xs
xsm
sm
md
lg

“เทพเทือก” ทิ้งทวน อนุมัติงบหมื่นล้าน ให้ “ป้อม” ซื้ออาวุธ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน - ครม.ช่วง “เทพเทือก” นั่งหัวโต๊ะ ทิ้งทวนก่อนปิดงบ อนุมัติงบผูกพันข้ามปีกว่าหมื่นล้านให้กองทัพจัดซื้ออาวุธ ยุทโธปกรณ์ ส่วนตำรวจได้ส่วนแบ่ง 81 ล้านไปซื้ออุปกรณ์สู้ม็อบ

วานนี้ (22 ก.ย.) นายศุภชัย ใจสมุทร รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฐานะรักษาการนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมครม. ได้มีมติอนุมัติงบประมาณประจำปี 2552 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉิน หรือจำเป็นสำหรับจัดหาอุปกรณ์ควบคุมฝูงชน จำนวน 4 รายการ เป็นเงินทั้งสิ้น 81,058,250 บาท ตามที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) เสนอ ประกอบด้วย

1. ชุดป้องกันสะเก็ด ราคาชุดละ 3,000 บาท จำนวน 16,045 ชุด เป็นเงินทั้งสิ้น 48,135,000 บาท 2. กระบองยาง ราคาอันละ 1,000 บาท จำนวน 18,445 อัน เป็นเงินทั้งสิ้น 18,445,000 บาท 3. ถุงมือหนัง ราคาคู่ละ 500 บาท จำนวน 16,045 คู่ เป็นเงินทั้งสิ้น 8,022,500 บาท และ 4. สายรัดข้อมือ ราคาเส้นละ 35 บาท จำนวน 184,450 เส้น เป็นเงิน 6,455,750 บาท

นอกจากนี้ ครม. ยังได้อนุมัติก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณรวมแล้ว 10,637,347,864 บาท ให้กับกองทัพเรือ กองทัพบก กองบัญชาการกองทัพไทย เพื่อจัดซื้อยุทโธปกรณ์ ตามที่กระทรวงกลาโหม (กห.) เสนอเข้ามา

เริ่มจาก ครม.อนุมัติให้กองทัพเรือ ก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณโครงการพัฒนาขีดความสามารถในการปราบเรือดำน้ำ เฮลิคอร์ปเตอร์ปราบเรือดำน้ำแบบ SEA HAWK ในราคายกเว้นค่าอากรทางศุลกากร แต่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม และค่าใช้จ่ายทั้งปวง วงเงิน 989,985,400 บาท ระยะเวลาดำเนินการ 3 ปี ตั้งแต่ปีงบประมาณ 2552-54 โดยมีแผนการใช้จ่าย คือ ปีงบประมาณ 2552 จำนวน 197,997,080 บาท ปี 2553 จำนวน 386,094,306 บาท และปี 2554 ปีสุดท้าย จำนวน 405,894,014 บาท

ทั้งนี้ กระทรวงกลาโหมรายงานว่า โครงการดังกล่าวเป็นการพัฒนาเฮลิคอร์ปเตอร์ปราบเรือดำน้ำ แบบ SEA HAWK ของกองทัพเรือ ที่มีประจำการอยู่จำนวน 6 เครื่องให้มีขีดความสามารถพร้อมสมบูรณ์ตามที่ได้กำหนดไว้ในความต้องการในการปฏิบัติภารกิจปราบเรือดำน้ำร่วมกับเรือรบผิวน้ำของกองทัพเรือ ในบทบาทการป้องกันอธิปไตยของชาติทางทะเล และป้องกันปราบปรามการใช้เรือดำน้ำของฝ่ายตรงกันข้ามได้อย่างมีประสิทธิภาพ

นอกจากนี้ ในส่วนของกองทัพเรือ ครม.ยังอนุมัติให้ก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ โครงการจัดหาเรือตรวจการณ์ใกล้ฝั่ง จำนวน 3 ลำ ระยะเวลาดำเนินการ 3 ปี ตั้งแต่ปีงบประมาณ 2552 ถึง 2554 วงเงิน 1,603,177,084.27 บาท โดยมีแผนการใช้จ่ายงบประมาณ คือ ปีงบ 2552 จำนวน 314 ล้านบาท ปีงบฯ 2553 จำนวน 628 ล้านบาท และปีงบฯ 2554 จำนวน 661,177,084.27 บาท ซึ่ง กระทรวงกลาโหม รายงานว่ากองทัพเรือ ได้ดำเนินโครงการฯ สำหรับปฏิบัติภารกิจลาดตระเวน ตรวจการณ์รักษาฝั่ง ป้องกันการแทรกซึม คุ้มครองเรือประมง ป้องกันและคุ้มครองทรัพยากรธรรมชาติในอ่าวไทย และทะเลอันดามัน รักษากฎหมายในทะเลตามอำนาจหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย โดยจะเป็นกำลังสำคัญของกองทัพเรือภาคต่างๆ ซึ่งจะต้องปฏิบัติการอย่างต่อเนื่องทั้งในยามสงบ และยามสงคราม รวมถึงการถวายความปลอดภัย ต่อพระบรมวงศานุวงศ์

