ASTVผู้จัดการรายวัน/ศูนย์ข่าวขอนแก่น/ศรีสะเกษ - “วีระ” ยื่น ปปช. ฟันอาญา บิ๊กทหาร-ครม. ตั้งแต่ปี 2541 เหตุปล่อยกัมพูชารุกรานอธิปไตย พื้นที่ 4.6 ตร.กม. ด้านแนวร่วมพันธมิตรฯ ขอนแก่น นัดหมายเคลื่อนพลสมทบ ทวงคืนพื้นที่พิพาท 18 ก.ย. ขณะที่ผช.ผบ.ตร.รุดลงพื้นที่ประชุมเข้ม ตร.ศรีสะเกษ รับมือทัพประชาชนและเครือข่ายพันธมิตรฯ ทั่วประเทศ
นายวีระ สมความคิด ประธานกลุ่มพิทักษ์สิทธิเสรีภาพของประชาชน และคณะ เดินทางมายังสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อยื่นหนังสือ “ขอให้ไต่สวนและลงโทษตามกฎหมายกับเจ้าพนักงานที่ปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ หรือโดยทุจริตทำให้รัฐได้รับความเสียหาย กรณีไม่ผลักดัน และยินยอมให้กองกำลังต่างชาติชาวกัมพูชา เข้ามารุกราน และยึดแผ่นดินไทยบริเวณรอบปราสาทพระวิหาร กินเนื้อที่เกือบสามพันไร่ ทั้งนี้ได้ยืนเอกสารเป็นสำเนา แผ่นดีวีดี บันทึกภาพและเสียง 11 ชิ้น ให้กับ ป.ป.ช.
ทั้งนี้ หนังสือที่นายวีระ ยื่น ให้ ป.ป.ช.ทำการไต่สวน และลงโทษตามกฎหมายกับผู้กระทำความผิดทุกคน ทั้งทหาร และคณะรัฐมนตรี ตั้งแต่ปี พ.ศ.2541 เป็นต้นมา จนถึงปัจจุบัน โดยรัฐบาลที่มีส่วนรับผิดชอบในการกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157
เริ่มตั้งแต่รัฐบาลของ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ในปี 2541 ตลอดจนมาถึงรัฐบาลของ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ในปัจจุบัน เพราะกองกำลังและชาวกัมพูชา ได้เร่งก่อสร้างบ้านเรือนเพิ่มมากขึ้นเป็นจำนวนมากในช่วงรัฐบาลของพล.อ.สุรยุทธิ์ จุลานนท์ จนถึงรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ รวมไปถึงแม่ทัพภาคที่ 2 ผู้บัญชาการทหารบกในช่วงปี 2541 เป็นต้นมาด้วยก็เข้าข่ายกระทำความผิด
รวมไปถึงเป็นการกระทำใด ๆ เพื่อให้ราชอาณาจักรหรือส่วนหนึ่งส่วนใดของราชอาณาจักร ตกไปภายใต้อำนาจอธิปไตยของรัฐต่างประเทศหรือเพื่อให้เอกราชของรัฐเสื่อเสียไปตามาตรา 119 และ129 ด้วยเช่นกัน
เนื่องจากที่ผ่านมา พื้นที่ 4.6 ตารางกิโลเมตร รอบตัวปราสาทยังคงเป็นของไทย เพราะตัวปราสาท ศาลโลกตัดสินให้เป็นของกัมพูชา แต่เมื่อวันที่ 1 ส.ค. 41 กองทัพบก โดยกองกำลังสุรนารี ทดลองเปิดเขาพระวิหาร เพื่อขึ้นชมและศึกษาโบราณสถาน ในครั้งนั้นมีข้อมูลว่า มีทหารไทย ยศ พันเอกของกองกำลังสุรนารี ขณะนั้น ร่วมมือกับนักการเมืองท้องถิ่นที่เป็นนักธุรกิจของ อ.กันทรลักษ์ ทำการก่อสร้างห้องแถวขึ้นที่บริเวณเชิงบันไดนาคราช ซึ่งเป็นทางขึ้นปราสาทเขาพระวิหาร และเปิดให้ชาวไทยและชาวกัมพูชามาเซ้งและเช่าดังกล่าวเพื่อทำการค้าในราคาห้องละประมาณ 5 หมื่นบาท และมีชาวกัมพูชาเข้ามาเซ้งเพื่อทำการค้ากับนักท่องเที่ยวจำนวนมาก
