ผู้รอบรู้คนสำคัญของฝ่ายขวาผู้หนึ่ง เพิ่งออกมาเรียกร้องให้สหรัฐฯถอนกำลังทหารออกจากอัฟกานิสถาน มันคือสัญญาณล่าสุดที่สะท้อนให้เห็นข้อเท็จจริงที่ว่า ในประเทศสหรัฐฯ ผู้คนกำลังหมดความสนใจลงไปเรื่อยๆ กับสงครามในสมรภูมิแห่งนั้น
ในข้อเขียนของเขาประจำฉบับวันอังคาร(1)ที่ผ่านมา จอร์จ เอฟ วิลล์ คอลัมนิสต์ของหนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์ ตั้งชื่อเรื่องเอาไว้อย่างตรงไปตรงมาว่า "Time to Get Out of Afghanistan" (ถึงเวลาที่จะถอนตัวจากอัฟกานิสถานแล้ว) และก็ถูกพวกนักวิเคราะห์ข่าวสายเหยี่ยวรุมโจมตีเอาอย่างหนักหน่วง
ถึงแม้ในระยะหลังๆ มานี้ มีผู้คนจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ ที่ตั้งคำถามเอากับเส้นทางการทำสงครามในอัฟกานิสถาน แต่สิ่งที่วิลล์เขียนเอาไว้ในคอลัมน์คราวนี้ก็ถือว่าโดดเด่นเตะตาเป็นพิเศษอยู่ดี เพราะมันมาจากเสาหลักเสาหนึ่งของสื่อมวลชนฝ่ายขวาอันทรงอำนาจอิทธิพลในกรุงวอชิงตัน และทำให้เสียงเรียกร้องให้ถอนทหารของเขา ยากยิ่งที่จะปฏิเสธไม่รับฟังโดยเพียงระบุว่าเป็นผลิตผลของอารมณ์ต่อต้านสงครามแบบเสรีนิยมเท่านั้น
อันที่จริง เสียงสนับสนุนสงครามคราวนี้ในหมู่สาธารณชนชาวอเมริกันก็กำลังลดฮวบฮาบในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา โดยตามผลการสำรวจหยั่งเสียงในเดือนสิงหาคมของวอชิงตันโพสต์-เอบีซีนิวส์ ผู้ตอบคำถามถึง 51% ทีเดียวเชื่อว่าไม่คุ้มค่าที่จะสู้รบในสงครามนี้
การเรียกร้องของวิลล์ที่ให้สหรัฐฯถอนทหารออกมา บังเกิดขึ้นในช่วงจังหวะเวลาที่คณะรัฐบาลบารัค โอบามา ดูเหมือนกำลังเอนเอียงไปในทางที่จะไต่บันไดเพิ่มความพยายามทำสงครามให้เข้มข้นขึ้นกว่าเดิม
ทั้งนี้ตามรายงานข่าวของสื่อมวลชน เมื่อวันจันทร์(31ก.ค.) พล.อ.สแตนลีย์ แมคคริสตัล ผู้บัญชาการทหารสหรัฐฯในอัฟกานิสถาน ได้เสนอรายงานลับประเมินสงครามคราวนี้ โดยที่มีข้อเรียกร้องให้ปรับเปลี่ยนยุทธศาสตร์ทางภาคพื้นดินกันเสียใหม่ รายงานฉบับนี้ของแมคคริสตัล เป็นที่จับตามองกันอย่างกว้างขวางว่าเป็นการปูพื้นให้แก่การเพิ่มทหารสหรัฐฯเข้าไปในอัฟกานิสถาน เพื่อสมทบกับจำนวน 68,000 คนที่ประจำการอยู่ที่นั่นแล้วในเวลานี้
แต่วิลล์กลับกำลังเสนอให้ทำสิ่งตรงกันข้าม โดยเรียกร้องให้ "เร่งพลิกกลับเส้นทางโคจรของการเข้าไปพัวพันอยู่ในอัฟกานิสถานของอเมริกา" ด้วยการลดกำลังทหารลงเป็นจำนวนมาก
วิลล์บอกว่าแทนที่จะใช้ความพยายามอย่างเต็มที่เพื่อกระทำสิ่งที่เป็นภารกิจแห่งการสร้างชาติ (nation-building) ซึ่งเขาตีตราว่าเป็นภารกิจที่ "เป็นไปไม่ได้" เขาเสนอว่าควรที่จะดำเนินยุทธศาสตร์อีกอย่างหนึ่งมากกว่า นั่นคือ "อเมริกาควรกระทำแค่สิ่งที่สามารถกระทำได้ลักษณะที่ตัวเองอยู่นอกชายฝั่งไม่ต้องขึ้นไปบนบก ด้วยการพึ่งพาอาศัยข่าวกรอง, เครื่องบินแบบไร้นักบิน, ขีปนาวุธลาดตระเวน, การโจมตีทางอากาศ, และทหารรบพิเศษหน่วยเล็กๆแต่ทรงประสิทธิภาพ" เข้าทำการโจมตีพวกอัลกออิดะห์และกลุ่มผู้ก่อการร้ายกลุ่มอื่นๆ
