ASTVผู้จัดการรายวัน - "กรณ์" จูบปากรัฐมนตรีคลังจีน ผลักดันเศรษฐกิจไทยโดยเฉพาะกรณี ICBC ซื้อแบงก์สินเอเซย ด้านแบงก์ชาติเผยยังไม่ได้รับหนังสือซื้อขายหุ้นจากแบงก์กรุงเทพ จึงต้องปรับวันละ 2 พันบาทเหมือน 2 ปีที่ผ่านมา
นายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง เปิดเผยว่า จากการหารือร่วมกับ รมว.คลัง จีน นอกรอบ ในที่ประชุมผู้บริหารธนาคารโลกและกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ประจำปี 52 จากประเทศตุรกี รมว.คลังจีนยืนยันว่าจะสนับสนุนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจระหว่างประเทศร่วมกัน โดยเฉพาะกรณี ธนาคาร อินดัสเตรียล แอนด์ คอมเมอร์เชียล แบงก์ ออฟ ไชน่า (ICBC) แสดงเจตจำนงจะลงทุนในธนาคารสินเอเซีย (ACL) ของไทย โดยคลังยืนยันจะขายหุ้นที่ถืออยู่ขณะนี้ 30% ในราคา 11.50 บาท เท่ากับที่ ICBC ตกลงซื้อหุ้นจากธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (BBL)
"ถ้าไม่มีเงื่อนไขอื่นที่คลังจะพิจารณาอีก เราก็จะตกลงซื้อขาย ซึ่งราคา 11.50 บาท เราพอใจในระดับหนึ่ง แต่ไอซีบีซีก็จำเป็นต้องตั้งโต๊ะซื้อจากรายอื่นเพื่อถึงวันนั้นอาจมีรายอื่นเข้ามาเสนอแข่งราคาซื้อได้" นายกรณ์กล่าว
สำหรับทิศทางค่าเงินบาทแม้จะแข็งค่าขึ้นแต่ก็เป็นไปในทิศทางเดียวและเกาะติดกันทั้งกลุ่มประเทศอาเซียน ไม่ทำให้ไทยเสียเปรียบหรือได้เปรียบทางการค้า อย่างไรก็ตามประเด็นนี้ถือเป็นเรื่องสำคัญที่ส่งผลให้กลุ่มประเทศในเอเชียเปลี่ยนนโยบายจากการเน้นการส่งออกมาเน้นการใช้จ่ายในประเทศแทน เพื่อปรับสมดุลทางการค้าระหว่างประเทศตะวันออกและตะวันตก
ธปท.ยังคงปรับBBLวันละ 2 พัน
นายสรสิทธิ์ สุนทรเกศ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า เบื้องต้นผู้บริหารธนาคารกรุงเทพซึ่งถือหุ้นในธนาคารสินเอเชียจำนวน 19.96%ได้โทรศัพท์มาหารือกับนายเกริก วณิกกุล รองผู้ว่าการด้านเสถียรภาพสถาบันการเงินแล้ว แต่ยังไม่ได้ส่งหนังสืออย่างเป็นทางการเกี่ยวกับการซื้อขายหุ้น จึงต้องรอความชัดเจนก่อนว่าใครบ้างเป็นผู้ซื้อหรือผู้ขาย
