ASTVผู้จัดการรายวัน – ไทยคมเสนอแนวทางประมูลซื้อดาวเทียม สหรัฐที่โคจรในห้วงอวกาศ มูลค่า 100 ล้านเหรียญเพื่อใช้ทดแทนไทยคม 2 ที่จะหมดอายุไตรมาสแรกปีหน้า ‘นิมิตร’ ที่ปรึกษารมว.ไอซีทียัน ซื้อดาวเทียมมือสองยังดีกว่าเช่าช่องสัญญาณเพราะรัฐได้กรรมสิทธิ์
นายนิมิตร ดำรงรัตน์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) กล่าวว่า บริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) ได้ส่งหนังสือเสนอแนวทาง จัดหาดาวเทียมดวงใหม่เพื่อทดแทนดาวเทียมไทยคม 2 ที่จะหมดอายุการใช้งานในช่วงไตรมาสแรกปีหน้า โดยใช้วิธีประมูลซื้อดาวเทียมที่โคจรอยู่ในห้วงอวกาศและมีการใช้งานอยู่แล้วจากประเทศสหรัฐอเมริกาให้แก่คณะกรรมการประสานงานดาวเทียมซึ่งมีนายสือ ล้ออุทัย ปลัดกระทรวงไอซีทีเป็นประธานเพื่อพิจารณา
ทั้งนี้คณะกรรมการดังกล่าวจะต้องพิจารณาแนวทางนี้อย่างรอบคอบโดยเฉพาะในแง่เจตนารมณ์ของสัญญาว่าการซื้อดาวเทียมทั้งดวงที่มีการใช้งานอยู่แล้วมาทดแทนดาวเทียมที่หมดอายุแทนการยิงดาวเทียมดวงใหม่จะสามารถดำเนินการได้หรือไม่ แต่หากพิจารณาเปรียบเทียบกับการเช่าช่องสัญญาณบางส่วนของดาวเทียมต่างประเทศเพื่อมาให้บริการลูกค้าดาวเทียมไทยคม 2 ก็จะเห็นว่าแนวทางซื้อดาวเทียมทั้งดวงที่มีการใช้งานอยู่แล้วมาให้บริการ น่าจะเป็นแนวทางที่ดีกว่า รวมทั้งรัฐก็จะได้ประโยชน์จากกรรมสิทธิ์ในดาวเทียมดวงใหม่ด้วยแทนที่จะได้ประโยชน์แค่ส่วนแบ่งรายได้ตามสัญญาสัมปทานเท่านั้น
‘ข้อสรุปในเรื่องนี้รมว.ไอซีทีคงต้องเสนอให้ครม.พิจารณา เพราะเรื่องดาวเทียมสื่อสารเป็นเรื่องความมั่นคงของชาติ และถือเป็นวาระแห่งชาติด้วยซึ่งแนวทางประมูลซื้อดาวเทียมทั้งดวง ถือเป็นแนวทางที่ดีกว่าเสนอให้ไอซีทีแก้ไขสัญญาเพื่อเช่าช่องดาวเทียมบางส่วน ซึ่งไอซีทีไม่สามารถรับได้’
ทั้งนี้หลังจากซื้อดาวเทียมที่ใช้งานอยู่บนห้วงอวกาศแล้ว ไทยคมจะต้องดำเนินการลากจูงดาวเทียมดังกล่าวมาอยู่ในวงโคจรของไทยเพื่อให้บริการแทนดาวเทียมไทยคม 2 และเท่าที่รับทราบเบื้องต้นดาวเทียมดังกล่าวมีประสิทธิภาพในการใช้งานด้านการแพร่ภาพกระจายเสียงหรือบรอดคาสติ้งเป็นอย่างดี
อย่างไรก็ตามการซื้อดาวเทียมที่อยู่บนห้วงอวกาศ มีข้อจำกัดตรงที่ไม่สามารถกำหนด สเปกหรือคุณสมบัติของการใช้งานได้ตรงตามความต้องการของกลุ่มลูกค้าได้ทั้งหมด ดังนั้นการสร้างดาวเทียมขึ้นมาใหม่จึงเป็นแนวทางที่ดีที่สุดสำหรับไอซีทีและยังเห็นว่าไทยคมควรจะสร้างดาวเทียมใหม่ด้วยเพราะในสัญญาระบุไว้ชัดเจนว่าผู้รับสัมปทานต้องสร้างดาวเทียมดวงใหม่ให้เพียงพอต่อการใช้งานของลูกค้าในประเทศ
แหล่งข่าวในวงการโทรคมนาคมกล่าวว่า ไทยคมได้ยื่นหนังสือขอจัดหาดาวเทียมดวงใหม่ทดแทนดาวเทียมไทยคม 2 ด้วยการประมูลซื้อดาวเทียมที่ใช้งานอยู่ในปัจจุบันจากประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นมูลค่าประมาณ 100 ล้านเหรียญ โดยเจ้าของดาวเทียมดังกล่าวต้องการขาย เนื่องจากประสบปัญหาภาวะเศรษฐกิจประกอบกับดาวเทียมดวงดังกล่าวไม่สามารถใช้งานในวงโคจรเดิมได้อย่างมีประสิทธิภาพมากนักเพราะมีปัญหาคลื่นความถี่รบกวนกับดาวเทียมดวงอื่นที่มีวงโคจรทับซ้อนกัน
