ASTV ผู้จัดการรายวัน – " บิ๊กพรีบิลท์ " ระบุงานรับเหมาเริ่มมีสัญญาณฟื้นตัว ทั้งภาครัฐและเอกชนไหลเข้าตลาดอย่างต่อเนื่อง ชี้หากปีหน้ายังเป็นเช่นนี้อยู่อาจถึงขั้นต้องเลือกงานเข้าประมูล ล่าสุดรุดประมูลงานโรงแรม โรงงาน และคอนโดมิเนียมเพิ่ม พร้อมคาดไตรมาส4 มีลุ้นคว้าโปรเจกต์ใหญ่ ส่วนทั้งปี 52 ยอมรับรายได้อาจลดลงจากปีก่อนเล็กน้อย แต่ปี53 เชื่อมั่นธุรกิจกลับมาสดใส
นายวิโรจน์ เจริญตรา กรรมการผู้จัดการ บริษัท พรีบิลท์ จำกัด (มหาชน) หรือ PREB เปิดเผยถึงแนวโน้มการดำเนินงานในช่วงปลายไตรมาส 3 และเวลาที่เหลือของปี 2552 ว่า ภาพรวมแล้วธุรกิจรับเหมาก่อสร้างถือว่าปรับตัวดีขึ้นกว่าครึ่งปีแรกที่ผ่านมา เพราะมีงานให้บริษัทเข้าประมูลเพิ่มขึ้น ทั้งงานโรงแรม โรงงาน และคอนโดมิเนียม อย่างต่อเนื่อง ซึ่งการเข้าประมูลงานในช่วงนี้ ทำให้มีความมั่นใจว่าจะส่งผลดีต่อบริษัทได้ในปีหน้า
" ตอนนี้มีงานออกมาให้เข้าประมูลมากขึ้นเรื่อยๆ แม้จะไม่ใช่โครงการขนาดใหญ่แต่ก็มีออกมาเป็นจำนวนมาก จนเราต้องมีการเลือกงานที่จะเข้าไปประมูลบ้างไม่งั้นอาจทำไม่ไหว ทั้งงานภาคเอกชน และภาครัฐโดยที่มีให้เห็นมากขึ้น ก็มาจากโครงการไทยเข็มแข็ง ซึ่งตรงจุดนี้อาจทำให้ปีหน้าธุรกิจรับเหมาขนาดกลางดีขึ้นมาได้ "
สำหรับภาพรวม ทั้งปี 2552 นั้น บริษัทฯมองว่าแม้จะได้รับผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจ แต่บริษัทยังสามารถประครองตัวได้ โดยทุกวันนี้บริษัทไม่มีปัญหาจนถึงขั้นต้องเลย์ออฟพนักงานออกแต่อย่างใด และเชื่อว่าทั้งปีนี้รายได้ของบริษัทจะต่ำกว่าปีที่ผ่านมาซึ่งอยู่ที่ประมาณ 1,900 ล้านบาทเพียงเล็กน้อย
ขณะเดียวกัน เพื่อรองรับกับการเติบโตของธุรกิจในปี 2553 บริษัทจึงใช้จังหวะในปีนี้ที่ธุรกิจชะลอตัวไปดำเนินการพัฒนาความรู้ความสามารถของพนักงานในด้านต่างๆ รวมทั้งพัฒนาระบบการดำเนินงานเช่น ไอที และระบบบริหารจัดการภายในให้มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น และไตรมาส 4/52 บริษัทคาดว่าจะได้รับงานประมูลโครงการโรงแรมมูลค่า 500 ล้านบาท และโรงงานมูลค่า 400 ล้านบาทได้
ส่วนการรับรู้รายได้จากงานมือ (Backlog) ที่เหลืออยู่ประมาณ 2,000 ล้านบาทนั้นส่วนหนึ่งได้รับรู้ไปแล้ว แต่ยังเหลืออีกกว่า 1,000 ล้านบาทที่จะทยอยรับรู้อย่างต่อเนื่อง เช่นงานโรงแรมหรูระดับ 6 ดาวโครงการ "วนาเบลล์"ของบริษัท ที.ซี.ซี.แลนด์ งานก่อสร้างคอนโดมิเนียมโครงการ"เซ็นทริคซีน" สุขุมวิท 64 และรัชวิภา มูลค่า 700-800 ล้านบาทของบมจ.เอสซี แอสเสทคอร์ปอเรชั่น (SC) และงานก่อสร้างคอนโดมิเนียมโครงการอินโทรที่สะพานควาย ของบมจ.รสา พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ (RASA) งานของภูผาธารา จังหวัดระยอง เป็นต้น โดยสัดส่วนรายได้ในปัจจุบันแบ่งเป็น ธุรกิจหลัก 70% และธุรกิจของบริษัทย่อยอีก 30%
ก่อนหน้านี้ พรีบิลท์และบริษัทย่อย มีผลดำเนินงานในไตรมาส 2/52 เป็นกำไรสุทธิ 5.01 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 0.03 บาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 7.27 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 0.04 บาท ขณะที่ไตรมาส1/52 บริษัทมีกำไรสุทธิ 2.76 ล้านบาท ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 7.75 ล้านบาท หรือลดลง 4.99 ล้านบาท หรือคิดเป็น 64.38% ซึ่งยอดรายได้จากการรับเหมาก่อนสร้างในไตรมาสแรกลดลง 43.93 ล้านบาท คิดเป็น 11.64%
