ASTVผู้จัดการรายวัน - ตำรวจยังไม่รู้วัตถุต้องสงสัยริมรั้วสถานีโทรทัศน์เอเอสทีวีเป็นระเบิดชนิดไหน ต่อวงจรระเบิดไว้พร้อม ระบบยังไม่สมบูรณ์ แต่เมื่อใช้ปืนฉีดน้ำแรงดันสูงฉีดทำลาย ระเบิดตูมดังสนั่นหวั่นไหว เชื่อคนร้ายต้องการสร้างสถานการณ์
วานนี้ (5 ต.ค.) เมื่อเวลา 11.30 น. ร.ต.ท.ชาญชัย จังวัง พนักงานสอบสวน (สบ 1) สน.ชนะสงคราม รับแจ้งเหตุพบวัตถุต้องสงสัยภายในสวนสันติชัยปราการ ถนนพระอาทิตย์ แขวงชนะสงคราม เขตพระนคร กทม. จึงรายงานเหตุให้ผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับชั้น จากนั้นรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อม พ.ต.ท.สมยศ อุดมรักษาทรัพย์ สว.สส. พ.ต.ท.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย สวป. ฝ่ายสืบสวน และเจ้าหน้าที่หน่วยเก็บกู้และตรวจพิสูจน์วัตถุระเบิด บก.สปพ. บช.น.
ที่เกิดเหตุอยู่บริเวณขอบปูนสำหรับปลูกต้นไม้อยู่ติดกับรั้วบ้านเจ้าพระยา สถานที่ตั้งสถานีโทรทัศน์เอเอสทีวี เจ้าหน้าที่พบถุงพลาสติกใสภายในมีท่อพีวีซีต่อสายไฟระโยงระยางออกมา โดยมีเทปกาวสีน้ำตาลอ่อนพันไว้ และมีนาฬิกาอยู่ภายในถุงด้วย หลังจากตรวจสอบเบื้องต้นแล้ว เจ้าหน้าที่ได้ใช้เชือกกั้นบริเวณที่เกิดเหตุโดยรอบเพื่อกันไม่ให้ผู้ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าไปใกล้ จากนั้นได้ใช้ปืนฉีดน้ำแรงดันสูงฉีดน้ำเข้าทำลายวัตถุต้องสงสัยดังกล่าว จนเกิดเสียงระเบิดตูมขึ้นดังสนั่นหวั่นไหว
หลังสิ้นเสียงระเบิด เจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบอีกครั้งพบว่ามีเศษท่อพีวีซีแตกกระจายไปทั่วบริเวณ พร้อมตะปูเข็ม เศษแบตเตอรี่ ชิ้นส่วนหายไป และพลาสติก รวมทั้งชิ้นส่วนนาฬิกา กระจายอยู่ทั่วบริเวณ จึงเก็บรวบรวมเป็นหลักฐานก่อนส่งให้เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน ตรวจพิสูจน์ต่อไป ซึ่งเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถระบุได้ว่าวัตถุดังกล่าวเป็นระเบิดชนิดไหน ได้แต่ระบุว่าระเบิดได้ถูกต่อวงจรไว้สมบูรณ์และพร้อมทำงาน แต่เมื่อใช้ปืนแรงดันสูงยิงทำลาย ปรากฏว่าเกิดระเบิดขึ้นบางส่วน ซึ่งอาจจะเป็นเพราะว่าระเบิดประกดอบไว้ไม่สมบูรณ์ ต้องส่งพิสูจน์อีกครั้ง
