เอเอฟพี – สมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ หรือ ไออาต้า กล่าวในวันอังคาร (15) ว่าธุรกิจสายการบินทั่วโลกมีหวังจะต้องประสบขาดทุนสูงถึง 27,800 ล้านดอลลาร์ในช่วงปี 2008 และ 2009 เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอย ซึ่งหนักยิ่งกว่าหลังเกิดเหตุการณ์ “11 กันยายน 2001” ด้วย
“เป็นตัวเลขที่สูงกว่ายอดขาดทุนราว 24,300 ล้านดอลลาร์ในระหว่างปี 2001-2002 หลังเหตุการณ์โจมตีสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 11 กันยายน” จิโอวานนี บิซิญานี ประธานสมาคมฯ กล่าว
ไออาต้า ในวันอังคารได้ปรับคาดการณ์ยอดขาดทุนในปี 2009 เป็น 11,000 ล้านดอลลาร์จากตัวเลขเดิมที่ 9,000 ล้านดอลลาร์ และยังคาดด้วยว่าในปี 2010 จะมียอดขาดทุนรวม 3,800 ล้านดอลลาร์ โดยธุรกิจสายการบินคงจะยังไม่สามารถมีกำไรจนกว่าจะถึงปี 2011
อย่างไรก็ตาม บิซิญานีบอกว่า จำนวนผู้โดยสารกำลังมีแนวโน้มกระเตื้องขึ้น โดยน่าจะลดลง 4 เปอร์เซ็นต์ในปีนี้ จากที่เคยคาดหมายในเดือนมิถุนายนว่าจะลดลงถึง 8 เปอร์เซ็นต์
เขาชี้ด้วยว่าที่นั่งชั้นธุรกิจและชั้นเฟิร์สต์คลาสซึ่งเคยทำรายได้ให้กับธุรกิจมากที่สุด เป็นส่วนที่มียอดขายลดลงถึงราว 20 เปอร์เซ็นต์ ในขณะที่ที่นั่งชั้นประหยัดลดลงเพียง 5 เปอร์เซ็นต์ และยิ่งเมื่อสายการบินต่างๆ ทุ่มลดราคาตั๋วเครื่องบินให้กับผู้โดยสารชั้นธุรกิจอีก รายได้ของธุรกิจการบินก็ยิ่งตกลง
แต่ที่ซ้ำร้ายก็คือ เมื่อมีการคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจโลกเริ่มฟื้นตัวขึ้นบ้างแล้ว ปรากฏว่าราคาน้ำมันก็เพิ่มขึ้นอีกจนบั่นทอนรายได้ของสายการบินด้วย
บิซิญานีกล่าวว่า “ต่อให้มีลูกค้ามากขึ้นกว่านี้ เราก็ยังมองไม่เห็นว่ารายได้จะกลับขึ้นมาเท่ากับระดับในปี 2008 ได้จนกว่าจะถึงปี 2012-2013” และเสริมว่าหลังเหตุการณ์ “9/11” ธุรกิจการบินต้องใช้เวลาถึง 3 ปีครึ่งจึงจะพ้นจากสภาพขาดทุนได้
ไออาต้าคาดการณ์ว่า ธุรกิจการบินยุโรปจะได้รับผลกระทบหนักที่สุดในปีนี้ มียอดขาดทุนถึง 3,800 ล้านดอลลาร์ ส่วนธุรกิจการบินในเอเชียแปซิฟิก และอเมริกาเหนือ จะมียอดขาดทุน 3,600 และ 2,600 ล้านดอลลาร์ตามลำดับ
“เป็นตัวเลขที่สูงกว่ายอดขาดทุนราว 24,300 ล้านดอลลาร์ในระหว่างปี 2001-2002 หลังเหตุการณ์โจมตีสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 11 กันยายน” จิโอวานนี บิซิญานี ประธานสมาคมฯ กล่าว
ไออาต้า ในวันอังคารได้ปรับคาดการณ์ยอดขาดทุนในปี 2009 เป็น 11,000 ล้านดอลลาร์จากตัวเลขเดิมที่ 9,000 ล้านดอลลาร์ และยังคาดด้วยว่าในปี 2010 จะมียอดขาดทุนรวม 3,800 ล้านดอลลาร์ โดยธุรกิจสายการบินคงจะยังไม่สามารถมีกำไรจนกว่าจะถึงปี 2011
อย่างไรก็ตาม บิซิญานีบอกว่า จำนวนผู้โดยสารกำลังมีแนวโน้มกระเตื้องขึ้น โดยน่าจะลดลง 4 เปอร์เซ็นต์ในปีนี้ จากที่เคยคาดหมายในเดือนมิถุนายนว่าจะลดลงถึง 8 เปอร์เซ็นต์
เขาชี้ด้วยว่าที่นั่งชั้นธุรกิจและชั้นเฟิร์สต์คลาสซึ่งเคยทำรายได้ให้กับธุรกิจมากที่สุด เป็นส่วนที่มียอดขายลดลงถึงราว 20 เปอร์เซ็นต์ ในขณะที่ที่นั่งชั้นประหยัดลดลงเพียง 5 เปอร์เซ็นต์ และยิ่งเมื่อสายการบินต่างๆ ทุ่มลดราคาตั๋วเครื่องบินให้กับผู้โดยสารชั้นธุรกิจอีก รายได้ของธุรกิจการบินก็ยิ่งตกลง
แต่ที่ซ้ำร้ายก็คือ เมื่อมีการคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจโลกเริ่มฟื้นตัวขึ้นบ้างแล้ว ปรากฏว่าราคาน้ำมันก็เพิ่มขึ้นอีกจนบั่นทอนรายได้ของสายการบินด้วย
บิซิญานีกล่าวว่า “ต่อให้มีลูกค้ามากขึ้นกว่านี้ เราก็ยังมองไม่เห็นว่ารายได้จะกลับขึ้นมาเท่ากับระดับในปี 2008 ได้จนกว่าจะถึงปี 2012-2013” และเสริมว่าหลังเหตุการณ์ “9/11” ธุรกิจการบินต้องใช้เวลาถึง 3 ปีครึ่งจึงจะพ้นจากสภาพขาดทุนได้
ไออาต้าคาดการณ์ว่า ธุรกิจการบินยุโรปจะได้รับผลกระทบหนักที่สุดในปีนี้ มียอดขาดทุนถึง 3,800 ล้านดอลลาร์ ส่วนธุรกิจการบินในเอเชียแปซิฟิก และอเมริกาเหนือ จะมียอดขาดทุน 3,600 และ 2,600 ล้านดอลลาร์ตามลำดับ