"จึงเป็นที่มาของการที่มีกองกำลังติดอาวุธชาวกัมพูชา และชาวกัมพูชารุกล้ำดินแดนไทยเข้ามาก่อสร้างบ้านเรือน ร้านค้าบริเวณบันไดนาคราช และในพื้นที่ 4.6 ตารางกิโลเมตร มีการก่อสร้างวัดแก้วสิกขาคีรีถวาย และก่อสร้างถนนจากบ้านโกมุย ทำบันได และกระเช้าเพื่อขนคนและอาวุธยุทโธปกรณ์จำนวนมากขึ้นมาบนภูมะเขือซึ่งเป็นแผ่นดินไทย และยังปักธงชาติกัมพูชา" นายวีระ กล่าว
***
วันนี้ (16 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แนวร่วมพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจังหวัดขอนแก่น เตรียมพร้อมระดมพลกองทัพประชาชนพร้อมเสบียง พร้อมเดินทางร่วมทวงคืนพื้นที่พิพาท 4.6 ตร.กม.ของไทยกลับคืนสู่แผ่นดินแม่
ด้านแนวร่วมพันธมิตรฯ ขอนแก่น ซึ่งได้ร่วมใจแสดงพลังหน้าอนุสาวรีย์จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 13 กันยายนที่ผ่านมา เพื่อประกาศเจตนารมณ์พร้อมกับพันธมิตรฯ จากทั่วภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่จะร่วมต่อสู้ทวงดินแดนไทย หลังจากเมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2552 ที่ผ่านมา คณะของนายวีระ สมความคิด พร้อมทีมข่าว ASTV NEWS1 ได้เดินทางไปพิสูจน์พื้นที่พิพาทแล้วปรากฏชัดเจนว่าไทยถูกรุกล้ำพื้นที่โดยมีการสร้างบ้านเรือนของชาวกัมพูชา
ทำให้คนไทยผู้รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ไม่สามารถทนได้ ทั้งที่ต่างเฝ้ารอดูท่าทีของรัฐบาลมาตั้งแต่วันที่ภาพของคณะพิสูจน์ดินแดนไทยที่ASTV NEWS1 นำเสนอไป แต่รัฐบาลยังไม่มีท่าทีจะผลัดกันชาวกัมพูชาออกจากดินแดนของชาติไทย ดังนั้นคนไทยจึงพร้อมใจที่จะทำหน้าที่ปกป้องรักษาอธิปไตยของชาติ
สำหรับขบวนกองทัพประชาชนชาวขอนแก่นได้นัดหมายเคลื่อนขบวนในคืนวันที่ 18 กันยายนนี้ โดยมีพ่อยกแม่ยกพันธมิตรฯ พร้อมประชาชนผู้รักชาติ ได้ร่วมใจกันบริจาคเพื่อเป็นทุนค่าใช้จ่ายในการเดินทางแล้วส่วนหนึ่ง
โดยผู้ประสงค์จะบริจาคสมทบค่าเดินทาง และต้องการเดินทางไปร่วมทวงดินแดนไทยพร้อมกัน สามารถแจ้งชื่อได้ที่สำนักงานศูนย์ข่าว ASTV NEWS1 และหนังสือพิมพ์ ASTV ผู้จัดการ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เลขที่ 1/31 ถนนราษฎร์คนึง สามแยกบ้านดอนเลี้ยวขวา ก่อนถึงโรงเรียนเทศบาลโนนชัย อ.เมือง จ.ขอนแก่น ภายในเวลา 13.00 น. วันศุกร์ที่ 18 ก.ย.นี้
ขณะที่บรรยากาศที่อุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร จังหวัดศรีสะเกษ ขณะนี้การ์ดพันธมิตรฯ รวมทั้งนักรบศรีวิชัย ได้กระจายคอยดูแลความปลอดภัยอย่างเต็มที่ ซึ่งขบวนพี่น้องพันธมิตรฯ จากจังหวัดต่างๆ เริ่มทยอยเดินทางไปถึงที่อุทยานฯ แล้ว
