เอเอฟพี/รอยเตอร์- ประธานาธิบดีกลอเรีย มากาปากัล อาร์โรโย ของฟิลิปปินส์ ประกาศวานนี้(2)ให้ประเทศเป็นเขตภัยพิบัติ พร้อมให้ประชาชนที่อาศัยบริเวณพื้นที่ราบต่ำตามชายฝั่งทะเลซึ่งอยู่ในแนวพายุ “ป้าหม่า” พาดผ่าน เร่งอพยพออกนอกพื้นที่เป็นการด่วน ก่อนพายุระดับ “ซูเปอร์ไต้ฝุ่น” ลูกนี้เข้าถล่มตอนเหนือของประเทศวันนี้(3) ส่วนทางด้านอินโดนีเซีย เจ้าหน้าที่ยูเอ็นคาดหมายว่า ผู้เสียชีวิตจากแผ่นดินไหว 7.6 ริกเตอร์บนเกาะสุมาตรา ต้องมีอย่างน้อย 1,000 คน สำหรับ 3 หมู่เกาะแปซิฟิกใต้ซึ่งเผชิญกับแผ่นดินไหวใหญ่ระดับ 8.0 และตามมาด้วยคลื่นยักษ์สึนามินั้น ได้เกิดแผ่นดินไหวระลอกใหม่ 6.3 ริกเตอร์นอกชายฝั่งตองกาและหมู่เกาะโซโลมอน
ประธานาธิบดีอาร์โรโยแถลงว่าได้ประสานงานกับผู้ว่าการของ 6 จังหวัดทางภาคเหนือของประเทศที่ตั้งอยู่ในแนวที่ไต้ฝุ่นป้าหม่าพาดผ่าน ให้เตรียมรับมือกับพายุดังกล่าว ซึ่งขณะนี้อยู่ห่างจากเกาะกาตันดัวเนส นอกชายฝั่งตอนกลางของฟิลิปปินส์ ไปทางตะวันออกเฉียงเหนือ 180 กิโลเมตรเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม ผู้นำฟิลิปปินส์ไม่ได้ระบุว่ามีประชาชนถูกอพยพเป็นจำนวนเท่าใด รวมทั้งไม่ได้ระบุชัดเจนว่าจะดำเนินมาตรการอย่างไรต่อผู้ที่ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งอพยพของทางการ
ขณะที่สำนักงานอุตุนิยมวิทยาแห่งชาติฟิลิปปินส์ระบุ“ซูเปอร์ไต้ฝุ่น” ป้าหม่า ซึ่งมีความเร็วลมที่ศูนย์กลางเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจนถึง 230 กิโลเมตรต่อชั่วโมงในขณะนี้ ถือเป็นพายุที่มีระดับความรุนแรงสูงสุดซึ่งคุกคามฟิลิปปินส์นับตั้งแต่ไต้ฝุ่น“ทุเรียน”เมื่อปี 2006 โดยคาดว่าน่าจะพัดถล่มจังหวัดอิซาเบลา ซึ่งเป็นเขตชนบทที่มีประชากรเบาบางทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ เป็นที่แรกภายในช่วงรุ่งเช้าวันเสาร์ (3) ก่อนจะถล่มตอนกลางของเกาะลูซอน ซึ่งมีประชากรอาศัยมากกว่า 46.2 ล้านคนในอีกไม่กี่ชั่วโมงต่อมา อันจะทำให้สถานการณ์น้ำท่วมจากอิทธิพลของพายุโซนร้อน “กิสนา” ที่เพิ่งผ่านพ้นไปเพิ่มความรุนแรงยิ่งขึ้น หลังจากที่พายุกิสนาทำให้เกิดน้ำท่วมในกรุงมะนิลาและพื้นที่โดยรอบสูงถึง 3 เมตร และคร่าชีวิตผู้คน 293 คน ขณะที่อีกหลายแสนคนไร้ที่อยู่อาศัย
**ธรณีพิโรธอิเหนาตายขึ้นหลักพัน**
สำหรับสถานการณ์ล่าสุดของเหตุแผ่นดินไหวขนาด 7.6 ริกเตอร์ ที่เมืองปาดังในจังหวัดสุมาตราตะวันตกของอินโดนีเซียเมื่อวันพุธ(30)ที่ผ่านมา ทางการอินโดนีเซียเผยว่าตัวเลขผู้เสียชีวิตมีอย่างน้อย 777 รายแล้วและมีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสเกือบ 300 ราย ขณะที่ยังมีพื้นที่หลายแห่งที่เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถเข้าไปให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้
