xs
xsm
sm
md
lg

เขมรส่งกำลังขู่ลุยคนไทย ทหารขนรั้วลวดหนามสกัด พธม.พิลึกกีดกันพลังทวงคืนเขาวิหาร

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ศูนย์ข่าวภาคอีสาน- "เขมร" เหิมส่งกำลังทหารพร้อมแก๊สน้ำตาตรึงเข้มชายแดนพระวิหาร ขู่ไม่เชื่อฟังลุยแน่ ด้านทหารไทยวางรั้วลวดหนาม พร้อมตั้งจุดตรวจเข้มเตรียมรับมือทัพ ประชาชน-พันธมิตรฯบุกทวงคืนแผ่นดินไทย 19 ก.ย.นี้ พร้อมเข้ากดดันกลุ่ม "การ์ด พธม." ให้ออกจากที่ตั้งอาคารศูนย์ประสานงานอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหารจุดพักรวมพล ขณะที่ ตร.ศรีสะเกษระดมตั้งด่านตรวจเข้มตลอดเส้นทางกันทรลักษ์มุ่งสู่อุทยานฯชายแดนไทย-กัมพูชา "แม่ทัพน้อยที่ 2" รุดถกผู้ว่าฯศรีสะเกษซักซ้อมมาตรการรับมือ "เลขาฯกษิต" พูดไม่สวยเตือนกลุ่มผู้ชุมนุมให้ระวัง "ระเบิด"

วานนี้ (17 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณด้านหน้าด่านเก็บค่าธรรมเนียมอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ทหารไทยที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ได้เริ่มวางจุดตรวจ พร้อมนำรั้วลวดหนามหีบเพลงมาวางโดยรอบบริเวณทางขึ้นอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร เพื่อเตรียมสกัดกั้นกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) และประชาชนทั่วประเทศ ที่จะเดินทางมาชุมนุมเรียกร้องทวงคืนแผ่นดินไทยเขาพระวิหารพื้นที่ 4.6 ตารางกิโลเมตร (ตร.กม.) ในวันที่ 19 ก.ย.นี้

นอกจากนั้นทหารไทยยังได้จัดเวรยามประจำจุดตรวจเฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง และตามเส้นทางระหว่าง อ.น้ำขุ่นกับ อ.กันทรลักษ์ ก็ได้มีการตั้งจุดตรวจเพิ่มขึ้นอีก 2 จุด จากเดิมที่มีอยู่เพียงจุดตรวจของทหารพรานที่ตั้งไว้นานแล้ว

ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ตามแยกสำคัญ ๆ เช่น สี่แยกบ้านจาน ถนนทางหลวงหมายเลข 24 สามแยกบ้านหนองงูเหลือม ถนนสายกันทรลักษ์-อุบลราชธานี ได้มีการนำป้ายข้อความขนาดใหญ่มาติดตั้งไว้เช่นกัน ซึ่งเป็นป้ายข้อความไม่เห็นด้วยในการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ และประชาชนทั่วประเทศ ที่จะเดินทางมาทวงคืนเขาพระวิหารในวันที่ 19 ก.ย.นี้โดยอ้างความสงบ สันติในพื้นที่ชายแดนเขาพระวิหาร

"เด็กยี้ห้อย"ขึ้นป้ายค้านพันธมิตรฯ

ทั้งนี้ การขึ้นป้ายต่อต้านการชุมนุมทวงคืนแผ่นดินไทยเขาพระวิหาร ดังกล่าวเป็นไปตามกระแสข่าวที่ออกมาก่อนหน้าว่า นายระพี ผ่องบุพกิจ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ได้เรียกประชุมส่งสัญญาณให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ออกมาคัดค้านไม่เห็นกับการชุมนุมดังกล่าวของพันธมิตรฯ ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่า นายระพี ผ่องบุพกิจ มีความสัมพันธ์แนบแน่นกับกลุ่มนักการเมืองพรรคภูมิใจไทยของนายเนวิน ชิดชอบ เป็นอย่างมาก และเพิ่งได้รับการเลื่อนชั้นพุ่งพรวดจากรองผู้ว่าราชการจังหวัดอุทัยธานี มาดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ เมื่อวันที่ 18 พ.ค.ที่ผ่านมาแทนนายเสนีย์ จิตตเกษม ที่ถูกย้ายไปเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี

ขณะที่กลุ่มการ์ดพันธมิตรฯ ส่วนหนึ่งที่ได้เดินทางมาล่วงหน้านั้น ได้ปักหลักพักค้างคืนอยู่ที่บริเวณภายในอาคารชั้นเดียวของอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร ซึ่งการ์ดพันธมิตรฯ ได้คุมเข้มด้านความปลอดภัยเป็นอย่างมาก

