินค้าเลยเลือกพระเอก “เวียร์ ศุกลวัฒน์ คณารส” เป็นผู้ร้องแทน

“ตอนที่โฆษณาออกเราก็นั่งอยู่ด้วยกัน ผมก็อธิบายว่ามันเป็นยังไงบ้าง ตอนนี้เธอเปิดประตูออกมา แล้วเขาจะทำแสงสว่างขึ้น ออกไปก็จะมีภาพของเพชรา ก็อธิบายเหมือนที่เราเห็นในโทรทัศน์เลย เพื่อสร้างจินตนาการให้เขา แต่เขาก็นึกภาพได้นะ เขาบอกถ้าอธิบายอย่างเธอว่า เขาก็ต้องทำสวยมากเลยสิเนี่ย ผมก็บอกสวยมาก เราต้องชมว่าเป็นโปรเจ็กต์ที่ทำออกมาดีมาก เรายังไม่คิดว่าจะดีขนาดนี้”

“คุณเพชราเขาก็มั่นใจ เขาเป็นคนตาบอด เป็นคนมองไม่เห็น แต่เขามีเซ้นส์อะไรของเขา เขาบอกเป็นโฆษณาที่เลิศหรูอลังการในความรู้สึก เวลาฉันเดินไปเขาบอกให้ทำอะไรก็ทำตาม คือในจินตนาการของเขาคือสวยมาก”

“แล้วเขาก็บอกว่าตอนที่ไปถ่ายคนร้องไห้กันเยอะ ทีแรกคนคงคิดว่าเพชราจะต้องใส่แว่น แล้วก็ต้องมีไม้เท้า แล้วก็คงจะอ้วน แล้วก็คงจะหน้าแก่(หัวเราะ) แต่ความจริงไม่ใช่หรอก เขาก็อยู่อย่างนี้แหละ น้ำหนักประมาณ 47 กิโลกรัม ซึ่งน้ำหนักปกติจะ 48-50 กิโลกรัม แต่ตอนจะมามิสทีนเขาบังคับให้เหลือ 46 แต่แค่นี้ก็ทำยากนะ มีเวลา 3-4 เดือนเอง เพราะเขากินเก่ง ไม่ค่อยลด แต่ในส่วนเพลง หยาดเพชร ที่ผมไม่ได้ไปร้องให้เอง เพราะถ้าผมร้องเองจะเรียกแพง (หัวเราะ) เขาก็เลยเอาคุณเวียร์ร้อง (หัวเราะ) เอาเวียร์ดีกว่า”

รับต่อไปอาจเห็น “เพชรา” รับงานมากขึ้น แต่ช่วงนี้ยังติดสัญญาอยู่ 1 ปี ซึ่งถ้าเสร็จจากสินค้าลิปสติก ก็อาจจะมีสินค้าตัวอื่นต่อ

“เรื่องที่เขาจะกลับมารับงานอีกครั้ง อันนี้ต้องเรียนตรงๆ เลยว่าเขามีสัญญากับบริษัทมิสทีน 1 ปี เขาจะเป็นผู้ดูแล และจะเป็นผู้พิจารณาบอกเราว่า ให้เราไปไหนบ้าง ซึ่งโปรเจ็กต์นี้จะจบสิ้นเดือนธันวาคม เขาอาจจะมีอะไรออกมาอีกก็ได้ ซึ่งเขาก็จะมีกิจกรรมอีก ก็อาจจะเป็นอีกแขนงหนึ่งก็ได้มั้ง ผมคิดว่าน่าจะเป็นสินค้าอีกหนึ่งตัว คราวนี้เป็นตัวเดียวคือลิปสติก ถ้าขายได้ 1 ล้านแท่ง เราก็จะมีเงินให้สมาคมคนตาบอด แท่งละ 10 บาท 1 ล้านแท่งก็เป็น 10 ล้านบาท”

เป็นปลื้มที่มีคนใจบุญอยากจะบริจาคดวงตาให้ “เพชรา”

“จริงๆมีคนอยากจะบริจาคดวงตาให้คุณเพชราเหมือนกัน แต่ว่าตาของคุณเพชราไม่ได้เสีย คือคนจะคิดว่าตามืดแล้วต้องเอาแว่นตามาใส่ แต่ประสาทตาเขาเสีย ประสาทตาฝ่อ มันไม่ทำงาน แต่ตาเขาก็เหมือนเรานี่แหละ ไปไหนก็สบายๆ คนยังนึกว่ามองเห็นเลย ก็ยังมาถามเขาว่าเห็นเลือนๆ ลางๆ มั้ย เขาก็บอกไม่เห็นหรอก แต่ก็ชื่นใจนะที่มนุษย์มีความกรุณาต่อมนุษย์ด้วยกัน”


กำลังโหลดความคิดเห็น