xs
xsm
sm
md
lg

คำถามถึงเครือ "มติชน"

เผยแพร่:   โดย: สุรวิชช์ วีรวรรณ

หนังสือพิมพ์มติชนรายวัน ซึ่งเรียกตัวเองโก้เก๋ว่า เป็นหนังสือพิมพ์คุณภาพเพื่อคุณภาพของประเทศ ได้นำเสนอบทความภายหลัง ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดของฆาตกรสั่งฆ่าประชาชนในบทความเรื่อง “ผลแห่งคดี 7 ตุลาฯ ‘มาตรฐาน’ป.ป.ช. ‘เป็นไปตามคาด’”ในหนังสือพิมพ์ฉบับวันที่ 9 กันยายน

บทความชิ้นนี้ออกมาชี้นำในท่วงทำนองว่า การตัดสินของ ป.ป.ช.นั้น อาจเป็น “ใบสั่งทางการเมือง” และ “การตั้งธง” ที่หลายฝ่ายสงสัย

บทความระบุว่า ผลการลงมติของ ป.ป.ช.ในครั้งนี้จึงทำให้ใครหลายๆ คนไม่รู้สึก “เซอร์ไพรส์” หรือ “ประหลาดใจ” แต่กลายเป็นความรู้สึกที่เกิดพร้อมกับเสียงถอนหายใจว่า “มันเป็นไปตามคาด”

พร้อมกับสรุปว่า ที่ผ่านมาการพิจารณาคดีของ ป.ป.ช.ในหลายๆ เรื่องก็ถูกตั้งคำถามถึงเรื่อง “มาตรฐาน” มาโดยตลอด

ในหนังสือมติชนรายวัน ฉบับวันเดียวกัน สรกล อดุลยานนท์ เจ้าของนามปากกา “หนุ่มเมืองจันท์” ผู้เขียนหนังสือชื่อ “ทักษิณ ชินวัตร อัศวินคลื่นลูกที่สาม” และใช้อีกนามปากกา “วิหคเหินฟ้า” เขียนคอลัมน์ เรียงคนมาเป็นข่าว เรียกร้องความเป็นธรรมให้กับฆาตกร 7 ตุลา

สรกลเขียนว่า “เห็นคำตัดสินของ ป.ป.ช.คดี ‘7ตุลาฯเลือด’ แล้วต้องหยิบหนังสือ ‘บันทึกคนข่าว 7 ตุลา ข้อเท็จจริงที่แตกต่าง’ ของสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทยมาอ่าน เพราะเป็น ‘ความจริง 2 ด้าน ไม่ใช่ ความจริง 2 มาตรฐาน’ ที่ฝ่ายหนึ่งถูกทั้งหมด แต่อีกฝ่ายทำอะไรก็ผิด”

“ย้อนไปอ่านข่าวหนังสือพิมพ์วันที่ 8-9 ตุลาคม 2551 ทุกฉบับยังสับสนอยู่เลยว่า ‘แก๊สน้ำตา’ ทำให้คนบาดเจ็บได้อย่างไร กว่าจะพิสูจน์ได้ว่า ‘แก๊สน้ำตา’ รุ่น ‘เมด อิน ไชน่า’ มีประสิทธิภาพการทำลายเหนือความคาดหมายก็ใช้เวลาอีกหลายวัน”

“คำถามก็คือ ในสถานการณ์ที่สับสนเช่นนั้น ‘พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ-พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว’ ที่รับคำสั่งจากรัฐบาลจะรู้ไหมว่า ‘แก๊สน้ำตา’ ทำให้คนบาดเจ็บ เพราะตอนนั้นบางฝ่ายยังเชื่อว่าเป็นผลจาก ‘ระเบิดปิงปอง’ ที่ ‘ม็อบ’ พกพามา”

ผมออกประหลาดใจไม่น้อยที่สรกลเขียนเช่นนั้น และ “ที่ฝ่ายหนึ่งถูกทั้งหมด แต่อีกฝ่ายทำอะไรก็ผิด” แม้จะรู้ว่า เจตนาที่แท้จริงของสรกลก็คือ การโน้มน้าวให้คนอ่านเข้าใจว่า ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดเพราะตั้งธงไว้ ลำเอียงและมี 2 มาตรฐาน

