ศูนย์ข่าวภูเก็ต- จังหวัดภูเก็ตประสบความสำเร็จแก้ปัญหาเจ็ตสกีเอาเปรียบนักท่องเที่ยว ผู้ประกอบการตอบรับทำประกันภัย พร้อมเงื่อนไขประกันทั้งตัวเรือที่เสียหายและบุคคลที่สาม 219 ลำ ประกาศลั่นเจ็ตสกีเถื่อนห้ามให้บริการเด็ดขาด
ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดภูเก็ต พลเรือตรี อมรโชติ สุจิรัตน์ รองผู้อำนวยการ กอ.รมน.จังหวัดภูเก็ต ในฐานะประธานคณะทำงานจัดทำประกันภัยให้เจ็ตสกี ได้เป็นประธานจัดประชุมหารือร่วมระหว่างบริษัทตัวแทนประกันภัยกับตัวแทนผู้ประกอบการเจ็ตสกีทั้ง 5 หาดในจังหวัดภูเก็ต และหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง เพื่อหาข้อสรุปและเงื่อนไขในการทำประกันภัยเจ็ตสกีที่ให้บริการตามชายหาด แก้ปัญหาเจ็ตสกีเอาเปรียบนักท่องเที่ยวกรณีที่เจ็ตสกีเกิดอุบัติเหตุ
การประชุมดังกล่าว ได้ข้อสรุปว่า จะควบคุมให้เจ็ตสกีให้บริการทั้งหมด 219 ลำเท่านั้น ที่เหลือไม่มีสิทธิ์นำมาให้บริการโดยเด็ดขาด ซึ่งในส่วนของการทำประกันภัยทุกฝ่ายเห็นร่วมกันที่จะทำประกันภัยตัวเรือ เครื่องยนต์เรือ และอุปกรณ์ส่วนประกอบเสียหาย เฉพาะกรณีที่นักท่องเที่ยวเช่าให้บริการเท่านั้น บริษัทประกันภัยจะไม่รับผิดชอบกรณีการขนย้าย หรือลูกเรือนำเรือลงไปวิ่งโฉบเฉี่ยวโชว์นักท่องเที่ยว เรือไฟไหม้ หรือเรือสูญหาย และในรอบ 1 ปี สามารถเรียกค่าชดเชยสินไหมได้ไม่เกิน 6 ครั้งต่อปี และการชดเชยสินไหม 1,500 บาท แรกผู้ประกอบการ (ผู้เช่า) เป็นผู้รับผิดชอบ ส่วนเกินเป็นหน้าที่ของบริษัทประกันภัยเป็นผู้ชดเชย ทั้งนี้เพื่อให้นักท่องเที่ยวระมัดระวังให้การใช้บริการมากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ ยังเห็นร่วมกันที่จะประกันภัยในส่วนของผู้ขับขี่ ผู้โดยสาร และบุคคลที่สาม กรณีเกิดอุบัติเหตุต้องรักษาพยาบาล โดยจะคุ้มครองผู้ขับขี่ที่เป็นผู้เช่า และผู้ที่ว่ายน้ำอยู่ในบริเวณนั้น โดยกำหนดค่ารักษาพยาบาลวงเงินสูงสุดครั้งละไม่เกิน 100,000 บาท กรณีเสียชีวิตบริษัทประกันชดเชยสินไหมไม่เกิน 100,000 บาท
ทั้งนี้ ให้บริษัทประกันภัยที่สนใจยื่นซองประมูลในวันที่ 8 ตุลาคม 2552 ตั้งแต่เวลา 10.00-16.00 น.ที่ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต และจะมีการเปิดซองประมูลในวันที่ 9 ตุลาคม 2552 ในเวลา 10.00 น.โดยจังหวัดจะเชิญตัวแทนผู้ประกอบการทั้ง 5 หาด มาตัดสินใจเลือกข้อเสนอของแต่ละบริษัท หากบริษัทใดได้รับการคัดเลือกก็จะเป็นผู้ทำประกันภัยให้แก่เจ็ตสกีทั้ง 219 ลำที่ได้จดทะเบียนไว้กับขนส่งทางน้ำและพาณิชยนาวีจังหวัดภูเก็ต และผู้ประกอบการจะต้องทำประกันภัยให้เสร็จภายใน 30 วัน
พลเรือตรี อมรโชติ กล่าวว่า มาตรการในการทำประกันภัย คิดว่า จะสามารถแก้ปัญหาเจ็ตสกีเอาเปรียบนักท่องเที่ยวได้ประมาณ 90% เพราะยังมีเงื่อนไขอื่นๆ อีกที่ยังเป็นปัญหา เช่น สัญญาเช่าที่ผู้ประกอบการทำกับนักท่องเที่ยว โดยปัญหานี้จังหวัดจะดำเนินการควบคู่กับการทำประกันภัย โดยให้ผู้ประกอบการร่างสัญญาเช่าส่งมาที่จังหวัดเพื่อให้อัยการและคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) พิจารณาว่าสัญญาดังกล่าวเป็นธรรมต่อนักท่องเที่ยวหรือไม่ หลังจากนั้นก็จะใช้เป็นสัญญาเช่าเจ็ตสกีที่ใช้เหมือนกันทั้งจังหวัด เพื่อให้สัญญาเช่าเจ็ตสกีเป็นมาตรฐานเดียวกันทั้งจังหวัด
