เอเอฟพี/รอยเตอร์- หายนภัยทั้งแผ่นดินไหว-คลื่นยักษ์สึนามิ-พายุไต้ฝุ่นทำให้ฝนหนักน้ำท่วมใหญ่ ซึ่งเกิดขึ้นต่อเนื่องในระยะไม่กี่วันที่ผ่านมา ทำให้เอเชียตะวันออกเฉียงใต้และหมู่เกาะแปซิฟิกใต้ที่อยู่ใกล้ๆ กัน เสียหายยับเยินมีผู้เสียชีวิตมากกว่า 1,200 คนแล้ว และยังทำท่าจะมีเหตุภัยพิบัติติดตามมาอีก
ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุแผ่นดินไหว 7.6 ริกเตอร์บนเกาะสุมาตรา ของอินโดนีเซีย เพิ่มเป็นอย่างน้อย 770 คน โดยวิตกกันว่ามีอีกหลายพันยังติดอยู่ใต้ซากปรักหักพัง มิหนำซ้ำเมื่อวานนี้(1) ยังเกิดธรณีพิโรธความรุนแรง 6.6 ริกเตอร์ขึ้นอีกที่เกาะแห่งนี้เช่นกัน ขณะที่เหตุคลื่นยักษ์สึนามิถล่ม 3 หมู่เกาะ ทางตอนใต้ของมหาสมุทรแปซิฟิก คือ ซามัว อเมริกันซามัว และตองกา หลังเกิดแผ่นดินไหวขนาด 8.0 ริกเตอร์ ก็มียอดคนตายเพิ่มเป็นอย่างน้อย 148 ราย ด้านพายุ “กิสนา” ทำให้มีผู้เสียชีวิตในฟิลิปปินส์-เวียดนาม-กัมพูชากว่า 400 คน โดยที่ฟิลิปปินส์แถลงว่าค้นพบ“ซูเปอร์ไต้ฝุ่น” ลูกใหม่ที่อาจพัดเข้าถล่มในช่วงสุดสัปดาห์นี้ ด้วยความเร็วลมมากกว่า 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
*** เหยื่อดินไหวอิเหนาพุ่งอย่างน้อย 770 ศพ
ทางการอินโดนีเซียแถลงเมื่อวานนี้ (1) ว่า ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุแผ่นดินไหวขนาด 7.6 ริกเตอร์ที่เมืองปาดังในจังหวัดสุมาตราตะวันตกของอินโดนีเซีย เมื่อวันพุธ (30) ได้เพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 770 รายแล้ว ขณะที่มีผู้ที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสอีก 294 คน
รุสตัม ปากายา ประธานศูนย์รับมือสถานการณ์วิกฤต ของกระทรวงสาธารณสุขอินโดนีเซียกล่าวด้วยว่าจำนวนผู้เสียชีวิตที่แท้จริงจากแผ่นดินไหวครั้งนี้อาจสูงถึงหลายพันคน เนื่องจากเชื่อว่า ยังมีผู้คนเป็นพันๆ ที่ติดอยู่ใต้ซากปรักหักพังของอาคารบ้านเรือนต่างๆ หรือถูกดินถล่มฝังทั้งเป็น และเจ้าหน้าที่พบศพผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แม้การกู้ภัยและช่วยเหลือประชาชนจะเป็นไปด้วยความยากลำบากเนื่องจากมีฝนตกหนักตลอดทั้งวัน
เมื่อช่วงดึกของคืนวันพุธ(30)ที่ผ่านมา หน่วยกู้ภัยสามารถช่วยชายคนหนึ่งที่ติดอยู่ใต้ซากปรักหักพังนานหลายชั่วโมงออกมาได้ ขณะที่สถานีโทรทัศน์ท้องถิ่นของอินโดนีเซีย ก็ได้เผยแพร่ภาพการช่วยเหลือหญิงอีกคนหนึ่งที่ติดอยู่ใต้ซากอาคารขึ้นมาได้อย่างปลอดภัยเช่นกัน