โดยทางแนวร่วมพันธมิตรฯ จังหวัดศรีสะเกษได้แจ้งว่า ขณะนี้มีผู้บริจาคน้ำดื่มแล้ว 1,400 โหล แต่ยังต้องการรับบริจาคเพิ่ม รวมทั้งข้าวสาร และหม้อหุงข้าว เพื่อให้เพียงพอต่อการบริการอาหารและน้ำดื่มให้กับพี่น้องประชาชนคนไทยผู้รักชาติ เนื่องจากคาดว่าจะมีมวลชนพันธมิตรฯ ผู้รักชาติเดินทางมาสมทบอีกหลายหมื่นคน โดยสามารถติดต่อบริจาคได้ที่คุณจุ๋ม โทร.08-6873-0451
***
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ห้องประชุมกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดศรีสะเกษ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ พล.ต.ท.สถาพร หลาวทอง ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผช.ผบ.ตร.) และคณะ ได้เดินทางมามอบนโยบายให้กับนายตำรวจระดับผู้กำกับการ (ผกก.) และสารวัตรใหญ่ สถานีตำรวจภูธรทุกแห่งของ จ.ศรีสะเกษ เกี่ยวกับการรักษาความสงบเรียบร้อยกรณีประชาชนและกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) จากทั่วประเทศจะเดินทางมาชุมนุมทวงคืนแผ่นดินไทยเขาพระวิหาร ที่อุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ 19 ก.ย.นี้
โดยมี ผกก.และสารวัตรใหญ่ จากทุกสถานีตำรวจในพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ มาร่วมประชุมและรับมอบนโยบายในการปฏิบัติงานครั้งนี้
พล.ต.ท.สถาพร หลาวทอง ผช.ผบ.ตร.กล่าวว่า ในวันที่ 19 ก.ย.นี้ จะมีกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เดินทางมาชุมนุมที่บริเวณอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร ทั้งนี้เพื่อผลักดันชาวกัมพูชาให้ออกไปจากเขาพระวิหาร บริเวณพื้นที่ 4.6 ตร.กม.ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ยังไม่มีการปักปันเขตแดน จึงได้สนธิกำลังระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจในเขตตำรวจภูธรภาค 3 ร่วมกับทหารและเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง เพื่อจัดกำลังเข้าไปดูแลความสงบเรียบร้อยในครั้งนี้ โดยจะเน้นไม่ให้มีการกระทบกระทั่งกับระหว่างมวลชนในพื้นที่และระหว่างกลุ่มพันธมิตรฯ กับชาวกัมพูชาที่บริเวณเขาพระวิหาร เพราะเกรงจะเป็นการกระทบกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศขึ้นมาได้
ทั้งนี้ ตำรวจจะตั้งจุดตรวจ เพื่อตรวจค้นและดูแลการกระทำผิดกฎหมายอย่างเข้มงวด รวมทั้งการตรวจค้นอาวุธและสิ่งของผิดกฎหมายทุกอย่าง เพื่อไม่ให้มีการกระทำผิดกฎหมายเกิดขึ้นในการชุมนุมในครั้งนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ในวันเดียวกันนี้ ปรากฏว่า ได้มีกลุ่มพันธมิตรฯ จากหลายจังหวัดทั่วประเทศพากันทยอยมาพักรวมกันที่ศีรษะอโศก ซึ่งอยู่ใกล้กับ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ เพื่อรอสมทบกับประชาชนทั่วประเทศ ที่จะขึ้นไปชุมนุมบนอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหารวันที่ 19 ก.ย.นี้ เพื่อแสดงพลังผลักดันชาวกัมพูชา ให้ออกไปจากพื้นที่ 4.6 ตร.กม.บริเวณเขาพระวิหารชายแดนไทย-กัมพูชา ต่อไป