ด้าน พ.ต.ท.สมยศ กล่าวว่า จากการสอบสวนพนักงานทำความสะอาดของเขตพระนคร ที่รับผิดชอบดูแลความสะอาดภายในสวนสันติชัยปราการให้การว่า พบเห็นถุงใบดังกล่าวซุกซ่อนในพุ่มไม้มาประมาณ 2-3 วันแล้ว แต่ไม่ได้สนใจอะไร จนกระทั่งวันนี้มีม็อบเอ็นจีโอมาตั้งแถว และเมื่อม็อบกลับไปจึงเข้าไปทำความสะอาด และได้ดึงถุงพลาสติกออกมาก็พบท่อพีวีซี และสายไฟโผล่ออกมา จึงแจ้งเจ้าหน้าที่ รปภ.ของสวนสันติชัยปราการ ให้รับแจ้งตำรวจมาตรวจสอบดังกล่าว
"ในเบื้องต้นทราบว่าบริเวณดังกล่าวมีกล้องวงจรปิดของสถานีโทรทัศน์เอเอสทีวีอยู่ ซึ่งเราจะประสานขอภาพจากกล้องวงจรปิดดังกล่าวมาตรวจสอบ ส่วนสาเหตุเบื้องต้นเชื่อว่าน่าจะเป็นการสร้างสถานการณ์"พ.ต.ท.สมยศ กล่าว
ด้าน พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผบก.น.1 กล่าวถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า ขณะนี้กำลังให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนตรวจสอบว่าเป็นระเบิดชนิดใด เป็นชนิดเดียวกันกับที่พบบริเวณศาลรัฐธรรมนูญหรือไม่ อย่างไรก็ตามตนเชื่อว่าไม่น่าจะเกี่ยวข้องกับวันที่ 7 ตุลาคม ที่จะถึงนี้ ซึ่งอยู่ระหว่างการสืบสวนหาสาเหตุที่แท้จริงอยู่
พล.ต.ต.วิชัย กล่าวอีกว่า ในวันที่ 7 ตุลาคม นี้ จะจัดกำลังเจ้าหน้าที่ ปจ.บก.น.1 กำลังปจ.หญิง และชุดเคลื่อนที่เร็ว เพื่อดูแลในเรื่องการรักษาความปลอดภัย ส่วนที่ พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริญ รรท.ผบ.ตร.เดินทางมาดูการซักซ้อมการจัดกำลัง ปจ. ถือว่าเป็นที่น่าพอใจ ซึ่งถือว่าเป็นการซักซ้อมตามปกติอยู่แล้วไม่เกี่ยวกับวันที่ 7 ตุลาคม แต่อย่างใด และ รรท.ผบ.ตร.ก็ไม่ได้กำชับอะไรเป็นพิเศษ เพียงแต่กล่าวให้กำลังใจกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในการปฏิบัติหน้าที่เท่านั้น.
วานนี้ (5 ต.ค.) เมื่อเวลา 11.30 น. ร.ต.ท.ชาญชัย จังวัง พนักงานสอบสวน (สบ 1) สน.ชนะสงคราม รับแจ้งเหตุพบวัตถุต้องสงสัยภายในสวนสันติชัยปราการ ถนนพระอาทิตย์ แขวงชนะสงคราม เขตพระนคร กทม. จึงรายงานเหตุให้ผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับชั้น จากนั้นรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อม พ.ต.ท.สมยศ อุดมรักษาทรัพย์ สว.สส. พ.ต.ท.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย สวป. ฝ่ายสืบสวน และเจ้าหน้าที่หน่วยเก็บกู้และตรวจพิสูจน์วัตถุระเบิด บก.สปพ. บช.น.
