นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำกลุ่มนปช. หรือกลุ่มคนเสื้อแดง กล่าวถึงกรณีที่ สถานีโทรทัศน์ ผ่านดาวเทียม ASTV และเวปไซด์ ASTVผู้จัดการ นำเสนอรายงาน พิเศษเบื้องหลังชีวิตของนายณัฐวุฒิว่ารวยขึ้นหลังเคลื่อนไหวทางการเมืองร่วมกับกลุ่มคนเสื้อแดงว่า บ้านของตนที่สนามบินน้ำนั้นเป็นบ้านที่ตนอาศัยอยู่ในปัจจุบัน และอยู่มาตั้งแต่ต้นปี 2548 แล้ว ทำสัญญาซื้อขายเท่าไหร่ ดาวน์บ้านไปเท่าไหร่ และผ่อนเดือนละเท่าไหร่นั้น เมื่อครั้งที่ดำรงตำแหน่งทางการเมืองก็ได้ยื่น ป.ป.ช.ทั้งหมด มีหลักฐานทุกอย่าง ที่สำคัญจะเป็นไปได้อย่างไรที่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะเป็นผู้ซื้อบ้านหลังดังกล่าวให้ เนื่องจากพ.ต.ท.ทักษิณถูกยึดอำนาจเมื่อวันที่ 19 ก.ย. 2549 ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้ที่พ.ต.ท.ทักษิณจะมาซื้อบ้านให้กับตนก่อนที่จะถูกยึดอำนาจตั้ง 1 ปีกว่า เพราะจะรู้ได้อย่างไรว่าอีก 1 ปีกว่าจะถูกยึดอำนาจ จึงต้องมาซื้อบ้านให้ ส่วนรถยนต์นั้นก็ยืนยันว่าตนเป็นคนซื้อเอง
ส่วนกรณีที่บอกว่าแม่ของตนขายข้าวแกงแล้วเจ๊ง จนต้องหนีหนี้ไปอยู่ที่อื่นนั้น ที่บ้านตนทำกิจการรีสอร์ทในพื้นที่ ซึ่งมีลูกค้าเยอะแม่จึงมาช่วยเท่านั้นเอง และลูกค้า ที่รีสอร์ทก็เยอะตามปกติ ส่วนที่บอกว่ามีญาติพี่น้องของตนอายจนต้องเปลี่ยน นามสกุลนั้น ยืนยันว่าไม่มี ไปเอาตัวมาให้ดูหน่อยว่าคนไหนที่เปลี่ยนนามสกุลหนี
คนในพื้นที่ที่เอามาพูดนั้นอยากให้เอาคนที่น่าเชื่อถือหน่อย เพราะคนที่พูดนั้นคนหนึ่งเป็นกระเทยอยู่แถวนั้น คนในพื้นที่ฟังข่าวนี้แล้วยังขำว่ากระเทยคนนี้ มาให้ข่าวได้ด้วยหรือ ส่วนอีกคนก็ตัวผอมๆ เป็นลูกน้องเจ้ามือไฮโล โปปั่นในพื้นที่ และที่บอกว่าผมกลับบ้านไม่ได้นั้น การเลือกตั้งซ่อม ส.ส.สุราษฎร์ธานีที่ผ่านมาผมก็เพิ่งจะกลับไปบ้านมา 5 วัน ไม่เห็นมีปัญหาอะไร แต่ผู้ประกาศ ASTV ที่บอกว่าผมไม่มีอะไรเลยนั้น อยากรู้ว่าคนที่นั่งพูดอยู่ตรงนั้นมันกับผมใครมีอะไรมากกว่ากัน ผมไม่ใช่คนสิ้นไร้ไม่ตอกนะ ซัดผมได้ไม่มีปัญหา แต่ต้องเอาความจริงมาว่ากัน
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธานส.ส.พรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงการพูด ในงานสัมมนาพรรคเพื่อไทย ที่จ.ขอนแก่นว่า ตนเป็นคนส่งเทปบันทึกเสียงนายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ ที่วิจารณ์สมเด็จฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชาให้กับสมเด็จฮุนเซนจนถูกพรรคประชาธิปัตย์โจมตีนั้น เป็นการพูดในวงสัมมนา ให้เกิดสีสัน แต่ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่ คนรู้กันทั่วโลกแล้ว สมเด็จฮุนเซ็นก็รู้นานแล้ว มาถามว่า ตนเป็นคนไทยหรือเปล่า ก็ตอบว่าไทยแท้ แต่ขอถามว่านายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ไม่รู้เรื่องนี้จริงๆ หรือ ยังไปเอานายกษิตมาเป็นรมว.ต่างประเทศ มันจึงเป็นเหตุให้เกิดความร้าวฉานระหว่างประเทศ