**แกนนำแดงถ่อยศรีสะเกษไร้สำนึก
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ในวันเดียวกันนี้ปรากฏว่า ได้มีกลุ่มพันธมิตรฯ จากหลายจังหวัดทั่วประเทศพากันทยอยมาพักรวมกันที่ศีรษะอโศก ซึ่งอยู่ใกล้กับ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ เพื่อรอสมทบกับประชาชนทั่วประเทศ ที่จะขึ้นไปชุมนุมบนอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหารวันที่ 19 ก.ย.นี้ เพื่อแสดงพลังผลักดันชาวกัมพูชา ให้ออกไปจากพื้นที่ 4.6 ตร.กม. บริเวณเขาพระวิหารชายแดนไทย-กัมพูชา ต่อไป
ขณะเดียวกันรายงานข่าวแจ้งว่า บรรดาแกนนำกลุ่มเสื้อแดงของ จ.ศรีสะเกษ ได้มีการเคลื่อนไหวรวมตัวกันเพื่อเตรียมมวลชนเข้าขัดขวางต่อต้านกลุ่มพันธมิตรฯ ที่จะเดินทางมาชุมนุมทวงคืนเขาพระวิหารในครั้งนี้ด้วย ซึ่งกลุ่มแกนนำเสื้อแดงอ้างว่า จะมีกลุ่มเสื้อแดงศรีสะเกษ ร่วม 10,000 คน มาร่วมชุมนุมเพื่อต่อต้านการชุมนุมกลุ่มพันธมิตรฯ ในครั้งนี้อย่างเต็มที่
**เกษตรกร4ภาคปลุกคนบุรีรัมย์
วานนี้ (16 ก.ย.) เวลา 12.00 น. ขบวนรณรงค์ทวงคืนแผ่นดินไทยเขาพระวิหาร ของกลุ่มเกษตรกรและประชาชนภาคอีสาน จากศูนย์อพยพคนไทยไร้แผ่นดิน สภาเครือข่ายประชาชน 4 ภาค ซึ่งได้เริ่มเคลื่อนขบวนออกจากบริเวณหน้าอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี อ.เมือง จ.นครราชสีมา เมื่อวันที่ 15 ก.ย.ได้เดินทางถึง จ.บุรีรัมย์แล้ว นำโดยนายอุทัย ปรีชา โฆษกสภาเครือข่ายประชาชนอีสาน (สอส.)
พร้อมกับมีการจกแถลงการณ์รณรงค์ทวงคืนเขาพระวิหารให้แก่ประชาชนทั่วไปตามเส้นทางที่ผ่าน เพื่อเชิญชวนให้ประชาชนใน จ.บุรีรัมย์ เข้าร่วมแสดงพลังเรียกร้องทวงคืนผืนแผ่นดินไทยรอบปราสาทพระวิหาร 4.6 ตร.กม.พร้อมกับประชาชนทั่วประเทศในวันที่ 19 ก.ย.นี้
ทั้งนี้ หากรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ไม่ให้ความชัดเจนกับประชาชนและชาวกัมพูชาที่รุกล้ำเขตแดนเข้ามาปลูกสร้างที่อยู่อาศัย ยังไม่ยอมออกไปจากเขตแดนไทยพื้นที่ 4.6 ตร.กม.กลุ่มผู้ไร้ที่ทำกินและสภาประชาชน 4 ภาคก็จะเข้าไปยึดพื้นที่เพื่อปลูกสร้างที่อยู่อาศัยและจัดสรรทำกินบนเขาพระวิหาร ในพื้นที่ดังกล่าวเช่นกัน
นายวีระ สมความคิด ประธานกลุ่มพิทักษ์สิทธิเสรีภาพของประชาชน และคณะ เดินทางมายังสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อยื่นหนังสือ “ขอให้ไต่สวนและลงโทษตามกฎหมายกับเจ้าพนักงานที่ปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ หรือโดยทุจริตทำให้รัฐได้รับความเสียหาย กรณีไม่ผลักดัน และยินยอมให้กองกำลังต่างชาติชาวกัมพูชา เข้ามารุกราน และยึดแผ่นดินไทยบริเวณรอบปราสาทพระวิหาร กินเนื้อที่เกือบสามพันไร่ ทั้งนี้ได้ยืนเอกสารเป็นสำเนา แผ่นดีวีดี บันทึกภาพและเสียง 11 ชิ้น ให้กับ ป.ป.ช.