ที่เกิดเหตุอยู่บริเวณขอบปูนสำหรับปลูกต้นไม้อยู่ติดกับรั้วบ้านเจ้าพระยา สถานที่ตั้งสถานีโทรทัศน์เอเอสทีวี เจ้าหน้าที่พบถุงพลาสติกใสภายในมีท่อพีวีซีต่อสายไฟระโยงระยางออกมา โดยมีเทปกาวสีน้ำตาลอ่อนพันไว้ และมีนาฬิกาอยู่ภายในถุงด้วย หลังจากตรวจสอบเบื้องต้นแล้ว เจ้าหน้าที่ได้ใช้เชือกกั้นบริเวณที่เกิดเหตุโดยรอบเพื่อกันไม่ให้ผู้ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าไปใกล้ จากนั้นได้ใช้ปืนฉีดน้ำแรงดันสูงฉีดน้ำเข้าทำลายวัตถุต้องสงสัยดังกล่าว จนเกิดเสียงระเบิดตูมขึ้นดังสนั่นหวั่นไหว
หลังสิ้นเสียงระเบิด เจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบอีกครั้งพบว่ามีเศษท่อพีวีซีแตกกระจายไปทั่วบริเวณ พร้อมตะปูเข็ม เศษแบตเตอรี่ ชิ้นส่วนหายไป และพลาสติก รวมทั้งชิ้นส่วนนาฬิกา กระจายอยู่ทั่วบริเวณ จึงเก็บรวบรวมเป็นหลักฐานก่อนส่งให้เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน ตรวจพิสูจน์ต่อไป ซึ่งเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถระบุได้ว่าวัตถุดังกล่าวเป็นระเบิดชนิดไหน ได้แต่ระบุว่าระเบิดได้ถูกต่อวงจรไว้สมบูรณ์และพร้อมทำงาน แต่เมื่อใช้ปืนแรงดันสูงยิงทำลาย ปรากฏว่าเกิดระเบิดขึ้นบางส่วน ซึ่งอาจจะเป็นเพราะว่าระเบิดประกดอบไว้ไม่สมบูรณ์ ต้องส่งพิสูจน์อีกครั้ง
ด้าน พ.ต.ท.สมยศ กล่าวว่า จากการสอบสวนพนักงานทำความสะอาดของเขตพระนคร ที่รับผิดชอบดูแลความสะอาดภายในสวนสันติชัยปราการให้การว่า พบเห็นถุงใบดังกล่าวซุกซ่อนในพุ่มไม้มาประมาณ 2-3 วันแล้ว แต่ไม่ได้สนใจอะไร จนกระทั่งวันนี้มีม็อบเอ็นจีโอมาตั้งแถว และเมื่อม็อบกลับไปจึงเข้าไปทำความสะอาด และได้ดึงถุงพลาสติกออกมาก็พบท่อพีวีซี และสายไฟโผล่ออกมา จึงแจ้งเจ้าหน้าที่ รปภ.ของสวนสันติชัยปราการ ให้รับแจ้งตำรวจมาตรวจสอบดังกล่าว
"ในเบื้องต้นทราบว่าบริเวณดังกล่าวมีกล้องวงจรปิดของสถานีโทรทัศน์เอเอสทีวีอยู่ ซึ่งเราจะประสานขอภาพจากกล้องวงจรปิดดังกล่าวมาตรวจสอบ ส่วนสาเหตุเบื้องต้นเชื่อว่าน่าจะเป็นการสร้างสถานการณ์"พ.ต.ท.สมยศ กล่าว
ด้าน พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผบก.น.1 กล่าวถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า ขณะนี้กำลังให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนตรวจสอบว่าเป็นระเบิดชนิดใด เป็นชนิดเดียวกันกับที่พบบริเวณศาลรัฐธรรมนูญหรือไม่ อย่างไรก็ตามตนเชื่อว่าไม่น่าจะเกี่ยวข้องกับวันที่ 7 ตุลาคม ที่จะถึงนี้ ซึ่งอยู่ระหว่างการสืบสวนหาสาเหตุที่แท้จริงอยู่
พล.ต.ต.วิชัย กล่าวอีกว่า ในวันที่ 7 ตุลาคม นี้ จะจัดกำลังเจ้าหน้าที่ ปจ.บก.น.1 กำลังปจ.หญิง และชุดเคลื่อนที่เร็ว เพื่อดูแลในเรื่องการรักษาความปลอดภัย ส่วนที่ พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริญ รรท.ผบ.ตร.เดินทางมาดูการซักซ้อมการจัดกำลัง ปจ. ถือว่าเป็นที่น่าพอใจ ซึ่งถือว่าเป็นการซักซ้อมตามปกติอยู่แล้วไม่เกี่ยวกับวันที่ 7 ตุลาคม แต่อย่างใด และ รรท.ผบ.ตร.ก็ไม่ได้กำชับอะไรเป็นพิเศษ เพียงแต่กล่าวให้กำลังใจกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในการปฏิบัติหน้าที่เท่านั้น.