รายงานข่าวระบุว่า แรงสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหวเมื่อวันพุธทำให้โรงพยาบาลหลักของเมืองปาดัง 2 แห่ง และศูนย์การค้าขนาดใหญ่ในย่านใจกลางเมืองอีก 1 แห่งพังถล่มลงมาด้วย ซึ่งคาดว่าจะมีผู้เสียชีวิตบริเวณสถานที่ทั้ง 3 แห่งนี้เป็นจำนวนมาก
รองประธานาธิบดีมูฮัมหมัด ยูซุฟ คัลลา วัย 67 ปีของอินโดนีเซียออกมาระบุเมื่อวาน (1) ว่า
มีความเป็นไปได้ที่ความเสียหายจากแผ่นดินไหวครั้งนี้ อาจมีความรุนแรงมากกว่าเหตุแผ่นดินไหวที่เมืองยอกยาการ์ตา บนเกาะชวาเมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม ปี 2006 ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 5,782 คน ขณะที่อีกกว่า 600,000 คนต้องไร้ที่อยู่อาศัย
*** ธรณีอิเหนาพิโรธระลอกสองอีก 6.6 ริกเตอร์
หัวหน้าสำนักธรณีวิทยาและอุตุนิยมวิทยาของอินโดนีเซีย แจ้งว่า เมื่อวานนี้ (1) ได้เกิดแผ่นดินไหวระลอกใหม่บนเกาะสุมาตราซึ่งสามารถวัดระดับความรุนแรงได้ 6.6 ริกเตอร์ โดยคราวนี้เป็นการเกิดแผ่นดินไหวบนบก และมีจุดศูนย์กลางตะวันตกเฉียงเหนือของเมืองเบงกูลูประมาณ 154 กิโลเมตร
แผ่นดินไหวระลอกใหม่นี้เกิดขึ้นเมื่อเวลา 08.52 น.ตามเวลาท้องถิ่นของเมื่อวานนี้ ซึ่งเป็นเวลาเดียวกันในไทย โดยศูนย์กลางของแผ่นดินไหวครั้งนี้ อยู่ห่างจากเมืองปาดังซึ่งเป็นเมืองเอกของจังหวัดสุมาตราตะวันตกที่เกิดแผ่นดินไหวขนาด 7.6 ริกเตอร์เมื่อวันพุธ ไปทางตะวันออกเฉียงใต้ เพียงแค่ 150 กิโลเมตรเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีรายงานความเสียหายจากเหตุแผ่นดินไหวระลอกใหม่นี้ออกมาแต่อย่างใด
*** ดินไหว-สึนามิแปซิฟิกสังเวยอย่างน้อย 148 ชีวิต
ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุคลื่นยักษ์สึนามิซัดถล่ม 3 หมู่เกาะ ในบริเวณตอนใต้ของมหาสมุทรแปซิฟิก คือ ซามัว, อเมริกันซามัว, และตองกา หลังเกิดแผ่นดินไหวขนาด 8.0 ริกเตอร์ เมื่อวันอังคาร (29) ที่ผ่านมาได้เพิ่มเป็นอย่างน้อย 148 รายแล้ว ขณะที่อีกหลายพันคนกลายเป็นผู้ไร้ที่อยู่อาศัย
รายงานข่าวล่าสุดระบุว่า ประเทศซามัว ซึ่งเคยเป็นอดีตอาณานิคมของนิวซีแลนด์ และเป็นประเทศที่ได้รับความเสียจากภัยพิบัติครั้งนี้มากที่สุด ได้พบศพผู้เสียชีวิตแล้ว 110 ศพ ขณะที่ในอเมริกันซามัวซึ่งเป็นดินแดนในปกครองของสหรัฐฯ พบร่างผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 31 ราย
ส่วนในตองกา ซึ่งอยู่ห่างจากจุดศูนย์กลางของแผ่นดินไหวครั้งนี้มากกว่า 1,000 กิโลเมตรก็ถูกคลื่นสึนามิซัดถล่มจนมีผู้เสียชีวิตแล้ว 7 ราย