ทั้งนี้ หนังสือที่นายวีระ ยื่น ให้ ป.ป.ช.ทำการไต่สวน และลงโทษตามกฎหมายกับผู้กระทำความผิดทุกคน ทั้งทหาร และคณะรัฐมนตรี ตั้งแต่ปี พ.ศ.2541 เป็นต้นมา จนถึงปัจจุบัน โดยรัฐบาลที่มีส่วนรับผิดชอบในการกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157
เริ่มตั้งแต่รัฐบาลของ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ในปี 2541 ตลอดจนมาถึงรัฐบาลของ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ในปัจจุบัน เพราะกองกำลังและชาวกัมพูชา ได้เร่งก่อสร้างบ้านเรือนเพิ่มมากขึ้นเป็นจำนวนมากในช่วงรัฐบาลของพล.อ.สุรยุทธิ์ จุลานนท์ จนถึงรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ รวมไปถึงแม่ทัพภาคที่ 2 ผู้บัญชาการทหารบกในช่วงปี 2541 เป็นต้นมาด้วยก็เข้าข่ายกระทำความผิด
รวมไปถึงเป็นการกระทำใด ๆ เพื่อให้ราชอาณาจักรหรือส่วนหนึ่งส่วนใดของราชอาณาจักร ตกไปภายใต้อำนาจอธิปไตยของรัฐต่างประเทศหรือเพื่อให้เอกราชของรัฐเสื่อเสียไปตามาตรา 119 และ129 ด้วยเช่นกัน
เนื่องจากที่ผ่านมา พื้นที่ 4.6 ตารางกิโลเมตร รอบตัวปราสาทยังคงเป็นของไทย เพราะตัวปราสาท ศาลโลกตัดสินให้เป็นของกัมพูชา แต่เมื่อวันที่ 1 ส.ค. 41 กองทัพบก โดยกองกำลังสุรนารี ทดลองเปิดเขาพระวิหาร เพื่อขึ้นชมและศึกษาโบราณสถาน ในครั้งนั้นมีข้อมูลว่า มีทหารไทย ยศ พันเอกของกองกำลังสุรนารี ขณะนั้น ร่วมมือกับนักการเมืองท้องถิ่นที่เป็นนักธุรกิจของ อ.กันทรลักษ์ ทำการก่อสร้างห้องแถวขึ้นที่บริเวณเชิงบันไดนาคราช ซึ่งเป็นทางขึ้นปราสาทเขาพระวิหาร และเปิดให้ชาวไทยและชาวกัมพูชามาเซ้งและเช่าดังกล่าวเพื่อทำการค้าในราคาห้องละประมาณ 5 หมื่นบาท และมีชาวกัมพูชาเข้ามาเซ้งเพื่อทำการค้ากับนักท่องเที่ยวจำนวนมาก
"จึงเป็นที่มาของการที่มีกองกำลังติดอาวุธชาวกัมพูชา และชาวกัมพูชารุกล้ำดินแดนไทยเข้ามาก่อสร้างบ้านเรือน ร้านค้าบริเวณบันไดนาคราช และในพื้นที่ 4.6 ตารางกิโลเมตร มีการก่อสร้างวัดแก้วสิกขาคีรีถวาย และก่อสร้างถนนจากบ้านโกมุย ทำบันได และกระเช้าเพื่อขนคนและอาวุธยุทโธปกรณ์จำนวนมากขึ้นมาบนภูมะเขือซึ่งเป็นแผ่นดินไทย และยังปักธงชาติกัมพูชา" นายวีระ กล่าว
***
วันนี้ (16 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แนวร่วมพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจังหวัดขอนแก่น เตรียมพร้อมระดมพลกองทัพประชาชนพร้อมเสบียง พร้อมเดินทางร่วมทวงคืนพื้นที่พิพาท 4.6 ตร.กม.ของไทยกลับคืนสู่แผ่นดินแม่
ด้านแนวร่วมพันธมิตรฯ ขอนแก่น ซึ่งได้ร่วมใจแสดงพลังหน้าอนุสาวรีย์จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 13 กันยายนที่ผ่านมา เพื่อประกาศเจตนารมณ์พร้อมกับพันธมิตรฯ จากทั่วภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่จะร่วมต่อสู้ทวงดินแดนไทย หลังจากเมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2552 ที่ผ่านมา คณะของนายวีระ สมความคิด พร้อมทีมข่าว ASTV NEWS1 ได้เดินทางไปพิสูจน์พื้นที่พิพาทแล้วปรากฏชัดเจนว่าไทยถูกรุกล้ำพื้นที่โดยมีการสร้างบ้านเรือนของชาวกัมพูชา
