ASTVผู้จัดการรายวัน - ตลาดหลักทรัพย์ฯคาดผู้เข้างาน SET in the Cityปีนี้ 1 แสนราย จากปีก่อน7หมื่นราย เชื่อปริมาณการทำธุรกรรมทางการเงินโต 30% "ภัทรียา" แจง จากดัชนีตลาดหุ้นไทยปีนี้ปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็นโอกาสนักลงทุนเลือกลงทุน เตรียมเริ่มงาน 12-15 พ.ย.นี้
นางภัทรียา เบญจพลชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.)เปิดเผยว่า งานมหกรรมการลงทุนครบวงจรแห่งปี SET in the City 2009 ครั้งที่ 6จะจัดขึ้นใน ระหว่างวันที่ 12-15 พฤศจิกายน ณ ศูนย์การค้าพารากอน ซึ่งคาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมงาน 1 แสนราย จากปีที่ผ่านมาที่มีจำนวนผู้เข้าร่วมงาน 70,000ราย และคาดว่าปริมาณปริมาณธุรกรรมจะมีจำนวน 10,000 รายการ เพิ่มขึ้น 30% จากปีที่ผ่านมาที่มีจำนวน 7,500 รายการ โดยนับจากบริการที่ประชาชนเข้ามาใช้บริการทุกอย่าง
ทั้งนี้คาดว่ามูลค่าการซื้อกองทุนหุ้นระยะยาว(LTF) น่าจะมีมูลค่าสูงสุด เพราะปริมาณธุรกรรมดังกล่าวถือว่าค่อนข้างสูง เมื่อเทียบกับการจัดตลาดหลักทรัพย์สัญจร และมันนี่เอ็กซ์โปที่จะอยู่ในระดับหลักพันรายการเท่านั้น เนื่องจากงานนี้เป็นการจัดในพื้นที่กรุงเทพฯที่เป็นศูนย์กลางทุกอย่าง รวมถึงการจัดพื้นที่เพื่อลงทุน ซึ่งการจัดงาน SET in the City ของปีที่แล้วดัชนีอยู่ที่ระดับ 384 จุด แต่ปีนี้ดัชนีปรับตัวขึ้นมาพอสมควร อยู่ในระดับ 725 จุด ทำให้สภาพคล่องการซื้อขายดีขึ้น จึงนับเป็นโอกาสของผู้ลงทุนที่จะกลับมาพิจารณาการลงทุนและรับฟังข้อมูลเกี่ยวกับภาพรวมเศรษฐกิจ อุตสาหกรรมผ่านงานในครั้งนี้
สำหรับ งาน SET in the City 2009 นับเป็นกิจกรรมเพื่อการลงทุนที่ครบวงจรและยิ่งใหญ่ในรอบปี ที่เป็นการร่วมมือกับองค์กรทั้งภาครัฐและเอกชนในภาคตลาดเงิน ตลาดทุนไทย ซึ่งจะมาร่วมออกบูธรวมกว่า 90 องค์กร โดยผู้ลงทุนจะได้พบกับผู้เชี่ยวชาญในด้านต่างๆ ที่จะมาให้คำปรึกษาด้านการลงทุนแบบครบวงจร ซึ่งทำให้มีโอกาสได้รับผลตอบแทนมากขึ้น อาทิ บริษัทหลักทรัพย์(บล.) บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน(บลจ.) โบรกเกอร์โกลด์ฟิวเจอร์ส บริษัทประกันภัย ที่จะร่วมให้บริการด้านการวางแผนการลงทุนครบวงจร เช่น หุ้น กองทุนรวม พันธบัตร หุ้นกู้ ฟิวเจอร์ส ออปชั่น และประกันภัยควบการลงทุน
โดยรวมถึงตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้า หน่วยงานภาครัฐ อาทิ สำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. ที่จะมาให้คำปรึกษาคำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุนและสิทธิของผู้ลงทุน ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย กับการให้ข้อมูลการเงินตามหลักศาสนาอิสลาม กรมสรรพากรที่มาพร้อมบริการ “คลีนิกภาษี” ร่วมไขข้อข้องใจในทุกเรื่องที่เกี่ยวกับภาษี นอกจากนี้ ยังมีการนำเสนอข้อมูลและแสดงศักยภาพของบริษัทจดทะเบียนไทย 30 แห่ง ซึ่งเป็นธุรกิจในกลุ่มธนาคารพาณิชย์ถึง 9 แห่ง ที่จะมาให้บริการด้านการเงินการลงทุนอย่างครบวงจร