ในส่วนของกองทัพบก ซึ่งเสนอโดยกระทรวงกลาโหม ครม.อนุมัติให้ก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ โครงการจัดหายานยนต์สายสรรพาวุธ ชนิดรถยนต์บรรทุกขนาด 2 ตันครึ่ง แบบ 4x4 ยี่ห้ออีซูซุ รุ่น FST ซึ่งเป็นยานยนต์ที่มีคุณลักษณะเฉพาะตามความต้องการ และสามารถสนับสนุนหน่วยต่างๆ ในกองทัพบกและมีประสิทธิภาพสูง ในการปฏิบัติภารกิจจำนวน 1,474 คัน โดยมีระยะเวลาดำเนินการ 4 ปี ตั้งแต่ปี 2552-2555 วงเงิน 4,994,649,000 บาท โดยมีแผนการใช้จ่ายคือ ปีงบฯ 2552-53 ผ่อนชำระปีละ 1 พันล้านบาท ปีงบฯ2554 จำนวน 1.5 พันล้านบาท และปีงบฯ 2555 จำนวน 1,494,649,000 บาท ซึ่งกระทรวงกลาโหม รายงานว่า โครงการดังกล่าวเป็นการจัดหายุทโธปกรณ์ตามอัตราการจัดหายุทโธปกรณ์ที่กองทัพบกยังมีไม่ครบตามอัตรา รวมทั้งทดแทนยุทโธปกรณ์เดิมที่เก่าล้าสมัย ได้รับแจกจ่ายใช้ราชการมาเป็นเวลานาน และเพื่อให้สามารถตอบสนองต่อการปฏิบัติภารกิจของกองทัพบก ให้บรรลุตามที่ได้รับมอบหมาย

ครม.ยังอนุมัติให้กองบัญชาการกองทัพไทย ก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณโครงการจัดหายานพาหนะ และเครื่องจักรกลทดแทน ระยะเวลา ดำเนินการ 4 ปี ตั้งแต่ปีงบประมาณ 2552-55 วงเงิน 3,049,536,380 บาท โดยมีแผนการใช้จ่ายงบฯ คือ ปีงบฯ 2552-53 จำนวนปีละ 610,856,800 บาท ปีงบฯ 2554 จำนวน 814,475,700 บาท และปีงบฯ 2555 จำนวน 1,013,347,080 บาท ซึ่งกระทรวงกลาโหม รายงานว่า โครงการดังกล่าวเป็นการจัดหายานพาหนะ และเครื่องจักรกลใหม่เพื่อนำมาทดแทนของเดิมที่มีการใช้งานเป็นระยะเวลานาน มีการชำรุด และเสื่อมสภาพ ทำให้ไม่สามารถใช้ปฏิบัติงานตามโครงการของหน่วยงานด้านการช่วยเหลือประชาชน งานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ตลอดจนงานโครงการพิเศษอื่นๆได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังทำให้สิ้นเปลืองงบประมาณในการซ่อมบำรุงสูง หากไม่ได้รับการจัดหาทดแทน

นอกจากนี้ ครม.ยังอนุมัติตามที่กระทรวงกลาโหมเสนอ ขอปรับปรุงมติครม.เรื่องขออนุมัติก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ โครงการจัดหาปืนเล็กยาว ขนาด 5.56 มม.ระยะที่ 3 วันที่ 9 ก.ย. 51 จากเดิมเป็นอนุมัติให้กองทัพบก ก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ โครงการจัดหาปืนเล็กยาวขนาด 5.56 มม. จำนวน 14,264 กระบอก วงเงิน 28,570,792 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 976,549,671 บาท โดยวิธีพิเศษ ระยะเวลาดำเนินการ 3 ปี ตั้งแต่ ปี 52-54 ตามแผนการใช้จ่าย
กำลังโหลดความคิดเห็น