สำหรับขั้นตอนการยื่นหนังสือการขายหุ้นธนาคารสินเซียนั้นตามหลักการโดยทั่วไปแล้วธนาคารกรุงเทพและธนาคารสินเอเชียต้องมีการส่งหนังสือมายังธปท.ทั้ง 2 ฝ่าย โดยธนาคารกรุงเทพต้องชี้แจงว่าขายหุ้นไปแล้วให้แก่ใครและขายเมื่อไร เพื่อยุติการเสียเงินค่าปรับ ส่วนสินเอเชียชี้แจงว่าการเปลี่ยนแปลงสัดส่วนผู้ถือหุ้นรายใหม่ที่ถือเกิน 10% พร้อมทั้งแจ้งรายละเอียดผู้ถือหุ้นต่างชาติทุกรายรวมกันกับผู้ถือหุ้นรายใหม่ที่เป็นต่างชาติ หากถือหุ้นเกิน 49% ต้องทำหนังสือมายัง ธปท.และ ธปท.จะส่งหนังสือนี้ไปให้แก่กระทรวงการคลังด้วยการแนบความคิดเห็นธปท.ประกอบด้วย
ทั้งนี้ ที่ผ่านมา ประมาณ 2 ปี ธปท.ได้ปรับเงินธนาคารกรุงเทพ วันละ 2,000 บาท ซึ่งเป็นไปตามหลักเกณฑ์ในแผนพัฒนาระบบสถาบันการเงิน (มาสเตอร์แพลน) ฉบับแรกที่กำหนดไม่ให้ห้ามไม่ให้ถือหุ้นสถาบันการเงินอื่นซ้ำซ้อนกัน โดยครั้งล่าสุด ธปท.ได้ปรับเมื่อสิ้นเดือน ธ.ค.51 และมีการปรับอีกครั้งในเดือน มิ.ย.52 แต่ ธปท.เห็นว่าธนาคารกรุงเทพมีการเจรจากันอยู่กับผู้ที่สนใจซื้อหุ้นธนาคารสินเอเชีย จึงคาดว่าหากการขายหุ้นครั้งนี้เสร็จเรียบร้อยก็จะยุติการปรับเบี้ยค่าปรับ และรวบยอดส่วนที่เหลือ คือ นับตั้งแต่ต้นปีจนถึงวันที่ขายหุ้นเสร็จสิ้นเรียบร้อย
มูดี้ส์ชี้ตอกย้ำความเชื่อมั่น
รายงาน "Moody's Weekly Credit Outlook" ระบุว่า การที่ ICBC ตกลงซื้อหุ้นธนาคารสินเอเซียจะช่วยส่งเสริมลู่ทางในการผนึกกำลังเป็นพันธมิตรระหว่างสถาบันการเงินท้องถิ่นและสถาบันระดับโลก นอกจากนี้ ธนาคารต่างประเทศควรจะให้ความสำคัญกับมาตรฐานการกำกับดูแลมากขึ้น เนื่องจากมูดีส์คาดว่า ธนาคารต่างประเทศ และสถาบันการเงินท้องถิ่นจะเดินไปในทิศทางของการควบคุมดูแลเชิงกลยุทธ์ และบริหารในส่วนของกิจกรรมของธนาคารมากขึ้นผ่านทางกลุ่มผู้ถือหุ้นทั่วโลก ระดับของสภาพคล่องหรือการให้การสนับสนุนเงินทุนนั้นก็มีแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นในเร็วๆนี้ ซึ่งถือเป็นความเชื่อมั่นที่เป็นบวกสำหรับธนาคารที่ได้ขายหุ้นไป
เมื่อเดือนก.ย.ที่ผ่านมา กระทรวงคลังของไทยได้อนุมัติแผนการของกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน (FIDF) ในการขายหุ้นธนาคารนครหลวงไทยจำกัด (มหาชน) หรือ SCIB จำนวน 47.6% ส่งผลให้มีการคาดการณ์ในตลาดว่า สถาบันการเงินระดับโลกหลายราย โดยเฉพาะธนาคารแห่งโนวาสโกเทียของแคนาดาที่สนใจซื้อหุ้นของ FIDF
หากพิจารณาจากความสนใจที่แรงกล้าของนักลงทุนต่างชาติ รวมทั้งความตั้งใจของรัฐบาลที่จะขายหุ้นในองค์กรที่รัฐบาลเป็นเจ้าของนั้น คาดว่าการเข้ามาลงทุนในภาคสถาบันการเงินของไทยจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และในระยะกลาง หากว่าราคาอยู่ในระดับที่เหมาะสม ก็มีแนวโน้มว่านักลงทุนจะเข้าซื้อหุ้นของรัฐบาลในธนาคารอื่นๆ
นายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง เปิดเผยว่า จากการหารือร่วมกับ รมว.คลัง จีน นอกรอบ ในที่ประชุมผู้บริหารธนาคารโลกและกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ประจำปี 52 จากประเทศตุรกี รมว.คลังจีนยืนยันว่าจะสนับสนุนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจระหว่างประเทศร่วมกัน โดยเฉพาะกรณี ธนาคาร อินดัสเตรียล แอนด์ คอมเมอร์เชียล แบงก์ ออฟ ไชน่า (ICBC) แสดงเจตจำนงจะลงทุนในธนาคารสินเอเซีย (ACL) ของไทย โดยคลังยืนยันจะขายหุ้นที่ถืออยู่ขณะนี้ 30% ในราคา 11.50 บาท เท่ากับที่ ICBC ตกลงซื้อหุ้นจากธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (BBL)
"ถ้าไม่มีเงื่อนไขอื่นที่คลังจะพิจารณาอีก เราก็จะตกลงซื้อขาย ซึ่งราคา 11.50 บาท เราพอใจในระดับหนึ่ง แต่ไอซีบีซีก็จำเป็นต้องตั้งโต๊ะซื้อจากรายอื่นเพื่อถึงวันนั้นอาจมีรายอื่นเข้ามาเสนอแข่งราคาซื้อได้" นายกรณ์กล่าว
สำหรับทิศทางค่าเงินบาทแม้จะแข็งค่าขึ้นแต่ก็เป็นไปในทิศทางเดียวและเกาะติดกันทั้งกลุ่มประเทศอาเซียน ไม่ทำให้ไทยเสียเปรียบหรือได้เปรียบทางการค้า อย่างไรก็ตามประเด็นนี้ถือเป็นเรื่องสำคัญที่ส่งผลให้กลุ่มประเทศในเอเชียเปลี่ยนนโยบายจากการเน้นการส่งออกมาเน้นการใช้จ่ายในประเทศแทน เพื่อปรับสมดุลทางการค้าระหว่างประเทศตะวันออกและตะวันตก
ธปท.ยังคงปรับBBLวันละ 2 พัน
นายสรสิทธิ์ สุนทรเกศ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า เบื้องต้นผู้บริหารธนาคารกรุงเทพซึ่งถือหุ้นในธนาคารสินเอเชียจำนวน 19.96%ได้โทรศัพท์มาหารือกับนายเกริก วณิกกุล รองผู้ว่าการด้านเสถียรภาพสถาบันการเงินแล้ว แต่ยังไม่ได้ส่งหนังสืออย่างเป็นทางการเกี่ยวกับการซื้อขายหุ้น จึงต้องรอความชัดเจนก่อนว่าใครบ้างเป็นผู้ซื้อหรือผู้ขาย
สำหรับขั้นตอนการยื่นหนังสือการขายหุ้นธนาคารสินเซียนั้นตามหลักการโดยทั่วไปแล้วธนาคารกรุงเทพและธนาคารสินเอเชียต้องมีการส่งหนังสือมายังธปท.ทั้ง 2 ฝ่าย โดยธนาคารกรุงเทพต้องชี้แจงว่าขายหุ้นไปแล้วให้แก่ใครและขายเมื่อไร เพื่อยุติการเสียเงินค่าปรับ ส่วนสินเอเชียชี้แจงว่าการเปลี่ยนแปลงสัดส่วนผู้ถือหุ้นรายใหม่ที่ถือเกิน 10% พร้อมทั้งแจ้งรายละเอียดผู้ถือหุ้นต่างชาติทุกรายรวมกันกับผู้ถือหุ้นรายใหม่ที่เป็นต่างชาติ หากถือหุ้นเกิน 49% ต้องทำหนังสือมายัง ธปท.และ ธปท.จะส่งหนังสือนี้ไปให้แก่กระทรวงการคลังด้วยการแนบความคิดเห็นธปท.ประกอบด้วย