เบ็ตตี อาห์ซูน โฆษกกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิของอเมริกัน ซามัวออกมาเปิดเผยว่าการค้นหาและกู้ภัยยังคงดำเนินอยู่ โดยคาดว่าจะพบร่างผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นอีก เนื่องจากได้รับรายงานว่า เจ้าหน้าที่กู้ภัยยังคงพบศพติดอยู่ตามใต้ซากปรักหักพังและกลางทะเลอย่างต่อเนื่อง
ขณะเดียวกัน รายงานข่าวจากสื่อท้องถิ่นของอเมริกันซามัวหลายฉบับระบุว่า ขณะนี้มีกลุ่มคนร้ายจำนวนมาก ซึ่งฉวยโอกาสในช่วงที่เจ้าหน้าตำรวจถูกเกณฑ์ไปช่วยกู้ภัยในพื้นที่ต่างๆ ของเกาะออกปล้นสะดมร้านค้าในกรุงปาโกปาโก เมืองเอกของอเมริกันซามัว โดยสินค้าที่ถูกปล้นมีทั้งอาหาร เครื่องใช้ไฟฟ้า และของมีค่าอีกหลายชนิด
*** เหยื่อกิสนาแตะ 400
จำนวนผู้เสียชีวิตจากพายุไต้ฝุ่นกิสนาพัดถล่มหลายประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ยังมีรายงานเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดพบผู้เสียชีวิตแล้วกว่า 400 คน โดยฟิลิปปินส์มีจำนวนผู้เสียชีวิตที่ยืนยันได้แล้วมากที่สุดถึง 277 คน ขณะที่สองประเทศในอินโดจีน คือ เวียดนาม และกัมพูชา มีผู้เสียชีวิต119 คน และ 14 คนตามลำดับ
พายุไต้ฝุ่นกิสนา ถือเป็นหนึ่งในพายุที่รุนแรงที่สุดที่เข้าโจมตีภูมิภาคนี้ ในรอบ 2 ปีที่ผ่านมา โดยสร้างความเสียหายอย่างหนักทำให้มีประชาชนได้รับความเดือดร้อนเกือบ 1.4 ล้านคน และไร้ที่อยู่อาศัยอีกหลายแสนคน
*** “ซูเปอร์ไต้ฝุ่น” ก่อตัวอีกแล้วเตรียมถล่มปินส์ซ้ำ
สำนักอุตุนิยมวิทยาของฟิลิปปินส์ รายงานวานนี้ (1) ว่าพบการก่อตัวของพายุไต้ฝุ่นลูกใหม่ที่มีชื่อว่า “ป้าหม่า” ซึ่งได้ทวีกำลังแรงขึ้นขณะเคลื่อนตัวอยู่ในน่านน้ำนอกชายฝั่งทางภาคตะวันออกของฟิลิปปินส์ และอาจพัฒนาเป็น “ซูเปอร์ไต้ฝุ่น” พัดถล่มฟิลิปปินส์ซ้ำในช่วงสุดสัปดาห์นี้ ทั้งที่หลายพื้นที่ทางตอนเหนือของประเทศยังคงไม่ฟื้นตัวจากความเสียหายที่ได้รับจากพายุไต้ฝุ่นกิสนา
นาตาเนียล กรูซโฆษกสำนักอุตุนิยมวิทยาฟิลิปปินส์ระบุว่า ฟิลิปปินส์อาจต้องเผชิญกับพายุไต้ฝุ่นที่มีกำลังแรงมาก และอาจทวีกำลังขึ้นเป็นซูเปอร์ไต้ฝุ่นที่มีความเร็วลมมากกว่า 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พร้อมเรียกร้องให้รัฐบาลเตรียมความพร้อมรับมือไต้ฝุ่นลูกนี้ในระดับสูงสุด หลังจากมีแนวโน้มว่าพายุไต้ฝุ่นป้าหม่า จะพัดเข้าถล่มจังหวัดกิริโน และอิซาเบลา บนเกาะลูซอน ทางเหนือของฟิลิปปินส์ภายในช่วงบ่ายวันเสาร์ (3) นี้ และอาจทำให้เกิดฝนตกหนักและดินถล่มในหลายพื้นที่
