โฆษกพรรคเพื่อแม้ว “พร้อมพงศ์ นพฤทธิ์” เดินสายสร้างข่าว ยื่น “พล.ต.ท.วุฒิ พัวเวส” เร่งรัดคดีพันธมิตรฯ สงสัยทำไมเรียกผู้ก่อการดี ด้าน “วุฒิ” ยันคดียังเดินหน้า ไม่สนคำขู่ร้อง ป.ป.ช.สอบ
วันนี้ (25 ส.ค.)เวลา 11.00 น.ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย และนายพิชา วิจิตรศิลป์ ประธานชมรมกฏหมายภิวัฒน์แห่งประเทศไทยเดินทางยื่นหนังสือ ถึง พล.ต.ท.วุฒิ พัวเวส ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผช.ผบ.ตร.)ในฐานะเป็นหัวหน้าพนักงานสอบสวนคดีกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ชุมนุมปิดสนามบินสุวรรณภูมิและสนามบินดอนเมือง เมื่อวันที่ 25 พ.ย.2551 ที่ผ่านมา เพื่อทวงถามความคืบหน้าของการดำเนินคดี โดยมี พ.ต.อ.สุทธินาท สุดยอด รองเลขานุการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นผู้รับหนังสือ
นายพร้อมพงศ์กล่าวว่า ที่มายื่นหนังสือในวันนี้ เพื่อเป็นการทวงถามว่าระยะเวลาที่ผ่านมานานเกือบ 1 ปีแล้ว แต่การดำเนินการเพื่อเอาผิดกับผู้ที่ก่อให้เกิดความเสียหายและการดำเนินการเพื่อชดเชยความเสียหายที่เกิดขึ้นยังล่าช้าไม่มีความชัดเจน ซึ่งความรับผิดชอบของบุคคลในเรื่องดังกล่าวเป็นที่สงสัยคาใจของสาธารณชนในสังคมเป็นอย่างมาก ตนจึงอยากทวงถาม พล.ต.ท.วุฒิ ว่า การดำเนินคดีในเรื่องนี้มีความคืบหน้าไปถึงไหน หลังจากกลุ่มบุคคลเหล่านี้ปฏิเสธข้อหาการก่อการร้าย ซึ่งเป็นข้อหาที่มีโทษสูงสุดถึงประหารชีวิต นอกจากนี้อยากถามว่าเหตุใดท่านจึงเรียกกลุ่มบุคคลที่บุกรุกสนามบินว่าเป็นผู้ก่อการดี
“นอกจากนี้ เมื่อมีการออกหมายเรียกไปแล้ว การดำเนินการของพนักงานสอบสวนต้องมีการดำเนินการออกหมายจับเหตุใดเรื่องนี้จึงล่าช้า ไม่มีการออกหมายจับ ทั้งๆ ที่การกระทำดังกล่าวเป็นการทำผิดทางอาญาในข้อหาการก่อการร้ายซึ่งเป็นคดีอุกฉกรรจ์ จึงอยากให้ พล.ต.ท.วุฒิ ชี้แจงเรื่องดังกล่าวต่อสาธารณชน และหากไม่ดำเนินการอย่างหนึ่งอย่างใดภายใน 10 วัน ตนจะไปยื่นดำเนินคดีกับพนักงานสอบสวนในคดีนี้ กับคณะกรรมการ ป.ป.ช.ในข้อหาเป็นเจ้าพนักงานเว้นหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157” นายพร้อมพงศ์กล่าว
นายพร้อมพงศ์ยังกล่าวอีกว่า ตนมีข้อมูลจากผู้ร้องเรียนว่าในช่วงที่มีการบุกยึดสนามบิน ได้มีการเบิกงบลับของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จำนวน 80 ล้านบาท ไปดำเนินการใช้จ่ายในทางที่ไม่โปร่งใส ตนจะตรวจสอบว่าข้อมูลที่ได้มาเป็นอย่างไร มีการเบิกงบไปใช้ในทางที่ถูกกฏหมายหรือไม่อย่างไร เรื่องนี้ต้องไปถาม พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร. และอยากให้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีลงไปตรวจสอบด้วย
“ส่วนการแต่งตั้ง ผบ.ตร.คนใหม่นั้น เป็นเรื่องที่ควรดำเนินการตามขั้นตอน นายอภิสิทธิ์ ไม่ควรลงมาล้วงลูก ควรปล่อยให้เป็นไปตามกฏหมายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หรือ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ที่ได้รับมอบหมายให้ดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ นายกฯ ควรไปสนใจเรื่องเศรษฐกิจ ปัญหาความขัดแย้งทางการเมือง ไข้หวัด 2009 มากกว่า”
ด้าน พล.ต.ท.วุฒิ พัวเวส ผช.ผบ.ตร.กล่าวว่า ในคดีนี้คณะพนักงานสอบสวนก็กำลังดำเนินการอยู่ไม่ได้ทอดทิ้ง ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นเราก็ต้องทำตามหน้าที่ ซึ่งในขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการพิจารณาข้อมูลเอกสารต่างๆ ที่กลุ่มผู้ต้องหาส่งมาให้ เรื่องนี้ต้องพิจารณาให้รอบคอบ ส่วนการที่จะมีใครไปฟ้องที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. ตนก็ต้องไปแก้ข้อกล่าวหาที่ ป.ป.ช.