สรกลเห็นว่า การที่ตำรวจเอาอาวุธที่บรรจุแก๊สน้ำตาเสื่อมคุณภาพจากจีนมายิงใส่ประชาชนที่มาชุมนุมกันหน้ารัฐสภาเป็นเรื่องที่ถูกต้องเช่นนั้นหรือ (ยิงใส่ตัวนะครับ ไม่ได้ปฏิบัติตามที่สากลเขาทำกัน) และเราเห็นชัดเจนว่า กระสุนปืนนั้นมีประสิทธิภาพร้ายแรง แม้กิ่งไม้ใหญ่ก็ยังหักสะบั้น (ฆ่าคนแล้ว อ้างว่า ไม่รู้ว่า อาวุธที่ใช้มีประสิทธิภาพได้หรือ)

สรกลเห็นว่า คนที่เสียชีวิต แขนขาดขาขาด และบาดเจ็บอีกหลายร้อยคนสมควรจะถูกกระทำโดยที่คนกระทำไม่ต้องรับผิดชอบต่อความผิด

หรือสรกลเห็นว่า คนผิดคือ คนไปชุมนุมที่หน้ารัฐสภา ส่วนคนยิงใส่ประชาชนไม่ผิด เช่นที่ชอบเขียนว่าพันธมิตรฯ ขับรถพุ่งชนตำรวจ เอาปลายธงแทงตำรวจทั้งๆ ที่เกิดขึ้นภายหลังจากที่ตำรวจใช้ความรุนแรงแล้ว

แต่เมื่อย้อนมาอ่านความเห็นของสรกลและเครือมติชนก็ไม่น่าประหลาดใจว่า ทำไมคอลัมนิสต์และหนังสือพิมพ์ในเครือส่วนใหญ่เรียกร้องความเป็นธรรมให้กับคนเสื้อแดงในเหตุการณ์สงกรานต์เผาเมือง และประณามทหารที่สลายการชุมนุมของเสื้อแดง

สรกลเขียนในคอลัมน์ว่า “ถ้าใช้ ‘หลักการ’ นี้เป็น ‘เหตุผล’ ลงโทษ ‘ตำรวจ’ ปฏิบัติการสลายม็อบของ ‘ทหาร’ ในวันสงกรานต์ที่มีคนบาดเจ็บตั้งแต่เช้า แต่ตอนบ่ายก็ยังทำซ้ำแบบเดิมก็คงเข้าหลักการเดียวกัน”

คำถามก็คือว่า ทัศนคติของเครือมติชนนั้นเป็นไป เพราะสำนึก “ผิดถูกชั่วดี” หรือ “การฝักใฝ่ทางการเมืองฝ่ายเสื้อแดง”

เพราะถ้า “มติชน”ไม่ฝักใฝ่ทางการเมืองฝ่ายเสื้อแดง (แน่นอนเครือผู้จัดการประกาศตัวชัดเจนว่า ยืนอยู่ข้างเสื้อเหลือง) แต่ยืนอยู่ในจุดของสื่อมวลชนตามที่ขรรค์ชัย บุนปาน ชอบคาบคัมภีร์อวดอ้างไว้ในคอลัมน์ของเขา “มติชน” ต้องไม่เห็นด้วยทั้ง การใช้กำลังปราบปรามประชาชนเสื้อเหลืองและเสื้อแดง

แต่นี่แปลกกลับเห็นด้วยที่ใช้กำลังปราบปรามเสื้อเหลือง แต่ไม่เห็นด้วยใช้กำลังปราบปรามเสื้อแดง ผมไม่เห็นมติชนพูดถึง หรือประณามเสื้อแดง หรือเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับชาวบ้านนางเลิ้งที่ถูกเสื้อแดงยิงตาย 2 ศพ(สงสัยจะเชื่อที่เสื้อแดงอ้างว่า เป็นการกระทำของมือที่สาม) และพันธมิตรฯ ที่ถูกยิงด้วยเอ็ม-79 อีกหลายชีวิต

การกล่าวหาว่า พันธมิตรฯได้รับบาดเจ็บจากระเบิดปิงปองที่พกพาไปนั้น ไม่เพียงแต่เกิดขึ้นกับ “น้องโบว์” อังคณา ระดับปัญญาวุฒิ เท่านั้น แม้แต่ “ตี๋” ชิงชัย อุดมเจริญกิจ ก็ถูกสื่อมวลชนในค่ายมติชน นำเสนอว่า ถือระเบิดปิงปองอยู่ในมือ จนสุดท้ายเมื่อ “ตี๋” ชิงชัยนำคดีขึ้นสู่ศาล สื่อในค่ายนี้ต้องมาขออภัย และได้รับอภัยด้วยจิตใจที่กว้างใหญ่ของ “ตี๋”