ทั้งนี้ รายงานข่าวล่าสุดระบุว่า พายุไต้ฝุ่นป้าหม่ามีความเร็วลมสูงสุดใกล้จุดศูนย์กลางแล้ว มากกว่า 185 กิโลเมตรต่อชั่วโมงในขณะนี้ ซึ่งเพิ่มขึ้นจากการเฝ้าติดตามครั้งก่อนเมื่อช่วงเช้าวานนี้ (1) ที่พบว่ามีความเร็วลมประมาณ 150 กิโลเมตรต่อชั่วโมงเท่านั้น
ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุแผ่นดินไหว 7.6 ริกเตอร์บนเกาะสุมาตรา ของอินโดนีเซีย เพิ่มเป็นอย่างน้อย 770 คน โดยวิตกกันว่ามีอีกหลายพันยังติดอยู่ใต้ซากปรักหักพัง มิหนำซ้ำเมื่อวานนี้(1) ยังเกิดธรณีพิโรธความรุนแรง 6.6 ริกเตอร์ขึ้นอีกที่เกาะแห่งนี้เช่นกัน ขณะที่เหตุคลื่นยักษ์สึนามิถล่ม 3 หมู่เกาะ ทางตอนใต้ของมหาสมุทรแปซิฟิก คือ ซามัว อเมริกันซามัว และตองกา หลังเกิดแผ่นดินไหวขนาด 8.0 ริกเตอร์ ก็มียอดคนตายเพิ่มเป็นอย่างน้อย 148 ราย ด้านพายุ “กิสนา” ทำให้มีผู้เสียชีวิตในฟิลิปปินส์-เวียดนาม-กัมพูชากว่า 400 คน โดยที่ฟิลิปปินส์แถลงว่าค้นพบ“ซูเปอร์ไต้ฝุ่น” ลูกใหม่ที่อาจพัดเข้าถล่มในช่วงสุดสัปดาห์นี้ ด้วยความเร็วลมมากกว่า 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
*** เหยื่อดินไหวอิเหนาพุ่งอย่างน้อย 770 ศพ
ทางการอินโดนีเซียแถลงเมื่อวานนี้ (1) ว่า ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุแผ่นดินไหวขนาด 7.6 ริกเตอร์ที่เมืองปาดังในจังหวัดสุมาตราตะวันตกของอินโดนีเซีย เมื่อวันพุธ (30) ได้เพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 770 รายแล้ว ขณะที่มีผู้ที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสอีก 294 คน
รุสตัม ปากายา ประธานศูนย์รับมือสถานการณ์วิกฤต ของกระทรวงสาธารณสุขอินโดนีเซียกล่าวด้วยว่าจำนวนผู้เสียชีวิตที่แท้จริงจากแผ่นดินไหวครั้งนี้อาจสูงถึงหลายพันคน เนื่องจากเชื่อว่า ยังมีผู้คนเป็นพันๆ ที่ติดอยู่ใต้ซากปรักหักพังของอาคารบ้านเรือนต่างๆ หรือถูกดินถล่มฝังทั้งเป็น และเจ้าหน้าที่พบศพผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แม้การกู้ภัยและช่วยเหลือประชาชนจะเป็นไปด้วยความยากลำบากเนื่องจากมีฝนตกหนักตลอดทั้งวัน
เมื่อช่วงดึกของคืนวันพุธ(30)ที่ผ่านมา หน่วยกู้ภัยสามารถช่วยชายคนหนึ่งที่ติดอยู่ใต้ซากปรักหักพังนานหลายชั่วโมงออกมาได้ ขณะที่สถานีโทรทัศน์ท้องถิ่นของอินโดนีเซีย ก็ได้เผยแพร่ภาพการช่วยเหลือหญิงอีกคนหนึ่งที่ติดอยู่ใต้ซากอาคารขึ้นมาได้อย่างปลอดภัยเช่นกัน
รายงานข่าวระบุว่า แรงสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหวเมื่อวันพุธทำให้โรงพยาบาลหลักของเมืองปาดัง 2 แห่ง และศูนย์การค้าขนาดใหญ่ในย่านใจกลางเมืองอีก 1 แห่งพังถล่มลงมาด้วย ซึ่งคาดว่าจะมีผู้เสียชีวิตบริเวณสถานที่ทั้ง 3 แห่งนี้เป็นจำนวนมาก
