เอเอฟพี - พายุไต้ฝุ่นกิสนา ขยายขอบเขตแห่งการทำลายล้างทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในวันพุธ(30) หลังซัดกระหน่ำหลายหมู่บ้านในเวียดนาม กัมพูชา และลาว ปลิวหายไปกับสายลม ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตทั้งภูมิภาคแห่งนี้ขยับขึ้นเป็น 331 ศพแล้ว
พายุได้นำพาอุทกภัยครั้งร้ายแรงที่สุดในรอบทศวรรษเข้าเล่นงานเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะเมืองหลวงของฟิลิปปินส์ที่ต้องจมอยู่ใต้น้ำจากฝนตกหนักในช่วงสุดสัปดาห์ ขณะที่รัฐบาลของประเทศต่างๆ พยายามอย่างหนักเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่รอดชีวิตกว่า 2 ล้านคน
กิสนา สังหารชีวิตราษฎรในฟิลิปปินส์ไป 246 ราย ก่อนอ่อนตัวลงเป็นพายุโซนร้อน ทว่ามันทวีความรุนแรงขึ้นขณะพัดผ่านทะเลจีนใต้และพัดเข้าถล่มเวียดนามในวันอังคาร(29) ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 74 ราย จากอุทกภัยและโคลนถล่ม
จากนั้นพายุลูกนี้ได้เข้าถล่มกัมพูชา คร่าชีวิตพลเรือนไป 11 ราย และยังก่อให้เกิดน้ำท่วมสูงหลายเมตรในลาว ก่อนที่มันจะลดระดับความรุนแรงลงเหลือพายุดีเปรสชันในวันพุธ(30) ส่วนเจ้าหน้าที่ทางภาคเหนือของไทยก็ประกาศเตือนภัยระดับสูง อย่างไรก็ตามยังไม่มีรายงานถึงความเสียหาย
ผู้รอดชีวิตที่ตกค้างและกำลังหิวโหยต่างต้องอพยพขึ้นไปอยู่บนหลังคาบ้าน หลังเกิดอุทกภัยในหลายพื้นที่ทางภาคกลางของเวียดนาม ทั้งนี้พวกเขาคร่ำครวญถึงความช่วยเหลือที่ล่าช้าจากรัฐบาล
ในฮอยอัน เมืองท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ มรดกโลกของยูเนสโก ประชาชนบางส่วนตกค้างอยู่บนหลังคาบ้านจนกระทั่งเรือช่วยเหลือของทหารเดินทางมาถึง “ความช่วยเหลือของเราเป็นไปอย่างยากลำบากแม้มีการระดมพลจากทั้งทหารและตำรวจ เพราะว่าขอบเขตของอุทกภัยกว้างขวางเกินไป รวมถึงขาดแคลนอุปกรณ์ด้วย” ประธานกาชาดเวียดนามกล่าว
เจ้าหน้าที่และสหประชาชาติคาดคะเนว่า มีชาวเวียดนามราว 200,000 คนที่ต้องอพยพออกจากที่อยู่อาศัย และบ้านเรือนราษฎรพังถล่ม 30 หลัง ส่วนอีกราว 100,000 หลังถูกน้ำท่วมและได้รับความเสียหายบางอย่าง
มีผู้เสียชีวิต 9 ราย และบาดเจ็บ 28 คนในภาคกลางของกัมพูชา ส่วนอีก 2 คนเสียชีวิตทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทั้งนี้เจ้าหน้าที่บอกว่าประชาชนหลายพันคนต้องอพยพออกจากที่อยู่อาศัยขณะที่ลมพายุพัดกระหน่ำด้วยความแรงถึง 145 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
“มีประชาชนอย่างน้อย 9 คนถูกบ้านพังลงมาทับเสียชีวืตเมื่อคืนนี้” หัวหน้าสภากาชาดกำปงธมบอก พร้อมระบุว่าในเมืองแห่งนี้มีบ้าน 92 หลังได้รับความเสียหายจากพายุดังกล่าว
ด้านในประเทศลาว มีรายงานหมู่บ้าน 5 ถึง 6 แห่งในแขวงสะหวันนะเขด ได้ประสบกับอุทกภัย แต่เจ้าหน้าที่บรรเทาภัยยังสามารถเข้าถึงพื้นที่ประสบภัยในทางรถได้
อนึ่ง กิสนา ได้นำพาพายุฝนครั้งรุนแรงที่สุดในรอบกว่า 4 ทศวรรษเข้าถล่มกรุงมะนิลา และพื้นที่โดยรอบเมื่อวันเสาร์(26) ส่งผลให้พื้นที่กว่า 80 เปอร์เซ็นต์ ของเมืองหลวงของฟิลิปปินส์ จมอยู่ใต้น้ำ
ขณะเดียวกันก็มีคำเตือนถึงเค้ารางของพายุลูกใหม่ที่อาจก่อหายนะซ้ำเติมประเทศแห่งนี้ โดยเวลานี้พายุป้าหม่า เคลื่อนตัวอยู่ทางตะวันออกของฟิลิปปินส์และคาดหมายว่าจะพัดถล่มประเทศแห่งนี้ในวันพฤหัสบดี(1) หรือวันศุกร์(2)
