นายสุวิทย์ คุณกิตติ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะรองประธานคณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยอนุสัญญาคุ้มครองมรดกโลก เปิดเผยหลังการประชุมที่มีนายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานว่า ในการประชุม ได้พิจารณาเรื่องการส่งตัวแทนจากประเทศไทยเข้าสมัครเลือกตั้งเป็นคณะกรรมการมรดกโลกซึ่งขอย้ำว่า ในนามของประเทศไทย ไม่มีเป็นรายบุคคล แต่ว่า ในเรื่องของตัวบุคคล เราอาจจะมีรายชื่อคณะบุคคลเข้าไปทำงานเพื่อให้เห็นว่า เรามีความเชื่ยวชาญ มีความรู้ความสมารถในการดำเนินการเรื่องนี้ โดยได้ให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการประสาน
ผู้สื่อข่าวถามว่าจะยังมีการเสนอชื่อผู้จะสมัครเลือกตั้งกรรมการมรดกโลก คนเดิมอยู่หรือไม่ นายสุวิทย์ กล่าวว่า ไม่มีการปฏิเสธรายชื่อใดๆ แต่ว่าการเสนอชื่อ เป็นการเสนอรายชื่อผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งการสมัครเป็นการสมัครในนามของประเทศ เพียงแต่ว่ารายชื่อที่เสนอๆไปเป็นเรื่องของผู้เชี่ยวชาญมีความรู้และมีประสบการณ์ ในเรื่องมรดกโลกเป็นอย่างดี ซึ่งเป็นทีมงานที่สามารถทำงานได้
ส่วนที่นายอดุล วิเชียรเจริญ ได้ปฏิเสธเข้ารับสมัครเนื่องจากมีอายุมากแล้วนั้น นายสุวิทย์ กล่าวว่า อย่างที่ตนได้เรียนแล้วว่าเป็นการทำในนามประเทศ และตนคิดว่า ทุกคนอยากจะช่วยงานประเทศอยู่แล้วคงไม่มีใครมีปัญหาอะไร จะสนับสนุนอะไรก็เป็นเรื่องที่ดี
รายงานข่าวแจ้งว่า แม้จากเดิมที่ประชุมได้มีมติเอกฉันท์เลือก นายอดุล วิเชียรเจริญ ที่ปรึกษาคณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยอนุสัญญาคุ้มครอง มรดกโลกของไทย และอดีตคณะกรรมการมรดกโลกชุดใหญ่ 21 ประเทศ เข้าชิง เป็นคณะกรรมการมรดกโลกชุดใหญ่อีกครั้ง แทนผู้แทนจากทวีปเอเชียที่จะหมดวาระในครั้งนี้จำนวน 2 ตำแหน่ง แต่นายสุวิทย์ ได้รายงานต่อที่ประชุมว่า ล่าสุด นายอดุล ได้ปฏิเสธข้อเสนอ เนื่องจากมีปัญหาทางด้านสุขภาพ และเกรงว่าไม่สามารถจะปฏิบัติภารกิจหน้าที่ในการ เป็นตัวแทนของประเทศไทยได้อย่างเต็มที่ จึงขอให้มีการ เสนอชื่อบุคคลอื่นที่มีความเหมาะสม เพื่อเสนอในการชิงตำแหน่งคณะกรรมการมรดกโลกชุดใหญ่แทน
ทั้งนี้ กระทรวงวัฒนธรรม ได้เสนอชื่อ ดร.พิสิฐ เจริญวงศ์ ผอ.ศูนย์ภูมิภาค โบราณคดีและวิจิตรศิลป์ (สปาฟ่า) นางสาวิตรี สุวรรณสถิตย์ ที่ปรึกษา วธ. และนางโสมสุดา ลียะวณิช ผู้ตรวจราชการ วธ. เข้าชิงตำแหน่งตามเดิม เนื่องจาก พิจารณา เห็นว่าเป็นบุคคลที่มีความรู้ความสามารถหลายด้าน และมีประสบการณ์ความรู้เกี่ยวกับมรดกโลกมากที่สุด
รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า เมื่อวันที่ 1 ก.ย. คณะรัฐมนตรี ได้เห็นชอบให้ประเทศไทยสมัครเข้าเป็นกรรมการในคณะกรรมการมรดกโลก ที่จะมีการเลือกตั้งคณะกรรมการมรดกโลกในตำแหน่งที่ครบวาระในเดือนตุลาคม 2552 ตามมติคณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยอนุสัญญาคุ้มครองมรดกโลก ที่มีรองนายกรัฐมนตรี (นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ) เป็นประธาน ในการประชุมครั้งที่ 2/2552 เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2552 และให้กระทรวงการต่างประเทศและกระทรวงศึกษาธิการดำเนินการตามมติของคณะกรรมการแห่งชาติฯ
ผู้สื่อข่าวถามว่าจะยังมีการเสนอชื่อผู้จะสมัครเลือกตั้งกรรมการมรดกโลก คนเดิมอยู่หรือไม่ นายสุวิทย์ กล่าวว่า ไม่มีการปฏิเสธรายชื่อใดๆ แต่ว่าการเสนอชื่อ เป็นการเสนอรายชื่อผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งการสมัครเป็นการสมัครในนามของประเทศ เพียงแต่ว่ารายชื่อที่เสนอๆไปเป็นเรื่องของผู้เชี่ยวชาญมีความรู้และมีประสบการณ์ ในเรื่องมรดกโลกเป็นอย่างดี ซึ่งเป็นทีมงานที่สามารถทำงานได้
ส่วนที่นายอดุล วิเชียรเจริญ ได้ปฏิเสธเข้ารับสมัครเนื่องจากมีอายุมากแล้วนั้น นายสุวิทย์ กล่าวว่า อย่างที่ตนได้เรียนแล้วว่าเป็นการทำในนามประเทศ และตนคิดว่า ทุกคนอยากจะช่วยงานประเทศอยู่แล้วคงไม่มีใครมีปัญหาอะไร จะสนับสนุนอะไรก็เป็นเรื่องที่ดี
รายงานข่าวแจ้งว่า แม้จากเดิมที่ประชุมได้มีมติเอกฉันท์เลือก นายอดุล วิเชียรเจริญ ที่ปรึกษาคณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยอนุสัญญาคุ้มครอง มรดกโลกของไทย และอดีตคณะกรรมการมรดกโลกชุดใหญ่ 21 ประเทศ เข้าชิง เป็นคณะกรรมการมรดกโลกชุดใหญ่อีกครั้ง แทนผู้แทนจากทวีปเอเชียที่จะหมดวาระในครั้งนี้จำนวน 2 ตำแหน่ง แต่นายสุวิทย์ ได้รายงานต่อที่ประชุมว่า ล่าสุด นายอดุล ได้ปฏิเสธข้อเสนอ เนื่องจากมีปัญหาทางด้านสุขภาพ และเกรงว่าไม่สามารถจะปฏิบัติภารกิจหน้าที่ในการ เป็นตัวแทนของประเทศไทยได้อย่างเต็มที่ จึงขอให้มีการ เสนอชื่อบุคคลอื่นที่มีความเหมาะสม เพื่อเสนอในการชิงตำแหน่งคณะกรรมการมรดกโลกชุดใหญ่แทน
ทั้งนี้ กระทรวงวัฒนธรรม ได้เสนอชื่อ ดร.พิสิฐ เจริญวงศ์ ผอ.ศูนย์ภูมิภาค โบราณคดีและวิจิตรศิลป์ (สปาฟ่า) นางสาวิตรี สุวรรณสถิตย์ ที่ปรึกษา วธ. และนางโสมสุดา ลียะวณิช ผู้ตรวจราชการ วธ. เข้าชิงตำแหน่งตามเดิม เนื่องจาก พิจารณา เห็นว่าเป็นบุคคลที่มีความรู้ความสามารถหลายด้าน และมีประสบการณ์ความรู้เกี่ยวกับมรดกโลกมากที่สุด
รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า เมื่อวันที่ 1 ก.ย. คณะรัฐมนตรี ได้เห็นชอบให้ประเทศไทยสมัครเข้าเป็นกรรมการในคณะกรรมการมรดกโลก ที่จะมีการเลือกตั้งคณะกรรมการมรดกโลกในตำแหน่งที่ครบวาระในเดือนตุลาคม 2552 ตามมติคณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยอนุสัญญาคุ้มครองมรดกโลก ที่มีรองนายกรัฐมนตรี (นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ) เป็นประธาน ในการประชุมครั้งที่ 2/2552 เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2552 และให้กระทรวงการต่างประเทศและกระทรวงศึกษาธิการดำเนินการตามมติของคณะกรรมการแห่งชาติฯ