รองประธานาธิบดีมูฮัมหมัด ยูซุฟ คัลลา วัย 67 ปีของอินโดนีเซียออกมาระบุเมื่อวาน (1) ว่า
มีความเป็นไปได้ที่ความเสียหายจากแผ่นดินไหวครั้งนี้ อาจมีความรุนแรงมากกว่าเหตุแผ่นดินไหวที่เมืองยอกยาการ์ตา บนเกาะชวาเมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม ปี 2006 ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 5,782 คน ขณะที่อีกกว่า 600,000 คนต้องไร้ที่อยู่อาศัย
*** ธรณีอิเหนาพิโรธระลอกสองอีก 6.6 ริกเตอร์
หัวหน้าสำนักธรณีวิทยาและอุตุนิยมวิทยาของอินโดนีเซีย แจ้งว่า เมื่อวานนี้ (1) ได้เกิดแผ่นดินไหวระลอกใหม่บนเกาะสุมาตราซึ่งสามารถวัดระดับความรุนแรงได้ 6.6 ริกเตอร์ โดยคราวนี้เป็นการเกิดแผ่นดินไหวบนบก และมีจุดศูนย์กลางตะวันตกเฉียงเหนือของเมืองเบงกูลูประมาณ 154 กิโลเมตร
แผ่นดินไหวระลอกใหม่นี้เกิดขึ้นเมื่อเวลา 08.52 น.ตามเวลาท้องถิ่นของเมื่อวานนี้ ซึ่งเป็นเวลาเดียวกันในไทย โดยศูนย์กลางของแผ่นดินไหวครั้งนี้ อยู่ห่างจากเมืองปาดังซึ่งเป็นเมืองเอกของจังหวัดสุมาตราตะวันตกที่เกิดแผ่นดินไหวขนาด 7.6 ริกเตอร์เมื่อวันพุธ ไปทางตะวันออกเฉียงใต้ เพียงแค่ 150 กิโลเมตรเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีรายงานความเสียหายจากเหตุแผ่นดินไหวระลอกใหม่นี้ออกมาแต่อย่างใด
*** ดินไหว-สึนามิแปซิฟิกสังเวยอย่างน้อย 148 ชีวิต
ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุคลื่นยักษ์สึนามิซัดถล่ม 3 หมู่เกาะ ในบริเวณตอนใต้ของมหาสมุทรแปซิฟิก คือ ซามัว, อเมริกันซามัว, และตองกา หลังเกิดแผ่นดินไหวขนาด 8.0 ริกเตอร์ เมื่อวันอังคาร (29) ที่ผ่านมาได้เพิ่มเป็นอย่างน้อย 148 รายแล้ว ขณะที่อีกหลายพันคนกลายเป็นผู้ไร้ที่อยู่อาศัย
รายงานข่าวล่าสุดระบุว่า ประเทศซามัว ซึ่งเคยเป็นอดีตอาณานิคมของนิวซีแลนด์ และเป็นประเทศที่ได้รับความเสียจากภัยพิบัติครั้งนี้มากที่สุด ได้พบศพผู้เสียชีวิตแล้ว 110 ศพ ขณะที่ในอเมริกันซามัวซึ่งเป็นดินแดนในปกครองของสหรัฐฯ พบร่างผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 31 ราย
ส่วนในตองกา ซึ่งอยู่ห่างจากจุดศูนย์กลางของแผ่นดินไหวครั้งนี้มากกว่า 1,000 กิโลเมตรก็ถูกคลื่นสึนามิซัดถล่มจนมีผู้เสียชีวิตแล้ว 7 ราย
เบ็ตตี อาห์ซูน โฆษกกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิของอเมริกัน ซามัวออกมาเปิดเผยว่าการค้นหาและกู้ภัยยังคงดำเนินอยู่ โดยคาดว่าจะพบร่างผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นอีก เนื่องจากได้รับรายงานว่า เจ้าหน้าที่กู้ภัยยังคงพบศพติดอยู่ตามใต้ซากปรักหักพังและกลางทะเลอย่างต่อเนื่อง