อย่างไรก็ตามแนวทางการประมูลซื้อดาวเทียมมาทดแทนไทยคม 2 จะเป็นแนวทางที่ไอซีทีสามารถยอมรับได้มากกว่าการแก้สัญญาสัมปทานเพื่อให้ไทยคมสามารถเช่าช่องสัญญาณมาให้บริการเพราะการเช่าช่องสัญญาณทำให้ไอซีทีเสียเปรียบเพราะไม่มีดาวเทียมเป็นสมบัติของชาติ
นายนิมิตร ดำรงรัตน์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) กล่าวว่า บริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) ได้ส่งหนังสือเสนอแนวทาง จัดหาดาวเทียมดวงใหม่เพื่อทดแทนดาวเทียมไทยคม 2 ที่จะหมดอายุการใช้งานในช่วงไตรมาสแรกปีหน้า โดยใช้วิธีประมูลซื้อดาวเทียมที่โคจรอยู่ในห้วงอวกาศและมีการใช้งานอยู่แล้วจากประเทศสหรัฐอเมริกาให้แก่คณะกรรมการประสานงานดาวเทียมซึ่งมีนายสือ ล้ออุทัย ปลัดกระทรวงไอซีทีเป็นประธานเพื่อพิจารณา
ทั้งนี้คณะกรรมการดังกล่าวจะต้องพิจารณาแนวทางนี้อย่างรอบคอบโดยเฉพาะในแง่เจตนารมณ์ของสัญญาว่าการซื้อดาวเทียมทั้งดวงที่มีการใช้งานอยู่แล้วมาทดแทนดาวเทียมที่หมดอายุแทนการยิงดาวเทียมดวงใหม่จะสามารถดำเนินการได้หรือไม่ แต่หากพิจารณาเปรียบเทียบกับการเช่าช่องสัญญาณบางส่วนของดาวเทียมต่างประเทศเพื่อมาให้บริการลูกค้าดาวเทียมไทยคม 2 ก็จะเห็นว่าแนวทางซื้อดาวเทียมทั้งดวงที่มีการใช้งานอยู่แล้วมาให้บริการ น่าจะเป็นแนวทางที่ดีกว่า รวมทั้งรัฐก็จะได้ประโยชน์จากกรรมสิทธิ์ในดาวเทียมดวงใหม่ด้วยแทนที่จะได้ประโยชน์แค่ส่วนแบ่งรายได้ตามสัญญาสัมปทานเท่านั้น
‘ข้อสรุปในเรื่องนี้รมว.ไอซีทีคงต้องเสนอให้ครม.พิจารณา เพราะเรื่องดาวเทียมสื่อสารเป็นเรื่องความมั่นคงของชาติ และถือเป็นวาระแห่งชาติด้วยซึ่งแนวทางประมูลซื้อดาวเทียมทั้งดวง ถือเป็นแนวทางที่ดีกว่าเสนอให้ไอซีทีแก้ไขสัญญาเพื่อเช่าช่องดาวเทียมบางส่วน ซึ่งไอซีทีไม่สามารถรับได้’
ทั้งนี้หลังจากซื้อดาวเทียมที่ใช้งานอยู่บนห้วงอวกาศแล้ว ไทยคมจะต้องดำเนินการลากจูงดาวเทียมดังกล่าวมาอยู่ในวงโคจรของไทยเพื่อให้บริการแทนดาวเทียมไทยคม 2 และเท่าที่รับทราบเบื้องต้นดาวเทียมดังกล่าวมีประสิทธิภาพในการใช้งานด้านการแพร่ภาพกระจายเสียงหรือบรอดคาสติ้งเป็นอย่างดี
อย่างไรก็ตามการซื้อดาวเทียมที่อยู่บนห้วงอวกาศ มีข้อจำกัดตรงที่ไม่สามารถกำหนด สเปกหรือคุณสมบัติของการใช้งานได้ตรงตามความต้องการของกลุ่มลูกค้าได้ทั้งหมด ดังนั้นการสร้างดาวเทียมขึ้นมาใหม่จึงเป็นแนวทางที่ดีที่สุดสำหรับไอซีทีและยังเห็นว่าไทยคมควรจะสร้างดาวเทียมใหม่ด้วยเพราะในสัญญาระบุไว้ชัดเจนว่าผู้รับสัมปทานต้องสร้างดาวเทียมดวงใหม่ให้เพียงพอต่อการใช้งานของลูกค้าในประเทศ
แหล่งข่าวในวงการโทรคมนาคมกล่าวว่า ไทยคมได้ยื่นหนังสือขอจัดหาดาวเทียมดวงใหม่ทดแทนดาวเทียมไทยคม 2 ด้วยการประมูลซื้อดาวเทียมที่ใช้งานอยู่ในปัจจุบันจากประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นมูลค่าประมาณ 100 ล้านเหรียญ โดยเจ้าของดาวเทียมดังกล่าวต้องการขาย เนื่องจากประสบปัญหาภาวะเศรษฐกิจประกอบกับดาวเทียมดวงดังกล่าวไม่สามารถใช้งานในวงโคจรเดิมได้อย่างมีประสิทธิภาพมากนักเพราะมีปัญหาคลื่นความถี่รบกวนกับดาวเทียมดวงอื่นที่มีวงโคจรทับซ้อนกัน
อย่างไรก็ตามแนวทางการประมูลซื้อดาวเทียมมาทดแทนไทยคม 2 จะเป็นแนวทางที่ไอซีทีสามารถยอมรับได้มากกว่าการแก้สัญญาสัมปทานเพื่อให้ไทยคมสามารถเช่าช่องสัญญาณมาให้บริการเพราะการเช่าช่องสัญญาณทำให้ไอซีทีเสียเปรียบเพราะไม่มีดาวเทียมเป็นสมบัติของชาติ