ข่าวเด่น ประเด็นร้อนในช่วงนี้คงหนีไม่พ้นเรื่อง พายุ ทั้งไต้ฝุ่นกิสนา โซนร้อนป้าหม่า ซึ่งในขณะที่ดิฉันกำลังเขียนบทความนี้ ก็มีข่าวว่า จะมีพายุลูกใหม่ที่กำลังจะตามกันมาติดๆ เมื่อพูดถึงพายุ เรามักนึกถึงความรุนแรง ความเสียหาย และความสูญเสียที่เกิดขึ้นจากอิทธิพลของพายุ ถึงแม้ว่าข่าวที่เกี่ยวข้องกับพายุล้วนเป็นเรื่องร้าย แต่หากเรามองให้ดี จะเห็นโอกาสดีๆ ที่ซ่อนอยู่ในพายุ
ในสัปดาห์ที่ผ่านมา อิทธิพลพายุกิสนา ทําให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรงในฟิลิปปินส์ เวียดนาม ลาว และไทย โดยเฉพาะฟิลิปปินส์มีฝนตกรุนแรงที่สุดในรอบ 40 ปี น้ำท่วมสูงและดินถล่ม ส่วนเวียดนามและลาวมีลมกระโชกแรงกับน้ำท่วมหลายพื้นที่เช่นกัน สําหรับประเทศไทยก็มีฝนหนักถึงหนักมาก โดยเฉพาะภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคกลาง จนทำให้ทางการต้องประกาศเตือนให้ระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก แน่นอนว่าไม่มีใครอยากให้สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้น แต่ในเมื่อมันห้ามไม่ได้ แล้วเราจะทำอย่างไรดี
โดยปกติ เมื่อพายุมา พื้นที่เพาะปลูกสินค้าเกษตรมักจะได้รับความเสียหาย ส่งผลให้ปริมาณผลผลิตทางเกษตรของประเทศนั้นๆ ลดลง การแก้ปัญหาที่ง่ายที่สุดเมื่อเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวก็คือ ประเทศที่ประสบความเสียหายจากพายุ จะต้องนำเข้าสินค้าเกษตร เพื่อช่วยเหลือผู้บริโภคในประเทศ อย่างเช่นในกรณีของ ฟิลิปปินส์ ได้เตรียมสั่งนำเข้าข้าวจากต่างประเทศเพิ่มขึ้น หลังจากคาดการณ์ว่าปริมาณข้าวสำรองในประเทศฟิลิปปินส์อาจไม่เพียงพอสำหรับปีหน้า เพราะพายุ 2 ลูกถล่มพื้นที่เกษตรกรรมเสียหายเป็นวงกว้าง (โพสทูเดย์ วันที่ 5 ต.ค. 52) เมื่อเกิดเหตุการณ์สินค้าขาดแคลนเช่นนี้ สิ่งที่จะเกิดตามมา คือ ราคาผลผลิตทางการเกษตรจะเพิ่มขึ้น มาถึงตรงนี้ผู้อ่านหลายท่าน แม้จะไม่ใช่นักเศรษฐศาสตร์หรือนักลงทุนฝีมือแก่กล้า ก็ยังต้องร้องอ๋อ
พออ่านมาถึงตรงนี้ ผู้อ่านหลายท่านคงเริ่มมองเห็นถึงโอกาสในพายุ ด้วยการใช้เงินทำงานแทนเรา โดยผ่านตลาดซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้า (AFET) นั่นเอง
หากผู้อ่านยังจำกันได้ ในสัปดาห์ที่แล้วดิฉันได้เล่าให้ฟังไปว่า กลยุทธ์การซื้อขายใน AFET สามารถทำได้ 2 ทาง คือ 1.หากคาดว่าราคาสินค้าอ้างอิงจะเพิ่มขึ้น ก็ควรซื้อฟิวเจอร์ส (Long Position) และ 2.หากคาดว่าราคาสินค้าอ้างอิงจะลดลง ก็ควรขายฟิวเจอร์ส (Short Position) สำหรับตัวดิฉันเองมองว่า ในภาวะเช่นนี้น่าจะเป็นโอกาสอันดีที่เราจะมาลงทุน “ซื้อถูก ขายแพง” อย่างไรก็ตามการลงทุนมีความเสี่ยง ดังนั้นเราในฐานะเจ้านายของเงิน ก็ต้องคอยดูแล บริหารจัดการให้เงินทำงานอย่างถูกที่ ถูกเวลาด้วยนะคะ
วิธีการซื้อถูก ขายแพงนี้ ไม่ต้องเปิดตลาด ตั้งร้านค้าให้วุ่นวาย แค่เปิดอินเตอร์เน็ต http://www.afet.or.th คุณจะได้พบกับตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย ตลาดลงทุนที่คุณสามารถคว้ากำไรในพายุ โดย website แห่งนี้ ได้รวบรวมข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้า แนวโน้มการเคลื่อนไหวของราคา เทคนิคและวิธีการลงทุนในตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าไว้อย่างครบครัน เพื่อให้คุณสามารถสร้างความรู้ ที่จะเป็นเกราะคุ้มกันเงินลงทุนของคุณให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