ตำรวจศรีสะเกษตั้งด่านตรวจเข้ม

ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศทั่วไปที่บริเวณทางขึ้นอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษด้วยว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจศรีสะเกษได้ทำการตั้งด่านตรวจอย่างเข้มงวดเพื่อเตรียมการสกัดกั้นกลุ่มผู้ชุมนุมที่จะเดินทางมาชุมนุมทวงคืนเขาพระวิหาร

โดยด่านตรวจดังกล่าวเริ่มจากสี่แยกการช่าง ก่อนถึง อ.กันทรลักษ์ ประมาณ 5 กิโลเมตร ด่านที่ 2 ตั้งอยู่บริเวณหน้าค่ายสิงห์ดำกองบังคับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 224 ด่านที่ 3 อยู่บริเวณหน้า สภ.บึงมะลู และด่านสุดท้ายที่อยู่ในพื้นที่รับผิดชอบของตำรวจ คือ บริเวณหน้าวัดภูมิซรอล ก่อนถึงอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหารประมาณ 10 กิโลเมตร ซึ่งจะเป็นจุดที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะอนุญาตให้ทางกลุ่มผู้ชุมนุมสามารถเคลื่อนเข้าไปได้

งัดแผนกรกฏ 52 สกัดพลัง ปชช.

พล.ต.ต.สมพงษ์ ทองวีระประเสริฐ ผบก.ภ.จว.ศรีสะเกษ เปิดเผยถึงแผนรับมือกับกลุ่มผู้ชุมนุมว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้มีคำสั่งลงมาให้ปฏิบัติการตามแผน กรกฏ 52 ซึ่งได้มีการปรับปรุงแก้ไขจากการปฏิบัติการที่ผ่านมาเพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์และพื้นที่ โดยทางตำรวจได้เตรียมกำลังตำรวจในพื้นที่ที่มีอยู่และมีตำรวจชุดกองร้อยควบคุมฝูงชนจาก ตชด.1 กองร้อย ตำรวจในพื้นที่ศรีสะเกษ 1 กองร้อย ตำรวจจากจังหวัดอุบลฯอีก 1 กองร้อย รวมทั้งได้มีการเตรียมการในขอรับการสนับสนุนจากตำรวจในพื้นที่ใกล้เคียงที่สามารถเดินทางมาถึงได้ภายในไม่เกิน 4 ชั่วโมงในกรณีที่เกิดเหตุการณ์ที่เกินขีดความสามารถในการรับมือของตำรวจชุดควบคุมฝูงชนชุดที่ปฏิบัติการอยู่เป็นหลักทั้ง 3 กองร้อย

พล.ต.ต.สมพงษ์ กล่าวว่า อุทยานแห่งชาติเขาพระวิหารได้รับคำสั่งให้ปิดทำการชั่วคราวตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ปะทะกันของทหารไทยกับกัมพูชา ซึ่งหมายถึงไม่สามารถอนุญาตให้ประชาชนหรือนักท่องเที่ยวขึ้นไปได้ จึงอยากให้ทางกลุ่มผู้ชุมนุมได้เข้าใจในส่วนนี้ด้วย ดังนั้น ตำรวจจะอนุญาตให้ทางกลุ่มผู้ชุมนุมสามารถเดินทางขึ้นมาได้สูงสุดเพียงแค่บริเวณด่านหน้าวัดภูมิซรอล

ทหารเผชิญหน้าการ์ดพันธมิตรฯ

ที่บริเวณอาคารศูนย์ประสานงานอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ ที่กลุ่มการ์ดพันธมิตรฯประมาณ 20 คนได้เข้าไปปักหลักอาศัยอยู่เพื่อรอประชาชนจากทั่วประเทศที่จะเดินทางชุมนุมทวงคืนแผ่นดินไทยเขาพระวิหารในวันที่ 19 ก.ย.นั้น ล่าสุดฝ่ายทหารได้เข้าไปเจรจาขอให้ออกจากอาคารดังกล่าวโดยอ้างว่าเป็นสถานที่ราชการ

แต่ทางกลุ่มการ์ดพันธมิตรฯได้ปฏิเสธพร้อมให้เหตุผลว่า อาคารแห่งนี้สร้างด้วยเงินภาษีอากรของประชาชน ทุกคนย่อมมีสิทธิ์ที่จะเข้าไปใช้บริการอยู่อาศัยได้ และหากจะให้ออกไปจากบริเวณนี้ต้องให้หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหารเป็นผู้มาเจรจาตกลง อย่างไรก็ตาม ต่อมาทางเจ้าหน้าที่อุทยานฯ แจ้งให้ฝ่ายทหารเป็นผู้เข้าไปแจ้งให้กลุ่มการ์ดพันธมิตรฯ ออกจากสถานที่ดังกล่าวเอง ซึ่งกลุ่มการ์ดพันธมิตรฯ ก็ยังยืนยันที่จะอยู่ในบริเวณดังกล่าวไป