ขณะเดียวกัน รายงานข่าวจากสื่อท้องถิ่นของอเมริกันซามัวหลายฉบับระบุว่า ขณะนี้มีกลุ่มคนร้ายจำนวนมาก ซึ่งฉวยโอกาสในช่วงที่เจ้าหน้าตำรวจถูกเกณฑ์ไปช่วยกู้ภัยในพื้นที่ต่างๆ ของเกาะออกปล้นสะดมร้านค้าในกรุงปาโกปาโก เมืองเอกของอเมริกันซามัว โดยสินค้าที่ถูกปล้นมีทั้งอาหาร เครื่องใช้ไฟฟ้า และของมีค่าอีกหลายชนิด
*** เหยื่อกิสนาแตะ 400
จำนวนผู้เสียชีวิตจากพายุไต้ฝุ่นกิสนาพัดถล่มหลายประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ยังมีรายงานเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดพบผู้เสียชีวิตแล้วกว่า 400 คน โดยฟิลิปปินส์มีจำนวนผู้เสียชีวิตที่ยืนยันได้แล้วมากที่สุดถึง 277 คน ขณะที่สองประเทศในอินโดจีน คือ เวียดนาม และกัมพูชา มีผู้เสียชีวิต119 คน และ 14 คนตามลำดับ
พายุไต้ฝุ่นกิสนา ถือเป็นหนึ่งในพายุที่รุนแรงที่สุดที่เข้าโจมตีภูมิภาคนี้ ในรอบ 2 ปีที่ผ่านมา โดยสร้างความเสียหายอย่างหนักทำให้มีประชาชนได้รับความเดือดร้อนเกือบ 1.4 ล้านคน และไร้ที่อยู่อาศัยอีกหลายแสนคน
*** “ซูเปอร์ไต้ฝุ่น” ก่อตัวอีกแล้วเตรียมถล่มปินส์ซ้ำ
สำนักอุตุนิยมวิทยาของฟิลิปปินส์ รายงานวานนี้ (1) ว่าพบการก่อตัวของพายุไต้ฝุ่นลูกใหม่ที่มีชื่อว่า “ป้าหม่า” ซึ่งได้ทวีกำลังแรงขึ้นขณะเคลื่อนตัวอยู่ในน่านน้ำนอกชายฝั่งทางภาคตะวันออกของฟิลิปปินส์ และอาจพัฒนาเป็น “ซูเปอร์ไต้ฝุ่น” พัดถล่มฟิลิปปินส์ซ้ำในช่วงสุดสัปดาห์นี้ ทั้งที่หลายพื้นที่ทางตอนเหนือของประเทศยังคงไม่ฟื้นตัวจากความเสียหายที่ได้รับจากพายุไต้ฝุ่นกิสนา
นาตาเนียล กรูซโฆษกสำนักอุตุนิยมวิทยาฟิลิปปินส์ระบุว่า ฟิลิปปินส์อาจต้องเผชิญกับพายุไต้ฝุ่นที่มีกำลังแรงมาก และอาจทวีกำลังขึ้นเป็นซูเปอร์ไต้ฝุ่นที่มีความเร็วลมมากกว่า 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พร้อมเรียกร้องให้รัฐบาลเตรียมความพร้อมรับมือไต้ฝุ่นลูกนี้ในระดับสูงสุด หลังจากมีแนวโน้มว่าพายุไต้ฝุ่นป้าหม่า จะพัดเข้าถล่มจังหวัดกิริโน และอิซาเบลา บนเกาะลูซอน ทางเหนือของฟิลิปปินส์ภายในช่วงบ่ายวันเสาร์ (3) นี้ และอาจทำให้เกิดฝนตกหนักและดินถล่มในหลายพื้นที่
ทั้งนี้ รายงานข่าวล่าสุดระบุว่า พายุไต้ฝุ่นป้าหม่ามีความเร็วลมสูงสุดใกล้จุดศูนย์กลางแล้ว มากกว่า 185 กิโลเมตรต่อชั่วโมงในขณะนี้ ซึ่งเพิ่มขึ้นจากการเฝ้าติดตามครั้งก่อนเมื่อช่วงเช้าวานนี้ (1) ที่พบว่ามีความเร็วลมประมาณ 150 กิโลเมตรต่อชั่วโมงเท่านั้น