รีบๆ กันหน่อยนะคะ โอกาสดีๆ ไม่มีเวลารอคอยให้ใคร เหมือนพายุ ที่หมุนมาแล้วหมุนไป
ในสัปดาห์ที่ผ่านมา อิทธิพลพายุกิสนา ทําให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรงในฟิลิปปินส์ เวียดนาม ลาว และไทย โดยเฉพาะฟิลิปปินส์มีฝนตกรุนแรงที่สุดในรอบ 40 ปี น้ำท่วมสูงและดินถล่ม ส่วนเวียดนามและลาวมีลมกระโชกแรงกับน้ำท่วมหลายพื้นที่เช่นกัน สําหรับประเทศไทยก็มีฝนหนักถึงหนักมาก โดยเฉพาะภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคกลาง จนทำให้ทางการต้องประกาศเตือนให้ระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก แน่นอนว่าไม่มีใครอยากให้สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้น แต่ในเมื่อมันห้ามไม่ได้ แล้วเราจะทำอย่างไรดี
โดยปกติ เมื่อพายุมา พื้นที่เพาะปลูกสินค้าเกษตรมักจะได้รับความเสียหาย ส่งผลให้ปริมาณผลผลิตทางเกษตรของประเทศนั้นๆ ลดลง การแก้ปัญหาที่ง่ายที่สุดเมื่อเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวก็คือ ประเทศที่ประสบความเสียหายจากพายุ จะต้องนำเข้าสินค้าเกษตร เพื่อช่วยเหลือผู้บริโภคในประเทศ อย่างเช่นในกรณีของ ฟิลิปปินส์ ได้เตรียมสั่งนำเข้าข้าวจากต่างประเทศเพิ่มขึ้น หลังจากคาดการณ์ว่าปริมาณข้าวสำรองในประเทศฟิลิปปินส์อาจไม่เพียงพอสำหรับปีหน้า เพราะพายุ 2 ลูกถล่มพื้นที่เกษตรกรรมเสียหายเป็นวงกว้าง (โพสทูเดย์ วันที่ 5 ต.ค. 52) เมื่อเกิดเหตุการณ์สินค้าขาดแคลนเช่นนี้ สิ่งที่จะเกิดตามมา คือ ราคาผลผลิตทางการเกษตรจะเพิ่มขึ้น มาถึงตรงนี้ผู้อ่านหลายท่าน แม้จะไม่ใช่นักเศรษฐศาสตร์หรือนักลงทุนฝีมือแก่กล้า ก็ยังต้องร้องอ๋อ
พออ่านมาถึงตรงนี้ ผู้อ่านหลายท่านคงเริ่มมองเห็นถึงโอกาสในพายุ ด้วยการใช้เงินทำงานแทนเรา โดยผ่านตลาดซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้า (AFET) นั่นเอง
หากผู้อ่านยังจำกันได้ ในสัปดาห์ที่แล้วดิฉันได้เล่าให้ฟังไปว่า กลยุทธ์การซื้อขายใน AFET สามารถทำได้ 2 ทาง คือ 1.หากคาดว่าราคาสินค้าอ้างอิงจะเพิ่มขึ้น ก็ควรซื้อฟิวเจอร์ส (Long Position) และ 2.หากคาดว่าราคาสินค้าอ้างอิงจะลดลง ก็ควรขายฟิวเจอร์ส (Short Position) สำหรับตัวดิฉันเองมองว่า ในภาวะเช่นนี้น่าจะเป็นโอกาสอันดีที่เราจะมาลงทุน “ซื้อถูก ขายแพง” อย่างไรก็ตามการลงทุนมีความเสี่ยง ดังนั้นเราในฐานะเจ้านายของเงิน ก็ต้องคอยดูแล บริหารจัดการให้เงินทำงานอย่างถูกที่ ถูกเวลาด้วยนะคะ
วิธีการซื้อถูก ขายแพงนี้ ไม่ต้องเปิดตลาด ตั้งร้านค้าให้วุ่นวาย แค่เปิดอินเตอร์เน็ต http://www.afet.or.th คุณจะได้พบกับตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย ตลาดลงทุนที่คุณสามารถคว้ากำไรในพายุ โดย website แห่งนี้ ได้รวบรวมข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้า แนวโน้มการเคลื่อนไหวของราคา เทคนิคและวิธีการลงทุนในตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าไว้อย่างครบครัน เพื่อให้คุณสามารถสร้างความรู้ ที่จะเป็นเกราะคุ้มกันเงินลงทุนของคุณให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
รีบๆ กันหน่อยนะคะ โอกาสดีๆ ไม่มีเวลารอคอยให้ใคร เหมือนพายุ ที่หมุนมาแล้วหมุนไป