"มทน.2"ถกผู้ว่าฯศรีสะเกษรับมือ

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า วันเดียวกัน (17 ก.ย.) เวลาประมาณ 10.00 น. พล.ท.วีร์วลิต จรสัมฤทธิ์ แม่ทัพน้อยที่ 2 ซึ่งจะขึ้นดำรงค์ตำแหน่งแม่ทัพภาคที่ 2 อย่างเป็นทางการ 1 ต.ค.นี้ และคณะนายทหารระดับสูงของกองทัพภาคที่ 2 ได้เดินทางโดยเฮลิคอปเตอร์ไปที่หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 23 อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ และได้ประชุมร่วมกับนายระพี ผ่องบุพกิจ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ และคณะ เพื่อซักซ้อมมาตรการรักษาความสงบเรียบร้อยในวันที่ 19 ก.ย.นี้ กรณีประชาชนกลุ่มพันธมิตรฯจะเดินทางมาชุมนุมเพื่อทวงคืนเขาพระวิหาร และผลักดันชาวกัมพูชาให้ออกไปจากบริเวณพื้นที่ 4.6 ตารางกิโลเมตร โดยการประชุมดังกล่าวไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าไปทำข่าวแต่อย่างใด

"ภูมิซรอล"ตรึงเครียด ตร.ตรึงกำลัง

นายบุญรวม พงษาปาน ผู้อำนวยการโรงเรียนภูมิซรอล ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า ขณะนี้ทาง จ.ศรีสะเกษ ได้เรียกประชุมข้าราชการในพื้นที่ อ.กันทรลักษ์ เพื่อเตรียมการสกัดกั้นประชาชนที่จะเดินทางมาทวงคืนเขาพระวิหาร ซึ่งการสะกัดกั้นในครั้งนี้หากไม่มีกลุ่มคนเสื้อแดงเข้ามาก็เชื่อว่าไม่น่าจะเกิดเหตุการณ์รุนแรงเหมือนเมื่อวันที่ 17 ก.ค.ที่ผ่านมา

ขณะนี้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปราบจลาจลจาก จ.ร้อยเอ็ด กว่า 2 กองร้อยเข้ามาขอพักแรมในโรงเรียน ส่วนสภาพพื้นที่ตั้งแต่หน้าโรงเรียนภูมิซรอล ไปจนถึงหน้าวัดบ้านภูมิซรอล ระยะทางประมาณ 300 เมตร ตำรวจได้นำเต็นท์มาตั้งขวางถนนจำนวนกว่า 20 เต็นท์

นายเจริญ หมู่ขจรพันธ์ ประธานโครงการรวมใจคนไทยทวงคืนเขาพระวิหาร 19 จังหวัดภาคอีสาน กล่าวว่า ขณะนี้ตนทราบว่าในพื้นที่ อ.กันทรลักษ์ โดยเฉพาะพื้นที่บริเวณเส้นทางก่อนถึงอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร มีการเตรียมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจไว้จำนวนมาก ซึ่งถือว่าสถานการณ์ขณะนี้ถือว่าตรึงเครียดมาก

มทภ.2วอนพธม.ชุมนุมในที่กำหนด

ขณะที่ พล.ท.วิบูลย์ศักดิ์ หนีพาล แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวว่า ได้ให้แนวทางเจ้าหน้าที่ปฏิบัติว่า ต้องไม่ให้มีการปะทะกัน และประชาชนต้องได้รับความปลอดภัย แต่อยากขอความร่วมมือผู้ที่จะมาชุมนุม จะทำอะไรขอให้อยู่ในกรอบกฎหมาย และอยู่ในความปลอดภัย

ส่วนกรณีสื่อต่างประเทศเสนอข่าวว่า กองกำลังทหารพรานของไทย ทำร้ายวัยรุ่นชาวกัมพูชาที่บริเวณแนวพรมแดนไทย- กัมพูชานั้น ได้ตรวจสอบทุกหน่วยในพื้นที่แล้ว ไม่พบว่ามีเหตุการณ์ตามที่มีข่าวและไม่ทราบว่าเหตุใดกัมพูชาจึงเสนอข่าวเช่นนั้น

คนอุบลฯร่วมทวงคืน"พระวิหาร"