แต่ จอห์น โฮล์มส์ ข้าหลวงใหญ่สำนักงานเพื่อการประสานงานด้านมนุษยธรรมขององค์การสหประชาชาติแถลงว่า ยอดผู้เสียชีวิตที่แท้จริงเพิ่มเป็นอย่างน้อย 1,000 คนแล้ว ซึ่งสูงกว่าตัวเลขของทางการอินโดนีเซีย และมีแนวโน้มว่าผู้เสียชีวิตจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ด้านซิติ ฟาดิเลาะห์ ซูปารี รัฐมนตรีสาธารณสุขอินโดนีเซียเผยว่ายังมีผู้เคราะห์ร้ายหลายพันคนติดอยู่ใต้ซากปรักหักพังจากแผ่นดินไหว พร้อมขอความช่วยเหลือจากนานาชาติในการจัดส่งเจ้าหน้าที่กู้ภัยและเครื่องมือค้นหาและช่วยเหลือผู้ประสบภัยมายังอินโดนีเซียเป็นการด่วน นอกจากความช่วยเหลือทางการเงินและเวชภัณฑ์
**ตองกาเจอแผ่นดินไหวใหญ่อีกรอบ**
ขณะที่สำนักงานสำรวจธรณีวิทยาแห่งชาติสหรัฐฯ(ยูเอสจีเอส)รายงานว่า เกิดแผ่นดินไหวขนาด 6.3 ริกเตอร์นอกชายฝั่งตองกาและหมู่เกาะโซโลมอนเมื่อวันศุกร์ ซึ่งเป็นแผ่นดินไหวระลอกใหม่หลังเพิ่งเกิดแผ่นดินไหว8 ริกเตอร์และคลื่นยักษ์สึนามิเมื่อ 48 ชั่วโมงก่อนหน้า คร่าชีวิตผู้คนในซามัว อเมริกันซามัว และตองกาไปมากกว่า 190 คน
ยูเอสจีเอสระบุศูนย์กลางแผ่นดินไหวอยู่ลึกลงไปในมหาสมุทรแปซิฟิก 10กิโลเมตรและอยู่ห่างชายฝั่งเกาะเนอิอาฟูของตองกาไปทางตะวันตกเฉียงเหนือ 242 กิโลเมตร และห่างจากเมืองปาโกปาโก เมืองเอกของอเมริกันซามัว377กิโลเมตร อย่างไรก็ตามศูนย์เตือนภัยสึนามิในแปซิฟิกซึ่งตั้งอยู่ในมลรัฐฮาวายของสหรัฐฯไม่ได้ประกาศเตือนภัยการเกิดสึนามิแต่อย่างใด
ประธานาธิบดีอาร์โรโยแถลงว่าได้ประสานงานกับผู้ว่าการของ 6 จังหวัดทางภาคเหนือของประเทศที่ตั้งอยู่ในแนวที่ไต้ฝุ่นป้าหม่าพาดผ่าน ให้เตรียมรับมือกับพายุดังกล่าว ซึ่งขณะนี้อยู่ห่างจากเกาะกาตันดัวเนส นอกชายฝั่งตอนกลางของฟิลิปปินส์ ไปทางตะวันออกเฉียงเหนือ 180 กิโลเมตรเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม ผู้นำฟิลิปปินส์ไม่ได้ระบุว่ามีประชาชนถูกอพยพเป็นจำนวนเท่าใด รวมทั้งไม่ได้ระบุชัดเจนว่าจะดำเนินมาตรการอย่างไรต่อผู้ที่ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งอพยพของทางการ
