ASTVผู้จัดการรายวัน- “วรรณรัตน์”มอบนโยบายจัดทำแผนพีดีพีฉบับใหม่ปรับระยะเวลาจาก 15 ปีเป็นแผน 20 ปีให้สอดรับกับแผนลดโลกร้อนของยูเอ็นพร้อมเน้นกรีนพีดีพี
นายแพทย์วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า ได้มอบนโยบายให้ แก่คณะทำงานจัดทำแผนพัฒนากำลังไฟฟ้าระยะยาว หรือพีดีพี ชุดใหม่ที่มีนายณอคุณ สิทธิพงษ์ รองปลัดกระทรวงพลังงานเป็นประธาน และมีตัวแทนทุกภาคส่วน รวมถึงนักวิชาการ ภาคประชาชนเข้าร่วมเป็นกรรมการโดยแผนจะต้องปรับให้มีระยะเวลา 20 ปีแทนจากเดิมที่มีรยะเวลา 15ปีเนื่องจากต้องการให้สอดรับกับแผนการลดโลกร้อนของสหประชาชน(ยูเอ็น)ที่กำหนดช่วงเวลา 20 ปีเช่นกัน
“ แผนพีดีพีชุดใหม่เราพยายามให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมและต้องการให้มีการใส่แผนพลังงานสะอาดหรือเป็นกรีนพีดีพีจากเดิมที่ก่อนหน้านั้นไม่ได้ใส่เข้าไปมากนักโดยเฉพาะแผนพลังงานทดแทน 15 ปีที่กระทรวงพลังงานดำเนินการ โดยตั้งเป้าหมายว่าพีดีพีฉบับใหม่นั้นจะต้องลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ 5-10% จากปัจจุบันที่การผลิตไฟทุกหน่วยของไทยจะปล่อยออกมา 0.5กิโลกรัมต่อหน่วยไฟฟ้า”รมว.พลังงานกล่าว
สำหรับโรงไฟฟ้าถ่านหินและโรงไฟฟ้านิวเคลียร์นั้นยังจำเป็นจะต้องมีไว้เพื่อกระจายความเสี่ยงด้านพลังงานที่ไทยต้องพึ่งพิงก๊าซธรรมชาติผลิตไฟถึง 70% อย่างไรก็ตามการก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินและนิวเคลียร์จะต้องอยู่ที่การยอมรับของชุมชนเป็นสำคัญ โดยเฉพาะนิวเคลียร์นั้น จะมีการสรุปภาพรวมทั้งหมดเสนอคณะรัฐมนตรีภายใน 2 ปีข้างหน้า เพื่อตัดสินใจว่าจะเดินหน้าโรงไฟฟ้านิวเคลียร์หรือไม่ เพราะหากก่อสร้างต้องใช้เวลาประมาณ 10 ปีข้างหน้า
นายณอคุณ สิทธิพงศ์ รองปลัดกระทรวงพลังงาน ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการพิจารณาปรับปรุงแผนพีดีพี กล่าวว่า คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน ซึ่งมี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานเป็นประธาน ได้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการพิจารณาปรับปรุงแผนพีดีพีดังกล่าวขึ้นเมื่อวันที่ 16 กันยายน 2552ที่ผ่านมาโดยมีตนเป็นประธานและมีผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชนและมีการประชุมเมื่อวันที่ 7 ต.ค.ซึ่งได้แจ้งนโยบายของรมว.พลังงานให้ทราบแล้ว
นายแพทย์วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า ได้มอบนโยบายให้ แก่คณะทำงานจัดทำแผนพัฒนากำลังไฟฟ้าระยะยาว หรือพีดีพี ชุดใหม่ที่มีนายณอคุณ สิทธิพงษ์ รองปลัดกระทรวงพลังงานเป็นประธาน และมีตัวแทนทุกภาคส่วน รวมถึงนักวิชาการ ภาคประชาชนเข้าร่วมเป็นกรรมการโดยแผนจะต้องปรับให้มีระยะเวลา 20 ปีแทนจากเดิมที่มีรยะเวลา 15ปีเนื่องจากต้องการให้สอดรับกับแผนการลดโลกร้อนของสหประชาชน(ยูเอ็น)ที่กำหนดช่วงเวลา 20 ปีเช่นกัน
“ แผนพีดีพีชุดใหม่เราพยายามให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมและต้องการให้มีการใส่แผนพลังงานสะอาดหรือเป็นกรีนพีดีพีจากเดิมที่ก่อนหน้านั้นไม่ได้ใส่เข้าไปมากนักโดยเฉพาะแผนพลังงานทดแทน 15 ปีที่กระทรวงพลังงานดำเนินการ โดยตั้งเป้าหมายว่าพีดีพีฉบับใหม่นั้นจะต้องลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ 5-10% จากปัจจุบันที่การผลิตไฟทุกหน่วยของไทยจะปล่อยออกมา 0.5กิโลกรัมต่อหน่วยไฟฟ้า”รมว.พลังงานกล่าว
สำหรับโรงไฟฟ้าถ่านหินและโรงไฟฟ้านิวเคลียร์นั้นยังจำเป็นจะต้องมีไว้เพื่อกระจายความเสี่ยงด้านพลังงานที่ไทยต้องพึ่งพิงก๊าซธรรมชาติผลิตไฟถึง 70% อย่างไรก็ตามการก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินและนิวเคลียร์จะต้องอยู่ที่การยอมรับของชุมชนเป็นสำคัญ โดยเฉพาะนิวเคลียร์นั้น จะมีการสรุปภาพรวมทั้งหมดเสนอคณะรัฐมนตรีภายใน 2 ปีข้างหน้า เพื่อตัดสินใจว่าจะเดินหน้าโรงไฟฟ้านิวเคลียร์หรือไม่ เพราะหากก่อสร้างต้องใช้เวลาประมาณ 10 ปีข้างหน้า
นายณอคุณ สิทธิพงศ์ รองปลัดกระทรวงพลังงาน ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการพิจารณาปรับปรุงแผนพีดีพี กล่าวว่า คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน ซึ่งมี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานเป็นประธาน ได้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการพิจารณาปรับปรุงแผนพีดีพีดังกล่าวขึ้นเมื่อวันที่ 16 กันยายน 2552ที่ผ่านมาโดยมีตนเป็นประธานและมีผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชนและมีการประชุมเมื่อวันที่ 7 ต.ค.ซึ่งได้แจ้งนโยบายของรมว.พลังงานให้ทราบแล้ว