ด้านกลุ่มเครือข่ายไทอุบลฯคนรักชาติ ประกอบด้วยนักเรียน และประชาชนประมาณ 100 คนได้รวมตัวกันที่ศาลเจ้าพ่อหลักเมืองเพื่อสักการะสิ่งศักดิ์ช่วยปกป้องบ้านเมือง พร้อมจัดขบวนเดินรณรงค์แจกใบปลิวเชิญชวนชาวอุบลราชธานี ร่วมทวงคืนแผ่นดิน 4.6 ตารางกิโลเมตร รอบปราสาทเขาพระวิหาร อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ เช่นกัน

ผศ.ดร.ทวีศักดิ์ วังไพศาล ผู้ประสานงานเครือข่ายไทยอุบลฯคนรักชาติ กล่าวว่า ปัจจุบันมีกองกำลังติดอาวุธและประชาชนชาวกัมพูชายึดครองปลูกสิ่งปลูกสร้างเป็นโรงเรือนพักอาศัยถาวร ทำให้ดินแดนถูกรุกล้ำยึดครองอธิปไตยอย่างเปิดเผย แต่รัฐบาลไม่เคยแสดงความชัดเจนติดตามเอาพื้นที่คืนมาให้ประชาชนชาวไทยทราบ ดังนั้นสมาชิกเครือข่ายไทอุบลฯคนรักชาติ 300-500 คน จะเคลื่อนขบวนมุ่งหน้าไปที่อุทยานปราสาทพระวิหาร เพื่อรวมกับพี่น้องที่เดินทางมาจากทุกจังหวัดแสดงพลังในเวลาเดียวกัน

พธม.16จังหวัดใต้-ภูเก็ตเคลื่อนทัพ

สำหรับความเคลื่อนไหวของกลุ่มพันธมิตรฯนั้น กลุ่มพันธมิตร 16 จังหวัดภาคใต้ รวมทั้ง จ.ประจวบคีรีขันธ์ และเพชรบุรี พร้อมด้วยประชาชนผู้รักชาติจะเคลื่อนขบวนออกจากจุดที่รวมตัวอุทยานแห่งชาติเขาพาง หรือซุ้มประตูภาคใต้บริเวณถนนเพชรเกษม ต.ท่าข้าม อ.ท่าแซะ จ.ชุมพรเพื่อไปสมทบกับผู้รักชาติ ขณะที่ พันธมิตรฯภูเก็ต ได้ขึ้นรถตู้เดินทางไปยังอุทยานแห่งชาติเขาพาง ในการทวงคืนปราสาทพระวิหารเช่นกัน

เลขาฯกษิตเตือนระวังระเบิดกู้ไม่หมด

นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต เลขานุการ รมว.ต่างประเทศ กล่าววานนี้ (17ก.ย.) ว่า ตามที่นายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ เดินทางไปตรวจเยี่ยมพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา บริเวณอุทยานแห่งชาติปราสาทเขาพระวิหาร จ.ศรีสะเกษ เพื่อเยี่ยมกองกำลังพลในพื้นที่รับทราบข้อมูลและข้อเท็จจริงเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนบริเวณ ใกล้เคียงปราสาทเขาพระวิหาร เมื่อวันที่ 13 ก.ย.ที่ผ่านมานั้น ทั้ง 2 ฝ่ายมีความเห็นตรงกันที่จะใช้วิธีการเจรจาโดยสันติ เป็นแนวทางการแก้ไขปัญหา และจากการที่ได้มีการสำรวจการจัดทำหลักเขตแดนระหว่างไทย-กัมพูชานั้นขณะนี้อยู่ระหว่างการเริ่มสำรวจของคณะกรรมาธิการไทย-กัมพูชา โดยจะมีการนำผลการประชุมทั้ง 3 ครั้งที่ผ่านมาเข้าสู่การพิจารณาในที่ประชุมรัฐสภา เพื่อให้การรับรอง

ส่วนกรณีที่กลุ่มพันธมิตรฯจะเดินทาง เข้าไปในพื้นที่บริเวณอุทยานแห่งชาติปราสาทเขาพระวิหารนั้น นายชวนนท์ กล่าวว่า เรื่องนี้รัฐบาลกำลังดำเนินการแก้ไขปัญหาอย่างเต็มที่ โดยจะต้องเข้าไปทำความเข้าใจ และชี้แจงข้อเท็จจริง ขอให้ประชาชนมั่นใจว่า รัฐบาลกำลังดำเนินการ เพื่อปกปักรักษาธิปไตย โดยวิธีการที่เหมาะสมที่สุด ไม่มีเรื่องหนึ่งเรื่องใดทับซ้อนหรือแอบแฝง โดยพร้อมชี้แจงกับประชาชน พร้อมกันนี้ได้เตือนประชาชนที่จะเดินทางไปพื้นที่ดังกล่าว ควรเพิ่มความระมัดระวัง เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวอาจจะยังมีกับระเบิดที่ยังกู้ไม่หมดได้ เพราะอาจจะได้รับอันตรายหรืออุบัติเหตุได้

