เอเอฟพี - ผู้บัญชาการกองทัพอากาศอินเดียเผยวานนี้ (23) ว่า อินเดียมีกำลังทางอากาศเพียงหนึ่งในสามของจีนซึ่งถือเป็นประเทศคู่แข่งสำคัญ และยังขาดแคลนเครื่องบินอีกมากมายเหลือเกินเพื่อใช้รับมือหากเกิดปัญหาด้านความมั่นคงขึ้น
"เครื่องบินรบที่เรามีอยู่ขณะนี้ยังไม่เพียงพอ ความเข้มแข้งด้านกำลังทางอากาศของเราเทียบได้เพียงหนึ่งในสามของจีนเท่านั้น แต่รัฐบาลกำลังหาทางขยายขีดความสามารถของกองทัพอากาศของเราอยู่" พี. วี. นาอิค ผู้บัญชาการทหารอากาศของอินเดียกล่าวสุนทรพจน์ที่เมืองคานธีนคร เมืองหลวงของรัฐคุชราต ทางตะวันตกของอินเดีย ซึ่งเผยแพร่ในเว็บไซต์ของซีเอ็นเอ็น-ไอบีเอ็น
ความเห็นดังกล่าวมีขึ้นหลังจากที่มีรายงานว่ากองทัพบกและกองทัพอากาศของจีน "รุกล้ำ" เข้าไปในพื้นที่ของอินเดียเมื่อหลายสัปดาห์ก่อน แต่ทั้งปักกิ่งและนิวเดลีต่างปฏิเสธข่าวนี้
อินเดียและจีนนั้นต่างก็เป็นยักษ์ใหญ่ในเอเชียและเป็นคู่แข่งกันในทางเศรษฐกิจ ทั้งสองยังไม่มีการตกลงกันเกี่ยวกับพื้นที่บริเวณชายแดนที่ติดกันยาวถึงกว่า 4,000 กิโลเมตร หลังจากที่เคยเกิดกรณีสู้รบกันเป็นช่วงเวลาสั้นๆ แต่รุนแรงมาแล้วเมื่อปี 1962
ทั้งนี้ อินเดียระบุว่าจีนยึดครองดินแดนของตนไว้ถึง 38,000 ตารางกิโลเมตร ส่วนจีนก็อ้างว่าเป็นเจ้าของพื้นที่ 90,000 ตารางกิโลเมตร หรือก็คือรัฐอรุณาจัลประเทศ ทางตะวันออกเฉียงเหนือของอินเดีย
นาอิคบอกว่าอินเดียมีวิธีการตอบโต้การรุกล้ำของจีนสองวิธี "วิธีแรกคือจับอาวุธแล้วออกรบที่ชายแดน อีกวิธีหนึ่งคือพัฒนาขีดความสามารถด้านอาวุธอย่างเป็นระบบเพื่อรับมือกับภัยคุกคาม"
เมื่อเดือนที่แล้ว ผู้บัญชาการกองทัพเรือของอินเดียก็เคยออกมากล่าวในทำนองเดียวกันว่าอินเดียไม่สามารถแข่งขันกับจีนในเรื่องงบประมาณการทหารได้ และเตือนว่าจีน "กำลังพัฒนาขีดความสามารถด้านการทหารที่เกรงขาม"
"เครื่องบินรบที่เรามีอยู่ขณะนี้ยังไม่เพียงพอ ความเข้มแข้งด้านกำลังทางอากาศของเราเทียบได้เพียงหนึ่งในสามของจีนเท่านั้น แต่รัฐบาลกำลังหาทางขยายขีดความสามารถของกองทัพอากาศของเราอยู่" พี. วี. นาอิค ผู้บัญชาการทหารอากาศของอินเดียกล่าวสุนทรพจน์ที่เมืองคานธีนคร เมืองหลวงของรัฐคุชราต ทางตะวันตกของอินเดีย ซึ่งเผยแพร่ในเว็บไซต์ของซีเอ็นเอ็น-ไอบีเอ็น
ความเห็นดังกล่าวมีขึ้นหลังจากที่มีรายงานว่ากองทัพบกและกองทัพอากาศของจีน "รุกล้ำ" เข้าไปในพื้นที่ของอินเดียเมื่อหลายสัปดาห์ก่อน แต่ทั้งปักกิ่งและนิวเดลีต่างปฏิเสธข่าวนี้
อินเดียและจีนนั้นต่างก็เป็นยักษ์ใหญ่ในเอเชียและเป็นคู่แข่งกันในทางเศรษฐกิจ ทั้งสองยังไม่มีการตกลงกันเกี่ยวกับพื้นที่บริเวณชายแดนที่ติดกันยาวถึงกว่า 4,000 กิโลเมตร หลังจากที่เคยเกิดกรณีสู้รบกันเป็นช่วงเวลาสั้นๆ แต่รุนแรงมาแล้วเมื่อปี 1962
ทั้งนี้ อินเดียระบุว่าจีนยึดครองดินแดนของตนไว้ถึง 38,000 ตารางกิโลเมตร ส่วนจีนก็อ้างว่าเป็นเจ้าของพื้นที่ 90,000 ตารางกิโลเมตร หรือก็คือรัฐอรุณาจัลประเทศ ทางตะวันออกเฉียงเหนือของอินเดีย
นาอิคบอกว่าอินเดียมีวิธีการตอบโต้การรุกล้ำของจีนสองวิธี "วิธีแรกคือจับอาวุธแล้วออกรบที่ชายแดน อีกวิธีหนึ่งคือพัฒนาขีดความสามารถด้านอาวุธอย่างเป็นระบบเพื่อรับมือกับภัยคุกคาม"
เมื่อเดือนที่แล้ว ผู้บัญชาการกองทัพเรือของอินเดียก็เคยออกมากล่าวในทำนองเดียวกันว่าอินเดียไม่สามารถแข่งขันกับจีนในเรื่องงบประมาณการทหารได้ และเตือนว่าจีน "กำลังพัฒนาขีดความสามารถด้านการทหารที่เกรงขาม"