ในเมื่อสรกลและมติชนฝักใฝ่เสื้อแดง ส่วนผมและผู้จัดการฝักใฝ่เสื้อเหลือง ผมจะไม่ตัดสินว่า การสลายการชุมนุมของเสื้อแดงที่สรกลพยายามหยิบยกมาเปรียบเทียบกับการสลายการชุมนุมของพันธมิตรฯนั้น เหมาะสมหรือควรแก่เหตุหรือไม่

แต่ที่ผมได้เห็นในวันสงกรานต์เผาเมืองของเสื้อแดงก็คือ กลุ่มเสื้อแดงได้นำรถแก๊สมาเปิดท่อเพื่อระเบิดสร้างความหวาดหวั่นให้กับประชาชนที่อยู่ในละแวกนั้น แล้วยึดรถเมล์มาเผาคันแล้วคันเล่า จนทหารได้เข้ามาสลายและปรากฏภาพการสลายครั้งนั้นออกไปทั่วโลก อยากให้ลองเปรียบเทียบกับภาพที่ตำรวจใช้ความรุนแรงกับพันธมิตรฯ

เอาภาพทั้งสองเหตุการณ์มาดูพร้อมกัน แล้วตัดสินด้วยใจเป็นธรรม ด้วยสำนึกผิดถูกชั่วดี

จำได้ว่า สรกลเคยเขียนในทำนองว่า ในช่วงเย็นที่ตำรวจยิงเข้าใส่พันธมิตรฯจนมีผู้ล้มตายนั้น เพราะมีข่าวว่า พันธมิตรฯจะไปบุก บชน. (ซึ่งมาจากรายงานของตำรวจเพื่อสร้างความชอบธรรมให้กับตัวเอง) แต่ข้อเท็จจริงที่รับรู้และสื่อมวลชนส่วนใหญ่ก็รู้ก็คือ พันธมิตรฯ กำลังสลายกลับมาจากหน้ารัฐสภา และเมื่อเดินผ่านด้านข้างของ บชน.บริเวณลานพระบรมรูปจู่ๆ ก็ถูกอาวุธจำนวนมากยิงถล่มจนน้องโบว์เสียชีวิต และมีผู้บาดเจ็บจำนวนมาก หนึ่งในนั้นก็คือ “เจ๊ฮวง” รุ่งทิวา ธาตุนิยม

ผมรู้ว่าค่ายมติชนส่วนใหญ่แล้วไม่ชอบสนธิ ลิ้มทองกุล แต่ผมยังจำได้ในวันที่คนในเครือข่ายมติชน นัดเจอสนธิที่ร้านอาหารต้นโพธิ์ เพื่อขอบคุณที่สนธิและเครือผู้จัดการ ยืนหยัดเคียงข้างมติชนเพื่อต่อสู้กับที่ถูกอากู๋ แกรมมี่เทคโอเวอร์ (มีคนบอกว่า ความจริง ขรรค์ชัยรู้กับอากู๋อยู่แล้ว แต่เมื่อคนในองค์กรและประชาสังคมคัดค้าน ขรรค์ชัยก็ต้องเล่นไปตามบท)

เอาเถอะครับ มติชนอาจไม่เห็นด้วยกับอุดมการณ์ของประชาชนฝ่ายพันธมิตรฯ และคอลัมนิสต์หลายคนชื่นชอบทักษิณ แต่ทำไมพวกเขาและมติชนไม่รู้จักแยกแยะเรื่องการใช้ความรุนแรงในการสังหารประชาชนไม่ว่าเขาจะมีจุดยืนหรืออุดมการณ์ทางการเมืองเช่นไร

คนดีๆในมติชนมีเยอะ แต่ไม่อาจครอบงำทัศนคติชั่วร้ายที่แสดงออกมาต่อประชาชนที่ถูกตำรวจสังหารได้

อย่างไรก็ตามนี่คือ บันทึกทางประวัติศาสตร์อีกบทหนึ่งว่า หนังสือพิมพ์ฉบับนี้แสดงจุดยืนอยู่เคียงข้างกับอำนาจรัฐที่สั่งฆ่าประชาชน
กำลังโหลดความคิดเห็น