ทำให้คนไทยผู้รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ไม่สามารถทนได้ ทั้งที่ต่างเฝ้ารอดูท่าทีของรัฐบาลมาตั้งแต่วันที่ภาพของคณะพิสูจน์ดินแดนไทยที่ASTV NEWS1 นำเสนอไป แต่รัฐบาลยังไม่มีท่าทีจะผลัดกันชาวกัมพูชาออกจากดินแดนของชาติไทย ดังนั้นคนไทยจึงพร้อมใจที่จะทำหน้าที่ปกป้องรักษาอธิปไตยของชาติ
สำหรับขบวนกองทัพประชาชนชาวขอนแก่นได้นัดหมายเคลื่อนขบวนในคืนวันที่ 18 กันยายนนี้ โดยมีพ่อยกแม่ยกพันธมิตรฯ พร้อมประชาชนผู้รักชาติ ได้ร่วมใจกันบริจาคเพื่อเป็นทุนค่าใช้จ่ายในการเดินทางแล้วส่วนหนึ่ง
โดยผู้ประสงค์จะบริจาคสมทบค่าเดินทาง และต้องการเดินทางไปร่วมทวงดินแดนไทยพร้อมกัน สามารถแจ้งชื่อได้ที่สำนักงานศูนย์ข่าว ASTV NEWS1 และหนังสือพิมพ์ ASTV ผู้จัดการ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เลขที่ 1/31 ถนนราษฎร์คนึง สามแยกบ้านดอนเลี้ยวขวา ก่อนถึงโรงเรียนเทศบาลโนนชัย อ.เมือง จ.ขอนแก่น ภายในเวลา 13.00 น. วันศุกร์ที่ 18 ก.ย.นี้
ขณะที่บรรยากาศที่อุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร จังหวัดศรีสะเกษ ขณะนี้การ์ดพันธมิตรฯ รวมทั้งนักรบศรีวิชัย ได้กระจายคอยดูแลความปลอดภัยอย่างเต็มที่ ซึ่งขบวนพี่น้องพันธมิตรฯ จากจังหวัดต่างๆ เริ่มทยอยเดินทางไปถึงที่อุทยานฯ แล้ว
โดยทางแนวร่วมพันธมิตรฯ จังหวัดศรีสะเกษได้แจ้งว่า ขณะนี้มีผู้บริจาคน้ำดื่มแล้ว 1,400 โหล แต่ยังต้องการรับบริจาคเพิ่ม รวมทั้งข้าวสาร และหม้อหุงข้าว เพื่อให้เพียงพอต่อการบริการอาหารและน้ำดื่มให้กับพี่น้องประชาชนคนไทยผู้รักชาติ เนื่องจากคาดว่าจะมีมวลชนพันธมิตรฯ ผู้รักชาติเดินทางมาสมทบอีกหลายหมื่นคน โดยสามารถติดต่อบริจาคได้ที่คุณจุ๋ม โทร.08-6873-0451
***
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ห้องประชุมกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดศรีสะเกษ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ พล.ต.ท.สถาพร หลาวทอง ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผช.ผบ.ตร.) และคณะ ได้เดินทางมามอบนโยบายให้กับนายตำรวจระดับผู้กำกับการ (ผกก.) และสารวัตรใหญ่ สถานีตำรวจภูธรทุกแห่งของ จ.ศรีสะเกษ เกี่ยวกับการรักษาความสงบเรียบร้อยกรณีประชาชนและกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) จากทั่วประเทศจะเดินทางมาชุมนุมทวงคืนแผ่นดินไทยเขาพระวิหาร ที่อุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ 19 ก.ย.นี้
โดยมี ผกก.และสารวัตรใหญ่ จากทุกสถานีตำรวจในพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ มาร่วมประชุมและรับมอบนโยบายในการปฏิบัติงานครั้งนี้
พล.ต.ท.สถาพร หลาวทอง ผช.ผบ.ตร.กล่าวว่า ในวันที่ 19 ก.ย.นี้ จะมีกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เดินทางมาชุมนุมที่บริเวณอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร ทั้งนี้เพื่อผลักดันชาวกัมพูชาให้ออกไปจากเขาพระวิหาร บริเวณพื้นที่ 4.6 ตร.กม.ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ยังไม่มีการปักปันเขตแดน จึงได้สนธิกำลังระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจในเขตตำรวจภูธรภาค 3 ร่วมกับทหารและเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง เพื่อจัดกำลังเข้าไปดูแลความสงบเรียบร้อยในครั้งนี้ โดยจะเน้นไม่ให้มีการกระทบกระทั่งกับระหว่างมวลชนในพื้นที่และระหว่างกลุ่มพันธมิตรฯ กับชาวกัมพูชาที่บริเวณเขาพระวิหาร เพราะเกรงจะเป็นการกระทบกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศขึ้นมาได้