เขาอ้างรายงานประมาณการที่ระบุว่า รัฐบาลอัฟกันสามารถควบคุมพื้นที่ได้เพียงแค่หนึ่งในสามของประเทศ และเขียนเย้ยหยันความพยายามที่จะกำจัดการค้าฝิ่นในอัฟกานิสถานว่าเป็น "ปฏิบัติการซิสซิฟัส" (Operation Sisyphus) ตามชื่อของ "ซิสซิฟัส" ตัวละครตัวหนึ่งในเทพนิยายกรีก ผู้ถูกสาปให้ผลักก้อนหินยักษ์ขึ้นภูเขา แต่พอใกล้จะถึงยอดเขา ก้อนหินก็จะไหลกลิ้งลงมาอีก เขาจึงจะต้องทำงานที่ไม่มีวันสำเร็จนี้ไปตลอดกาล
แน่นอนทีเดียวว่า วิลล์มิได้เป็นบุคคลสำคัญเพียงคนเดียวที่ตั้งคำถามเอากับความพยายามกระทำภารกิจการสร้างชาติอย่างไม่มีกำหนดสิ้นสุดและยกระดับมากขึ้นเรื่อยๆ ในอัฟกานิสถาน
ตัวอย่างเช่น เมื่อวันศุกร์(28ก.ค.) วุฒิสมาชิกสหรัฐฯ รัสส์ เฟนโกลด์ แห่งมลรัฐวิสคอนซิน สังกัดพรรคเดโมแครต ก็ได้เรียกร้องให้โอบามากำหนดตารางเวลาสำหรับการถอนทหารออกจากอัฟกานิสถาน ในข้อเขียนซึ่งตีพิมพ์ในหน้าบทความของหนังสือพิมพ์วอลล์สตรีทเจอร์นัล
ทว่าพวกสายเหยี่ยวชมชอบที่จะวาดภาพพวกตั้งข้อสงสัยกับการทำสงครามทั้งหลาย ว่าเป็นคนแบบเฟนโกลด์ นั่นคือมีหัวเสรีนิยมและเป็นสายพิราบจ๋องๆ หงอๆ ฝ่ายสายเหยี่ยวพยายามนักหนาที่จะเสนอแนะว่า การคัดค้านสงครามคือปรากฏการณ์ของพวกฝ่ายซ้ายแทบจะเพียงพวกเดียวเท่านั้น
แต่การที่วิลล์หันกลับมาคัดค้านสงครามคราวนี้ ยังบังเกิดขึ้นภายหลังผลการหยั่งเสียงในช่วงหลังๆ นี้ต่างแสดงให้เห็นว่า พลเมืองสหรัฐฯส่วนข้างมากกำลังไม่เห็นด้วยกับสงครามในอัฟกานิสถาน ดังนั้นจึงยิ่งเป็นการตอกย้ำว่า ความไม่พอใจในเรื่องนี้ไม่ได้จำกัดอยู่แต่เฉพาะฝ่ายซ้ายเลย
เวลานี้โอบามากำลังเผชิญกับการตัดสินอันยากลำบาก โดยในด้านหนึ่งเขาถูกพวกสายเหยี่ยวเรียกร้องให้เพิ่มกำลังทหารและเพิ่มทรัพยากรเข้าไปในอัฟกานิสถาน แต่ในอีกด้านหนึ่งสาธารณชนทั่วไปก็กำลังให้การสนับสนุนสงครามคราวนี้ลดน้อยลงเรื่อยๆ
การเลือกตั้งประธานาธิบดีอัฟกานิสถานในวันที่ 20 สงหาคม ซึ่งมัวหมองเนื่องจากเสียงกล่าวหาเรื่องการทุจริตโกงการเลือกตั้งอย่างอึงคะนึงนั้น ก็ไม่ได้ช่วยทำอะไรให้สาธารณชนอเมริกันเกิดความเชื่อมั่นมากขึ้นเลย
เจ้าหน้าที่สหรัฐฯระดับท็อปหลายคน ออกมาเรียกร้องพวกที่ยังระแวงสงสัย ให้เวลาแก่ พล.อ.แมคคริสตัล 12 - 18 เดือน ในการปฏิบัติตามยุทธศาสตร์ใหม่ของเขา
แต่ดังที่การโต้แย้งอันดุเดือดสืบเนื่องจากข้อเขียนในคอลัมน์ของวิลล์ได้ชี้ให้เห็นแล้ว เวลานี้ในสหรัฐฯดูเหมือนแทบไม่เหลือความอดทนใดๆ สำหรับความพยายามทำสงครามที่ทำท่ายืดเยื้อไม่จบสิ้นและเสียค่าใช้จ่ายแพงลิ่ว ในกรุงวอชิงตัน นาฬิกาทางการเมืองกำลังดังติ๊กๆ เวลาสำหรับสงครามในอัฟกานิสถานกำลังลดฮวบหดหายลงทุกทีแล้ว
(เก็บความและตัดทอนจากเรื่อง Washington's Afghan clock ticking
ของ Daniel Luban แห่งสำนักข่าวอินเตอร์เพรสเซอร์วิส)