นายวิโรจน์ เจริญตรา กรรมการผู้จัดการ บริษัท พรีบิลท์ จำกัด (มหาชน) หรือ PREB เปิดเผยถึงแนวโน้มการดำเนินงานในช่วงปลายไตรมาส 3 และเวลาที่เหลือของปี 2552 ว่า ภาพรวมแล้วธุรกิจรับเหมาก่อสร้างถือว่าปรับตัวดีขึ้นกว่าครึ่งปีแรกที่ผ่านมา เพราะมีงานให้บริษัทเข้าประมูลเพิ่มขึ้น ทั้งงานโรงแรม โรงงาน และคอนโดมิเนียม อย่างต่อเนื่อง ซึ่งการเข้าประมูลงานในช่วงนี้ ทำให้มีความมั่นใจว่าจะส่งผลดีต่อบริษัทได้ในปีหน้า
" ตอนนี้มีงานออกมาให้เข้าประมูลมากขึ้นเรื่อยๆ แม้จะไม่ใช่โครงการขนาดใหญ่แต่ก็มีออกมาเป็นจำนวนมาก จนเราต้องมีการเลือกงานที่จะเข้าไปประมูลบ้างไม่งั้นอาจทำไม่ไหว ทั้งงานภาคเอกชน และภาครัฐโดยที่มีให้เห็นมากขึ้น ก็มาจากโครงการไทยเข็มแข็ง ซึ่งตรงจุดนี้อาจทำให้ปีหน้าธุรกิจรับเหมาขนาดกลางดีขึ้นมาได้ "
สำหรับภาพรวม ทั้งปี 2552 นั้น บริษัทฯมองว่าแม้จะได้รับผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจ แต่บริษัทยังสามารถประครองตัวได้ โดยทุกวันนี้บริษัทไม่มีปัญหาจนถึงขั้นต้องเลย์ออฟพนักงานออกแต่อย่างใด และเชื่อว่าทั้งปีนี้รายได้ของบริษัทจะต่ำกว่าปีที่ผ่านมาซึ่งอยู่ที่ประมาณ 1,900 ล้านบาทเพียงเล็กน้อย
ขณะเดียวกัน เพื่อรองรับกับการเติบโตของธุรกิจในปี 2553 บริษัทจึงใช้จังหวะในปีนี้ที่ธุรกิจชะลอตัวไปดำเนินการพัฒนาความรู้ความสามารถของพนักงานในด้านต่างๆ รวมทั้งพัฒนาระบบการดำเนินงานเช่น ไอที และระบบบริหารจัดการภายในให้มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น และไตรมาส 4/52 บริษัทคาดว่าจะได้รับงานประมูลโครงการโรงแรมมูลค่า 500 ล้านบาท และโรงงานมูลค่า 400 ล้านบาทได้
ส่วนการรับรู้รายได้จากงานมือ (Backlog) ที่เหลืออยู่ประมาณ 2,000 ล้านบาทนั้นส่วนหนึ่งได้รับรู้ไปแล้ว แต่ยังเหลืออีกกว่า 1,000 ล้านบาทที่จะทยอยรับรู้อย่างต่อเนื่อง เช่นงานโรงแรมหรูระดับ 6 ดาวโครงการ "วนาเบลล์"ของบริษัท ที.ซี.ซี.แลนด์ งานก่อสร้างคอนโดมิเนียมโครงการ"เซ็นทริคซีน" สุขุมวิท 64 และรัชวิภา มูลค่า 700-800 ล้านบาทของบมจ.เอสซี แอสเสทคอร์ปอเรชั่น (SC) และงานก่อสร้างคอนโดมิเนียมโครงการอินโทรที่สะพานควาย ของบมจ.รสา พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ (RASA) งานของภูผาธารา จังหวัดระยอง เป็นต้น โดยสัดส่วนรายได้ในปัจจุบันแบ่งเป็น ธุรกิจหลัก 70% และธุรกิจของบริษัทย่อยอีก 30%
ก่อนหน้านี้ พรีบิลท์และบริษัทย่อย มีผลดำเนินงานในไตรมาส 2/52 เป็นกำไรสุทธิ 5.01 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 0.03 บาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 7.27 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 0.04 บาท ขณะที่ไตรมาส1/52 บริษัทมีกำไรสุทธิ 2.76 ล้านบาท ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 7.75 ล้านบาท หรือลดลง 4.99 ล้านบาท หรือคิดเป็น 64.38% ซึ่งยอดรายได้จากการรับเหมาก่อนสร้างในไตรมาสแรกลดลง 43.93 ล้านบาท คิดเป็น 11.64%