วันนี้ (25 ส.ค.)เวลา 11.00 น.ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย และนายพิชา วิจิตรศิลป์ ประธานชมรมกฏหมายภิวัฒน์แห่งประเทศไทยเดินทางยื่นหนังสือ ถึง พล.ต.ท.วุฒิ พัวเวส ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผช.ผบ.ตร.)ในฐานะเป็นหัวหน้าพนักงานสอบสวนคดีกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ชุมนุมปิดสนามบินสุวรรณภูมิและสนามบินดอนเมือง เมื่อวันที่ 25 พ.ย.2551 ที่ผ่านมา เพื่อทวงถามความคืบหน้าของการดำเนินคดี โดยมี พ.ต.อ.สุทธินาท สุดยอด รองเลขานุการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นผู้รับหนังสือ
นายพร้อมพงศ์กล่าวว่า ที่มายื่นหนังสือในวันนี้ เพื่อเป็นการทวงถามว่าระยะเวลาที่ผ่านมานานเกือบ 1 ปีแล้ว แต่การดำเนินการเพื่อเอาผิดกับผู้ที่ก่อให้เกิดความเสียหายและการดำเนินการเพื่อชดเชยความเสียหายที่เกิดขึ้นยังล่าช้าไม่มีความชัดเจน ซึ่งความรับผิดชอบของบุคคลในเรื่องดังกล่าวเป็นที่สงสัยคาใจของสาธารณชนในสังคมเป็นอย่างมาก ตนจึงอยากทวงถาม พล.ต.ท.วุฒิ ว่า การดำเนินคดีในเรื่องนี้มีความคืบหน้าไปถึงไหน หลังจากกลุ่มบุคคลเหล่านี้ปฏิเสธข้อหาการก่อการร้าย ซึ่งเป็นข้อหาที่มีโทษสูงสุดถึงประหารชีวิต นอกจากนี้อยากถามว่าเหตุใดท่านจึงเรียกกลุ่มบุคคลที่บุกรุกสนามบินว่าเป็นผู้ก่อการดี
“นอกจากนี้ เมื่อมีการออกหมายเรียกไปแล้ว การดำเนินการของพนักงานสอบสวนต้องมีการดำเนินการออกหมายจับเหตุใดเรื่องนี้จึงล่าช้า ไม่มีการออกหมายจับ ทั้งๆ ที่การกระทำดังกล่าวเป็นการทำผิดทางอาญาในข้อหาการก่อการร้ายซึ่งเป็นคดีอุกฉกรรจ์ จึงอยากให้ พล.ต.ท.วุฒิ ชี้แจงเรื่องดังกล่าวต่อสาธารณชน และหากไม่ดำเนินการอย่างหนึ่งอย่างใดภายใน 10 วัน ตนจะไปยื่นดำเนินคดีกับพนักงานสอบสวนในคดีนี้ กับคณะกรรมการ ป.ป.ช.ในข้อหาเป็นเจ้าพนักงานเว้นหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157” นายพร้อมพงศ์กล่าว
นายพร้อมพงศ์ยังกล่าวอีกว่า ตนมีข้อมูลจากผู้ร้องเรียนว่าในช่วงที่มีการบุกยึดสนามบิน ได้มีการเบิกงบลับของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จำนวน 80 ล้านบาท ไปดำเนินการใช้จ่ายในทางที่ไม่โปร่งใส ตนจะตรวจสอบว่าข้อมูลที่ได้มาเป็นอย่างไร มีการเบิกงบไปใช้ในทางที่ถูกกฏหมายหรือไม่อย่างไร เรื่องนี้ต้องไปถาม พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร. และอยากให้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีลงไปตรวจสอบด้วย
“ส่วนการแต่งตั้ง ผบ.ตร.คนใหม่นั้น เป็นเรื่องที่ควรดำเนินการตามขั้นตอน นายอภิสิทธิ์ ไม่ควรลงมาล้วงลูก ควรปล่อยให้เป็นไปตามกฏหมายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หรือ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ที่ได้รับมอบหมายให้ดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ นายกฯ ควรไปสนใจเรื่องเศรษฐกิจ ปัญหาความขัดแย้งทางการเมือง ไข้หวัด 2009 มากกว่า”
ด้าน พล.ต.ท.วุฒิ พัวเวส ผช.ผบ.ตร.กล่าวว่า ในคดีนี้คณะพนักงานสอบสวนก็กำลังดำเนินการอยู่ไม่ได้ทอดทิ้ง ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นเราก็ต้องทำตามหน้าที่ ซึ่งในขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการพิจารณาข้อมูลเอกสารต่างๆ ที่กลุ่มผู้ต้องหาส่งมาให้ เรื่องนี้ต้องพิจารณาให้รอบคอบ ส่วนการที่จะมีใครไปฟ้องที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. ตนก็ต้องไปแก้ข้อกล่าวหาที่ ป.ป.ช.