“ปีหน้า จังหวัดภูเก็ตจะมีการติดตั้งกล้องวงจรปิดหรือ CCTV ตามชายหาดต่างๆ ซึ่งจุดนี้จะเป็นตัวช่วยในการดูแลไม่ให้ผู้ประกอบการเอาเปรียบนักท่องเที่ยวอีก “
ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดภูเก็ต พลเรือตรี อมรโชติ สุจิรัตน์ รองผู้อำนวยการ กอ.รมน.จังหวัดภูเก็ต ในฐานะประธานคณะทำงานจัดทำประกันภัยให้เจ็ตสกี ได้เป็นประธานจัดประชุมหารือร่วมระหว่างบริษัทตัวแทนประกันภัยกับตัวแทนผู้ประกอบการเจ็ตสกีทั้ง 5 หาดในจังหวัดภูเก็ต และหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง เพื่อหาข้อสรุปและเงื่อนไขในการทำประกันภัยเจ็ตสกีที่ให้บริการตามชายหาด แก้ปัญหาเจ็ตสกีเอาเปรียบนักท่องเที่ยวกรณีที่เจ็ตสกีเกิดอุบัติเหตุ
การประชุมดังกล่าว ได้ข้อสรุปว่า จะควบคุมให้เจ็ตสกีให้บริการทั้งหมด 219 ลำเท่านั้น ที่เหลือไม่มีสิทธิ์นำมาให้บริการโดยเด็ดขาด ซึ่งในส่วนของการทำประกันภัยทุกฝ่ายเห็นร่วมกันที่จะทำประกันภัยตัวเรือ เครื่องยนต์เรือ และอุปกรณ์ส่วนประกอบเสียหาย เฉพาะกรณีที่นักท่องเที่ยวเช่าให้บริการเท่านั้น บริษัทประกันภัยจะไม่รับผิดชอบกรณีการขนย้าย หรือลูกเรือนำเรือลงไปวิ่งโฉบเฉี่ยวโชว์นักท่องเที่ยว เรือไฟไหม้ หรือเรือสูญหาย และในรอบ 1 ปี สามารถเรียกค่าชดเชยสินไหมได้ไม่เกิน 6 ครั้งต่อปี และการชดเชยสินไหม 1,500 บาท แรกผู้ประกอบการ (ผู้เช่า) เป็นผู้รับผิดชอบ ส่วนเกินเป็นหน้าที่ของบริษัทประกันภัยเป็นผู้ชดเชย ทั้งนี้เพื่อให้นักท่องเที่ยวระมัดระวังให้การใช้บริการมากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ ยังเห็นร่วมกันที่จะประกันภัยในส่วนของผู้ขับขี่ ผู้โดยสาร และบุคคลที่สาม กรณีเกิดอุบัติเหตุต้องรักษาพยาบาล โดยจะคุ้มครองผู้ขับขี่ที่เป็นผู้เช่า และผู้ที่ว่ายน้ำอยู่ในบริเวณนั้น โดยกำหนดค่ารักษาพยาบาลวงเงินสูงสุดครั้งละไม่เกิน 100,000 บาท กรณีเสียชีวิตบริษัทประกันชดเชยสินไหมไม่เกิน 100,000 บาท
ทั้งนี้ ให้บริษัทประกันภัยที่สนใจยื่นซองประมูลในวันที่ 8 ตุลาคม 2552 ตั้งแต่เวลา 10.00-16.00 น.ที่ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต และจะมีการเปิดซองประมูลในวันที่ 9 ตุลาคม 2552 ในเวลา 10.00 น.โดยจังหวัดจะเชิญตัวแทนผู้ประกอบการทั้ง 5 หาด มาตัดสินใจเลือกข้อเสนอของแต่ละบริษัท หากบริษัทใดได้รับการคัดเลือกก็จะเป็นผู้ทำประกันภัยให้แก่เจ็ตสกีทั้ง 219 ลำที่ได้จดทะเบียนไว้กับขนส่งทางน้ำและพาณิชยนาวีจังหวัดภูเก็ต และผู้ประกอบการจะต้องทำประกันภัยให้เสร็จภายใน 30 วัน
พลเรือตรี อมรโชติ กล่าวว่า มาตรการในการทำประกันภัย คิดว่า จะสามารถแก้ปัญหาเจ็ตสกีเอาเปรียบนักท่องเที่ยวได้ประมาณ 90% เพราะยังมีเงื่อนไขอื่นๆ อีกที่ยังเป็นปัญหา เช่น สัญญาเช่าที่ผู้ประกอบการทำกับนักท่องเที่ยว โดยปัญหานี้จังหวัดจะดำเนินการควบคู่กับการทำประกันภัย โดยให้ผู้ประกอบการร่างสัญญาเช่าส่งมาที่จังหวัดเพื่อให้อัยการและคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) พิจารณาว่าสัญญาดังกล่าวเป็นธรรมต่อนักท่องเที่ยวหรือไม่ หลังจากนั้นก็จะใช้เป็นสัญญาเช่าเจ็ตสกีที่ใช้เหมือนกันทั้งจังหวัด เพื่อให้สัญญาเช่าเจ็ตสกีเป็นมาตรฐานเดียวกันทั้งจังหวัด
“ปีหน้า จังหวัดภูเก็ตจะมีการติดตั้งกล้องวงจรปิดหรือ CCTV ตามชายหาดต่างๆ ซึ่งจุดนี้จะเป็นตัวช่วยในการดูแลไม่ให้ผู้ประกอบการเอาเปรียบนักท่องเที่ยวอีก “