ทั้งนี้ ที่ผ่านมา ประมาณ 2 ปี ธปท.ได้ปรับเงินธนาคารกรุงเทพ วันละ 2,000 บาท ซึ่งเป็นไปตามหลักเกณฑ์ในแผนพัฒนาระบบสถาบันการเงิน (มาสเตอร์แพลน) ฉบับแรกที่กำหนดไม่ให้ห้ามไม่ให้ถือหุ้นสถาบันการเงินอื่นซ้ำซ้อนกัน โดยครั้งล่าสุด ธปท.ได้ปรับเมื่อสิ้นเดือน ธ.ค.51 และมีการปรับอีกครั้งในเดือน มิ.ย.52 แต่ ธปท.เห็นว่าธนาคารกรุงเทพมีการเจรจากันอยู่กับผู้ที่สนใจซื้อหุ้นธนาคารสินเอเชีย จึงคาดว่าหากการขายหุ้นครั้งนี้เสร็จเรียบร้อยก็จะยุติการปรับเบี้ยค่าปรับ และรวบยอดส่วนที่เหลือ คือ นับตั้งแต่ต้นปีจนถึงวันที่ขายหุ้นเสร็จสิ้นเรียบร้อย
มูดี้ส์ชี้ตอกย้ำความเชื่อมั่น
รายงาน "Moody's Weekly Credit Outlook" ระบุว่า การที่ ICBC ตกลงซื้อหุ้นธนาคารสินเอเซียจะช่วยส่งเสริมลู่ทางในการผนึกกำลังเป็นพันธมิตรระหว่างสถาบันการเงินท้องถิ่นและสถาบันระดับโลก นอกจากนี้ ธนาคารต่างประเทศควรจะให้ความสำคัญกับมาตรฐานการกำกับดูแลมากขึ้น เนื่องจากมูดีส์คาดว่า ธนาคารต่างประเทศ และสถาบันการเงินท้องถิ่นจะเดินไปในทิศทางของการควบคุมดูแลเชิงกลยุทธ์ และบริหารในส่วนของกิจกรรมของธนาคารมากขึ้นผ่านทางกลุ่มผู้ถือหุ้นทั่วโลก ระดับของสภาพคล่องหรือการให้การสนับสนุนเงินทุนนั้นก็มีแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นในเร็วๆนี้ ซึ่งถือเป็นความเชื่อมั่นที่เป็นบวกสำหรับธนาคารที่ได้ขายหุ้นไป
เมื่อเดือนก.ย.ที่ผ่านมา กระทรวงคลังของไทยได้อนุมัติแผนการของกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน (FIDF) ในการขายหุ้นธนาคารนครหลวงไทยจำกัด (มหาชน) หรือ SCIB จำนวน 47.6% ส่งผลให้มีการคาดการณ์ในตลาดว่า สถาบันการเงินระดับโลกหลายราย โดยเฉพาะธนาคารแห่งโนวาสโกเทียของแคนาดาที่สนใจซื้อหุ้นของ FIDF
หากพิจารณาจากความสนใจที่แรงกล้าของนักลงทุนต่างชาติ รวมทั้งความตั้งใจของรัฐบาลที่จะขายหุ้นในองค์กรที่รัฐบาลเป็นเจ้าของนั้น คาดว่าการเข้ามาลงทุนในภาคสถาบันการเงินของไทยจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และในระยะกลาง หากว่าราคาอยู่ในระดับที่เหมาะสม ก็มีแนวโน้มว่านักลงทุนจะเข้าซื้อหุ้นของรัฐบาลในธนาคารอื่นๆ