ทั้งนี้ ตำรวจจะตั้งจุดตรวจ เพื่อตรวจค้นและดูแลการกระทำผิดกฎหมายอย่างเข้มงวด รวมทั้งการตรวจค้นอาวุธและสิ่งของผิดกฎหมายทุกอย่าง เพื่อไม่ให้มีการกระทำผิดกฎหมายเกิดขึ้นในการชุมนุมในครั้งนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ในวันเดียวกันนี้ ปรากฏว่า ได้มีกลุ่มพันธมิตรฯ จากหลายจังหวัดทั่วประเทศพากันทยอยมาพักรวมกันที่ศีรษะอโศก ซึ่งอยู่ใกล้กับ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ เพื่อรอสมทบกับประชาชนทั่วประเทศ ที่จะขึ้นไปชุมนุมบนอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหารวันที่ 19 ก.ย.นี้ เพื่อแสดงพลังผลักดันชาวกัมพูชา ให้ออกไปจากพื้นที่ 4.6 ตร.กม.บริเวณเขาพระวิหารชายแดนไทย-กัมพูชา ต่อไป
**แกนนำแดงถ่อยศรีสะเกษไร้สำนึก
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ในวันเดียวกันนี้ปรากฏว่า ได้มีกลุ่มพันธมิตรฯ จากหลายจังหวัดทั่วประเทศพากันทยอยมาพักรวมกันที่ศีรษะอโศก ซึ่งอยู่ใกล้กับ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ เพื่อรอสมทบกับประชาชนทั่วประเทศ ที่จะขึ้นไปชุมนุมบนอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหารวันที่ 19 ก.ย.นี้ เพื่อแสดงพลังผลักดันชาวกัมพูชา ให้ออกไปจากพื้นที่ 4.6 ตร.กม. บริเวณเขาพระวิหารชายแดนไทย-กัมพูชา ต่อไป
ขณะเดียวกันรายงานข่าวแจ้งว่า บรรดาแกนนำกลุ่มเสื้อแดงของ จ.ศรีสะเกษ ได้มีการเคลื่อนไหวรวมตัวกันเพื่อเตรียมมวลชนเข้าขัดขวางต่อต้านกลุ่มพันธมิตรฯ ที่จะเดินทางมาชุมนุมทวงคืนเขาพระวิหารในครั้งนี้ด้วย ซึ่งกลุ่มแกนนำเสื้อแดงอ้างว่า จะมีกลุ่มเสื้อแดงศรีสะเกษ ร่วม 10,000 คน มาร่วมชุมนุมเพื่อต่อต้านการชุมนุมกลุ่มพันธมิตรฯ ในครั้งนี้อย่างเต็มที่
**เกษตรกร4ภาคปลุกคนบุรีรัมย์
วานนี้ (16 ก.ย.) เวลา 12.00 น. ขบวนรณรงค์ทวงคืนแผ่นดินไทยเขาพระวิหาร ของกลุ่มเกษตรกรและประชาชนภาคอีสาน จากศูนย์อพยพคนไทยไร้แผ่นดิน สภาเครือข่ายประชาชน 4 ภาค ซึ่งได้เริ่มเคลื่อนขบวนออกจากบริเวณหน้าอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี อ.เมือง จ.นครราชสีมา เมื่อวันที่ 15 ก.ย.ได้เดินทางถึง จ.บุรีรัมย์แล้ว นำโดยนายอุทัย ปรีชา โฆษกสภาเครือข่ายประชาชนอีสาน (สอส.)
พร้อมกับมีการจกแถลงการณ์รณรงค์ทวงคืนเขาพระวิหารให้แก่ประชาชนทั่วไปตามเส้นทางที่ผ่าน เพื่อเชิญชวนให้ประชาชนใน จ.บุรีรัมย์ เข้าร่วมแสดงพลังเรียกร้องทวงคืนผืนแผ่นดินไทยรอบปราสาทพระวิหาร 4.6 ตร.กม.พร้อมกับประชาชนทั่วประเทศในวันที่ 19 ก.ย.นี้
ทั้งนี้ หากรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ไม่ให้ความชัดเจนกับประชาชนและชาวกัมพูชาที่รุกล้ำเขตแดนเข้ามาปลูกสร้างที่อยู่อาศัย ยังไม่ยอมออกไปจากเขตแดนไทยพื้นที่ 4.6 ตร.กม.กลุ่มผู้ไร้ที่ทำกินและสภาประชาชน 4 ภาคก็จะเข้าไปยึดพื้นที่เพื่อปลูกสร้างที่อยู่อาศัยและจัดสรรทำกินบนเขาพระวิหาร ในพื้นที่ดังกล่าวเช่นกัน