นางภัทรียา เบญจพลชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.)เปิดเผยว่า งานมหกรรมการลงทุนครบวงจรแห่งปี SET in the City 2009 ครั้งที่ 6จะจัดขึ้นใน ระหว่างวันที่ 12-15 พฤศจิกายน ณ ศูนย์การค้าพารากอน ซึ่งคาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมงาน 1 แสนราย จากปีที่ผ่านมาที่มีจำนวนผู้เข้าร่วมงาน 70,000ราย และคาดว่าปริมาณปริมาณธุรกรรมจะมีจำนวน 10,000 รายการ เพิ่มขึ้น 30% จากปีที่ผ่านมาที่มีจำนวน 7,500 รายการ โดยนับจากบริการที่ประชาชนเข้ามาใช้บริการทุกอย่าง
ทั้งนี้คาดว่ามูลค่าการซื้อกองทุนหุ้นระยะยาว(LTF) น่าจะมีมูลค่าสูงสุด เพราะปริมาณธุรกรรมดังกล่าวถือว่าค่อนข้างสูง เมื่อเทียบกับการจัดตลาดหลักทรัพย์สัญจร และมันนี่เอ็กซ์โปที่จะอยู่ในระดับหลักพันรายการเท่านั้น เนื่องจากงานนี้เป็นการจัดในพื้นที่กรุงเทพฯที่เป็นศูนย์กลางทุกอย่าง รวมถึงการจัดพื้นที่เพื่อลงทุน ซึ่งการจัดงาน SET in the City ของปีที่แล้วดัชนีอยู่ที่ระดับ 384 จุด แต่ปีนี้ดัชนีปรับตัวขึ้นมาพอสมควร อยู่ในระดับ 725 จุด ทำให้สภาพคล่องการซื้อขายดีขึ้น จึงนับเป็นโอกาสของผู้ลงทุนที่จะกลับมาพิจารณาการลงทุนและรับฟังข้อมูลเกี่ยวกับภาพรวมเศรษฐกิจ อุตสาหกรรมผ่านงานในครั้งนี้
สำหรับ งาน SET in the City 2009 นับเป็นกิจกรรมเพื่อการลงทุนที่ครบวงจรและยิ่งใหญ่ในรอบปี ที่เป็นการร่วมมือกับองค์กรทั้งภาครัฐและเอกชนในภาคตลาดเงิน ตลาดทุนไทย ซึ่งจะมาร่วมออกบูธรวมกว่า 90 องค์กร โดยผู้ลงทุนจะได้พบกับผู้เชี่ยวชาญในด้านต่างๆ ที่จะมาให้คำปรึกษาด้านการลงทุนแบบครบวงจร ซึ่งทำให้มีโอกาสได้รับผลตอบแทนมากขึ้น อาทิ บริษัทหลักทรัพย์(บล.) บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน(บลจ.) โบรกเกอร์โกลด์ฟิวเจอร์ส บริษัทประกันภัย ที่จะร่วมให้บริการด้านการวางแผนการลงทุนครบวงจร เช่น หุ้น กองทุนรวม พันธบัตร หุ้นกู้ ฟิวเจอร์ส ออปชั่น และประกันภัยควบการลงทุน
โดยรวมถึงตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้า หน่วยงานภาครัฐ อาทิ สำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. ที่จะมาให้คำปรึกษาคำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุนและสิทธิของผู้ลงทุน ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย กับการให้ข้อมูลการเงินตามหลักศาสนาอิสลาม กรมสรรพากรที่มาพร้อมบริการ “คลีนิกภาษี” ร่วมไขข้อข้องใจในทุกเรื่องที่เกี่ยวกับภาษี นอกจากนี้ ยังมีการนำเสนอข้อมูลและแสดงศักยภาพของบริษัทจดทะเบียนไทย 30 แห่ง ซึ่งเป็นธุรกิจในกลุ่มธนาคารพาณิชย์ถึง 9 แห่ง ที่จะมาให้บริการด้านการเงินการลงทุนอย่างครบวงจร