มาบอกว่าผมไม่น่าทำอย่างนี้ ก็แล้วทำไม ผมไม่ได้รักพวกคุณนี่ พวกคุณปล้นอำนาจพวกผมมาเป็นรัฐบาล ผมเป็นฝ่ายค้านต้องไล่ทุกที่ที่มีโอกาส เพราะรัฐบาลชุดนี้ไม่มีผลงาน มีแต่ข่าวการทุจริต ครุภัณฑ์ที่เขาไม่ต้องการก็เอาไปให้ ส่วนที่ซื้อก็แพงลิบลิ่ว
ส่วนกรณีที่บอกว่าแม่ของตนขายข้าวแกงแล้วเจ๊ง จนต้องหนีหนี้ไปอยู่ที่อื่นนั้น ที่บ้านตนทำกิจการรีสอร์ทในพื้นที่ ซึ่งมีลูกค้าเยอะแม่จึงมาช่วยเท่านั้นเอง และลูกค้า ที่รีสอร์ทก็เยอะตามปกติ ส่วนที่บอกว่ามีญาติพี่น้องของตนอายจนต้องเปลี่ยน นามสกุลนั้น ยืนยันว่าไม่มี ไปเอาตัวมาให้ดูหน่อยว่าคนไหนที่เปลี่ยนนามสกุลหนี
คนในพื้นที่ที่เอามาพูดนั้นอยากให้เอาคนที่น่าเชื่อถือหน่อย เพราะคนที่พูดนั้นคนหนึ่งเป็นกระเทยอยู่แถวนั้น คนในพื้นที่ฟังข่าวนี้แล้วยังขำว่ากระเทยคนนี้ มาให้ข่าวได้ด้วยหรือ ส่วนอีกคนก็ตัวผอมๆ เป็นลูกน้องเจ้ามือไฮโล โปปั่นในพื้นที่ และที่บอกว่าผมกลับบ้านไม่ได้นั้น การเลือกตั้งซ่อม ส.ส.สุราษฎร์ธานีที่ผ่านมาผมก็เพิ่งจะกลับไปบ้านมา 5 วัน ไม่เห็นมีปัญหาอะไร แต่ผู้ประกาศ ASTV ที่บอกว่าผมไม่มีอะไรเลยนั้น อยากรู้ว่าคนที่นั่งพูดอยู่ตรงนั้นมันกับผมใครมีอะไรมากกว่ากัน ผมไม่ใช่คนสิ้นไร้ไม่ตอกนะ ซัดผมได้ไม่มีปัญหา แต่ต้องเอาความจริงมาว่ากัน
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธานส.ส.พรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงการพูด ในงานสัมมนาพรรคเพื่อไทย ที่จ.ขอนแก่นว่า ตนเป็นคนส่งเทปบันทึกเสียงนายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ ที่วิจารณ์สมเด็จฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชาให้กับสมเด็จฮุนเซนจนถูกพรรคประชาธิปัตย์โจมตีนั้น เป็นการพูดในวงสัมมนา ให้เกิดสีสัน แต่ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่ คนรู้กันทั่วโลกแล้ว สมเด็จฮุนเซ็นก็รู้นานแล้ว มาถามว่า ตนเป็นคนไทยหรือเปล่า ก็ตอบว่าไทยแท้ แต่ขอถามว่านายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ไม่รู้เรื่องนี้จริงๆ หรือ ยังไปเอานายกษิตมาเป็นรมว.ต่างประเทศ มันจึงเป็นเหตุให้เกิดความร้าวฉานระหว่างประเทศ
มาบอกว่าผมไม่น่าทำอย่างนี้ ก็แล้วทำไม ผมไม่ได้รักพวกคุณนี่ พวกคุณปล้นอำนาจพวกผมมาเป็นรัฐบาล ผมเป็นฝ่ายค้านต้องไล่ทุกที่ที่มีโอกาส เพราะรัฐบาลชุดนี้ไม่มีผลงาน มีแต่ข่าวการทุจริต ครุภัณฑ์ที่เขาไม่ต้องการก็เอาไปให้ ส่วนที่ซื้อก็แพงลิบลิ่ว