xs
xsm
sm
md
lg

กูรูแนะใช้3Cชูคำ“สยาม”ดึงท่องเที่ยว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน – แจ๊ค เทราท์  กูรูทฤษฎีโพซิชันนิ่งระดับโลก แนะไทยปรับตำแหน่งการตลาดโฟกัสความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน กลเม็ดปลาเล็กกินปลาใหญ่ ชงโมเดล “จิม ทอมป์สัน” ต้นแบบ  ด้านการเมืองวางแผนกระตุ้นเศรษฐกิจ เรียกความเชื่อมั่น พร้อมชู “สยาม” สร้างความแปลกใหม่โปรโมตท่องเที่ยวไทยฟื้น ระบุ เศรษฐกิจปีหน้าเติบโตช้า แนะทางรอดรีโพซิชันนิ่งอาวุธสู้สมรภูมิการตลาดแข่งเดือด   

วานนี้ ( 22 กันยายน 2552) สมาคมการตลาดแห่งประเทศไทย จัดงานสัมนาภายใต้"กลยุทธ์การวางแผนและการอยู่รอดทางการตลาดในภาวะเศรษฐกิจถดถอย" โดยมีนายแจ๊ค เทราท์ นักการตลาดระดับโลกซึ่งเป็นผู้คิดทฤษฎีการวางตำแหน่งตลาด กล่าวภายในงานว่า แม้ว่าขณะนี้จะผ่านพ้นการเกิดวิกฤตเศรษฐกิจไปแล้ว แต่ในปีหน้านี้แนวโน้มเศรษฐกิจมีการเติบโตอย่างช้าๆส่งผลให้การแข่งขันปีหน้ายังมีความรุนแรง โดยเฉพาะการช่วงชิงส่วนแบ่งตลาดเพื่อการเติบโตของรายได้ ดังนั้นการปรับตำแหน่งการตลาด หรือ รีโพซิชันนิ่ง (Repositioning) จึงเป็นกลยุทธ์การตลาดที่นักการตลาดต้องควักขึ้นมาใช้ท่ามกลางการแข่งขันที่มีความรุนแรง

***แนะไทยรีโพซิชันนิ่งท่องเที่ยว****
นายเทราท์ กล่าวถึงการการปรับตำแหน่งการตลาดของประเทศไทย ในด้านการท่องเที่ยวควรนำ “สยาม” กลับมาโปรโมตเพื่อสร้างกระแสและทำให้เกิดความแปลกใหม่สำหรับนักท่องเที่ยว เช่นเดียวกับศรีลังกา ใช้คำว่าซีลอน ซึ่งเป็นชื่อเดิมของประเทศ เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยว รัสเซีย โปรโมต ”เซนต์ปีเตอร์เบิร์ก” แต่ขณะเดียวกันต้องสร้างความเป็นเอกลักษณ์ซึ่งจุดแข็งของประเทศไทยด้านการท่องเที่ยว คือ วัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ ขนบธรรมเนียม เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวตะวันตก  
ส่วนภาพลักษณ์ที่เสียจากการขาดสเถียรภาพทางการเมือง ต้องยอมรับในสิ่งที่สูญเสียไปไม่สามารถแก้ไขได้ แต่ภาครัฐต้องวางแผนอนาคตว่าจะก้าวไปอย่างไร  โดยการปรับตำแหน่งต้องนำจุดที่ไม่ดีขึ้นเพื่อทำให้เป็นในเชิงบวก และสร้างจุดขายขึ้นมาใหม่ จากขณะนี้การเมืองไทยยังเป็นสีเทาอยู่อย่างไรก็ตามปัญหาอยู่ที่ว่าการวางแผนทางเศรษฐกิจหรือนโยบายจะสามารถทำได้ตามที่วางไว้หรือไม่

“การเป็นปลาเล็กแล้วจะกินปลาใหญ่ จากปัจจุบันไทยมีประชากรเพียง 60 ล้านคน ต้องโฟกัสการเป็นผู้เชี่ยวชาญเฉพาะเจาะจง โดยยกตัวอย่างกรณีศึกษา การสร้างแบรนด์ให้เป็นผู้เชี่ยวชาญเฉพาะเจาะจง “จิม ทอมป์สัน”ถือว่าเป็นโมเดลต้นแบบที่ดี คือ การสร้างแบรนด์เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านผ้าไหม”
***ควักกลยุทธ์3C รีโพซิชันนิ่ง**
นายเทราท์ กล่าวถึงกลยุทธ์การปรับตำแหน่งการตลาด ภายใต้ 3C คือ 1.Competition การแข่งขันที่รุนแรง  2.Change คือ การปรับเปลี่ยนมุมมองของคน และ3.Crisis ภายใต้การเกิดวิกฤติต้องเพิ่มคุณค่าทางการแข่งขัน  โดยต้องพยายามนำจุดลบมาปรับในมุมมองเชิงบวก มีด้วยกัน 4 วิธี ดำเนินการในเชิงรุก - เชิงรับ สำหรับแบรนด์ผู้นำตลาดต้องทำตลาดใหม่เพื่อสกัดคู่แข่ง รุกด้านข้าง
สำหรับแบรนด์ที่เล็กต้องหาพื้นที่การทำตลาด และสงครามกองโจร เป็นแบรนด์เล็กก็ต้องใช้ทุกวิถีทางในการทำตลาด  อย่างไรก็ตามการปรับโพซิชันนิ่งต้องเพิ่มคุณค่าให้กับแบรนด์ และต้องดำเนินการอย่างศิลปะ แยกแยะระหว่างสโลแกนและโพซิชันนิ่งให้ชัดเจน
นายสมบุญ ประสิทธิ์จูตระกูล นายกสมาคมการตลาดแห่งประเทศไทย กล่าวว่า นักการตลาดในประเทศไทยยังไม่ค่อยมีการปรับตำแหน่งการตลาดมากนัก เพราะเป็นเรื่องที่ยาก และต้องเข้าใจกลุ่มผู้บริโภคและการตลาดเป็นอย่างดี โดยได้ยกตัวอย่าง ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี การผลิตสินค้าจำหน่ายยังไม่มีจุดขายที่ชัดเจน เพราะขาดความรู้ด้านการตลาด โดยแบรนด์ที่เป็นอันดับ 2 ของตลาดต้องหาจุดขายในการบุก ส่วนอันดับ 3 ต้องหาพื้นที่ว่าง ในการรุกตลาด และอันดับ 4 ต้องใช้กลยุทธ์กองโจร นอกจากนี้ยังต้องดำเนินการทั้งโฆษณา บรรจุภัณฑ์ ขับเคลื่อนไปพร้อมๆ กัน เพื่อสะท้อนตำแหน่งการตลาดใหม่ได้อย่างชัดเจน  
นางสาวลักขณา ลีละยุทธโยธิน อดีตนายกสมาคมการตลาดแห่งประเทศไทย กล่าวว่า การเกิดวิกฤตเศรษฐกิจเป็นปัจจัยเร่งที่ทำให้พฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะความต้องการสินค้าที่ตอบสนองความคุ้มค่ามากขึ้น  ดังนั้นการตลาดต้องปรับกลยุทธ์ให้สอดรับกับพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลง
กำลังโหลดความคิดเห็น