เขมรส่งกำลังตรึงเข้มชายพระวิหาร

สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานวานนี้ (17 ก.ย.) โดยอ้างถ้อยแถลงของ พล.ท.ชุม สุชาติ โฆษกกระทรวงกลาโหมกัมพูชาที่ว่า ทางกระทรวงกลาโหมได้ส่งตำรวจปราบจลาจลอย่างน้อย 50 นาย พร้อมสุนัข กระบอง และแก็สน้ำตา ไปประจำการที่วัดพระวิหาร โบราณสถานสมัยศตวรรษที่ 11 บริเวณพื้นที่ขัดแย้งใกล้ชายแดนไทย เพื่อเตรียมรับมือกับกลุ่มคนเสื้อเหลืองหรือแนวร่วมพันธมิตรเพื่อประชาธิปไตยของไทย

"ขณะนี้ตำรวจปราบจลาจลของเราได้อยู่ประจำที่เขาพระวิหารแล้ว เพื่อป้องกันในกรณีที่ผู้ประท้วงชาวไทยข้ามแดนอย่างผิดกฎหมายเข้ามา ซึ่งเราได้สั่งการให้ตำรวจป้องกันการรุกล้ำเท่านั้น ไม่ต้องการให้เกิดเหตุนองเลือดแต่อย่างใด แต่หากผู้ประท้วงขัดขืนไม่ฟัง ทางกัมพูชาก็จะใช้มาตรการต่างๆในการป้องกันตัวเอง" โฆษกกระทรวงกลาโหมกัมพูชากล่าว

ทหารกล้าแฉ"เขมร"รุกเขาวิหาร

วันเดียวกันที่ห้องประชุมรัตนบุรี โรงแรมทองธารินทร์ อ.เมือง จ.สุรินทร์ พล.ท.นิพัทธ์ ทองเล็ก เจ้ากรมกิจการชายแดนทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย ร่วมกับกองกำลังสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 ได้จัดสัมมนา กรณีพิพาทชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านเขาพระวิหาร เรื่อง "สร้างสรรค์-เข้าใจ:ไทย-กัมพูชา" โดยมีนักวิชาการ จากคณะรัฐศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, เจ้าหน้าที่กรมแผนที่ทหาร, กระทรวงการต่างประเทศ และทหาร ตำรวจตระเวนชายแดน ที่ปฏิบัติงานในบริเวณพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ร่วมเป็นวิทยากรบรรยายบนเวที

โดยมีเจ้าหน้าที่ทหารปฏิบัติงานในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ด้าน จ.สุรินทร์ และศรีสะเกษ ตลอดจนผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องรวมทั้งสื่อมวลชนทั้ง 2 จังหวัดเข้าร่วมประชุมสัมมนาด้วย โดยเนื้อหาการประชุมได้เน้นชี้แจงข้อมูลกรณีพิพาทพื้นที่ชายแดนด้านเขาพระวิหาร อ.กันทรลักษ์ โดยเฉพาะบริเวณพื้นที่พิพาทรอบตัวปราสาทพระวิหาร

ทั้งนี้ ในการสัมมนาได้มีนายทหารยศ "พ.อ." สังกัดหน่วยข่าวกรอง กองทัพบก รายหนึ่งเสนอต่อที่ประชุมว่า ประเทศไทยควรเร่งสำรวจปักปันเขตแดนเพราะหวั่นเกรงว่าปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชายิ่งปล่อยให้เนิ่นนานประเทศไทยยิ่งจะเสียเปรียบ และหากจำเป็นต้องใช้กำลังทหารเข้าผลักดันก็ต้องทำเพื่อความมั่นคงของประเทศ รวมทั้งไทยควรเร่งสร้างพื้นที่กันชนชายแดนไทย-กัมพูชา ให้มีความมั่นคงมากขึ้นและหาหน่วยงานมารับผิดชอบในการดูแลพื้นที่แนวกันชนให้เป็นระบบมากขึ้น เพราะขณะนี้ส่อเค้าปัญหาจะลุกลามไปยังพื้นที่ชายแดนทั้งด้าน เกาะ และทางทะเลด้วย
กำลังโหลดความคิดเห็น