ขณะที่สำนักงานอุตุนิยมวิทยาแห่งชาติฟิลิปปินส์ระบุ“ซูเปอร์ไต้ฝุ่น” ป้าหม่า ซึ่งมีความเร็วลมที่ศูนย์กลางเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจนถึง 230 กิโลเมตรต่อชั่วโมงในขณะนี้ ถือเป็นพายุที่มีระดับความรุนแรงสูงสุดซึ่งคุกคามฟิลิปปินส์นับตั้งแต่ไต้ฝุ่น“ทุเรียน”เมื่อปี 2006 โดยคาดว่าน่าจะพัดถล่มจังหวัดอิซาเบลา ซึ่งเป็นเขตชนบทที่มีประชากรเบาบางทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ เป็นที่แรกภายในช่วงรุ่งเช้าวันเสาร์ (3) ก่อนจะถล่มตอนกลางของเกาะลูซอน ซึ่งมีประชากรอาศัยมากกว่า 46.2 ล้านคนในอีกไม่กี่ชั่วโมงต่อมา อันจะทำให้สถานการณ์น้ำท่วมจากอิทธิพลของพายุโซนร้อน “กิสนา” ที่เพิ่งผ่านพ้นไปเพิ่มความรุนแรงยิ่งขึ้น หลังจากที่พายุกิสนาทำให้เกิดน้ำท่วมในกรุงมะนิลาและพื้นที่โดยรอบสูงถึง 3 เมตร และคร่าชีวิตผู้คน 293 คน ขณะที่อีกหลายแสนคนไร้ที่อยู่อาศัย
**ธรณีพิโรธอิเหนาตายขึ้นหลักพัน**
สำหรับสถานการณ์ล่าสุดของเหตุแผ่นดินไหวขนาด 7.6 ริกเตอร์ ที่เมืองปาดังในจังหวัดสุมาตราตะวันตกของอินโดนีเซียเมื่อวันพุธ(30)ที่ผ่านมา ทางการอินโดนีเซียเผยว่าตัวเลขผู้เสียชีวิตมีอย่างน้อย 777 รายแล้วและมีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสเกือบ 300 ราย ขณะที่ยังมีพื้นที่หลายแห่งที่เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถเข้าไปให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้
แต่ จอห์น โฮล์มส์ ข้าหลวงใหญ่สำนักงานเพื่อการประสานงานด้านมนุษยธรรมขององค์การสหประชาชาติแถลงว่า ยอดผู้เสียชีวิตที่แท้จริงเพิ่มเป็นอย่างน้อย 1,000 คนแล้ว ซึ่งสูงกว่าตัวเลขของทางการอินโดนีเซีย และมีแนวโน้มว่าผู้เสียชีวิตจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ด้านซิติ ฟาดิเลาะห์ ซูปารี รัฐมนตรีสาธารณสุขอินโดนีเซียเผยว่ายังมีผู้เคราะห์ร้ายหลายพันคนติดอยู่ใต้ซากปรักหักพังจากแผ่นดินไหว พร้อมขอความช่วยเหลือจากนานาชาติในการจัดส่งเจ้าหน้าที่กู้ภัยและเครื่องมือค้นหาและช่วยเหลือผู้ประสบภัยมายังอินโดนีเซียเป็นการด่วน นอกจากความช่วยเหลือทางการเงินและเวชภัณฑ์
**ตองกาเจอแผ่นดินไหวใหญ่อีกรอบ**
ขณะที่สำนักงานสำรวจธรณีวิทยาแห่งชาติสหรัฐฯ(ยูเอสจีเอส)รายงานว่า เกิดแผ่นดินไหวขนาด 6.3 ริกเตอร์นอกชายฝั่งตองกาและหมู่เกาะโซโลมอนเมื่อวันศุกร์ ซึ่งเป็นแผ่นดินไหวระลอกใหม่หลังเพิ่งเกิดแผ่นดินไหว8 ริกเตอร์และคลื่นยักษ์สึนามิเมื่อ 48 ชั่วโมงก่อนหน้า คร่าชีวิตผู้คนในซามัว อเมริกันซามัว และตองกาไปมากกว่า 190 คน
ยูเอสจีเอสระบุศูนย์กลางแผ่นดินไหวอยู่ลึกลงไปในมหาสมุทรแปซิฟิก 10กิโลเมตรและอยู่ห่างชายฝั่งเกาะเนอิอาฟูของตองกาไปทางตะวันตกเฉียงเหนือ 242 กิโลเมตร และห่างจากเมืองปาโกปาโก เมืองเอกของอเมริกันซามัว377กิโลเมตร อย่างไรก็ตามศูนย์เตือนภัยสึนามิในแปซิฟิกซึ่งตั้งอยู่ในมลรัฐฮาวายของสหรัฐฯไม่ได้ประกาศเตือนภัยการเกิดสึนามิแต่อย่างใด