ในข้อเขียนของเขาประจำฉบับวันอังคาร(1)ที่ผ่านมา จอร์จ เอฟ วิลล์ คอลัมนิสต์ของหนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์ ตั้งชื่อเรื่องเอาไว้อย่างตรงไปตรงมาว่า "Time to Get Out of Afghanistan" (ถึงเวลาที่จะถอนตัวจากอัฟกานิสถานแล้ว) และก็ถูกพวกนักวิเคราะห์ข่าวสายเหยี่ยวรุมโจมตีเอาอย่างหนักหน่วง
ถึงแม้ในระยะหลังๆ มานี้ มีผู้คนจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ ที่ตั้งคำถามเอากับเส้นทางการทำสงครามในอัฟกานิสถาน แต่สิ่งที่วิลล์เขียนเอาไว้ในคอลัมน์คราวนี้ก็ถือว่าโดดเด่นเตะตาเป็นพิเศษอยู่ดี เพราะมันมาจากเสาหลักเสาหนึ่งของสื่อมวลชนฝ่ายขวาอันทรงอำนาจอิทธิพลในกรุงวอชิงตัน และทำให้เสียงเรียกร้องให้ถอนทหารของเขา ยากยิ่งที่จะปฏิเสธไม่รับฟังโดยเพียงระบุว่าเป็นผลิตผลของอารมณ์ต่อต้านสงครามแบบเสรีนิยมเท่านั้น
อันที่จริง เสียงสนับสนุนสงครามคราวนี้ในหมู่สาธารณชนชาวอเมริกันก็กำลังลดฮวบฮาบในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา โดยตามผลการสำรวจหยั่งเสียงในเดือนสิงหาคมของวอชิงตันโพสต์-เอบีซีนิวส์ ผู้ตอบคำถามถึง 51% ทีเดียวเชื่อว่าไม่คุ้มค่าที่จะสู้รบในสงครามนี้
การเรียกร้องของวิลล์ที่ให้สหรัฐฯถอนทหารออกมา บังเกิดขึ้นในช่วงจังหวะเวลาที่คณะรัฐบาลบารัค โอบามา ดูเหมือนกำลังเอนเอียงไปในทางที่จะไต่บันไดเพิ่มความพยายามทำสงครามให้เข้มข้นขึ้นกว่าเดิม
ทั้งนี้ตามรายงานข่าวของสื่อมวลชน เมื่อวันจันทร์(31ก.ค.) พล.อ.สแตนลีย์ แมคคริสตัล ผู้บัญชาการทหารสหรัฐฯในอัฟกานิสถาน ได้เสนอรายงานลับประเมินสงครามคราวนี้ โดยที่มีข้อเรียกร้องให้ปรับเปลี่ยนยุทธศาสตร์ทางภาคพื้นดินกันเสียใหม่ รายงานฉบับนี้ของแมคคริสตัล เป็นที่จับตามองกันอย่างกว้างขวางว่าเป็นการปูพื้นให้แก่การเพิ่มทหารสหรัฐฯเข้าไปในอัฟกานิสถาน เพื่อสมทบกับจำนวน 68,000 คนที่ประจำการอยู่ที่นั่นแล้วในเวลานี้
แต่วิลล์กลับกำลังเสนอให้ทำสิ่งตรงกันข้าม โดยเรียกร้องให้ "เร่งพลิกกลับเส้นทางโคจรของการเข้าไปพัวพันอยู่ในอัฟกานิสถานของอเมริกา" ด้วยการลดกำลังทหารลงเป็นจำนวนมาก
วิลล์บอกว่าแทนที่จะใช้ความพยายามอย่างเต็มที่เพื่อกระทำสิ่งที่เป็นภารกิจแห่งการสร้างชาติ (nation-building) ซึ่งเขาตีตราว่าเป็นภารกิจที่ "เป็นไปไม่ได้" เขาเสนอว่าควรที่จะดำเนินยุทธศาสตร์อีกอย่างหนึ่งมากกว่า นั่นคือ "อเมริกาควรกระทำแค่สิ่งที่สามารถกระทำได้ลักษณะที่ตัวเองอยู่นอกชายฝั่งไม่ต้องขึ้นไปบนบก ด้วยการพึ่งพาอาศัยข่าวกรอง, เครื่องบินแบบไร้นักบิน, ขีปนาวุธลาดตระเวน, การโจมตีทางอากาศ, และทหารรบพิเศษหน่วยเล็กๆแต่ทรงประสิทธิภาพ" เข้าทำการโจมตีพวกอัลกออิดะห์และกลุ่มผู้ก่อการร้ายกลุ่มอื่นๆ
เขาอ้างรายงานประมาณการที่ระบุว่า รัฐบาลอัฟกันสามารถควบคุมพื้นที่ได้เพียงแค่หนึ่งในสามของประเทศ และเขียนเย้ยหยันความพยายามที่จะกำจัดการค้าฝิ่นในอัฟกานิสถานว่าเป็น "ปฏิบัติการซิสซิฟัส" (Operation Sisyphus) ตามชื่อของ "ซิสซิฟัส" ตัวละครตัวหนึ่งในเทพนิยายกรีก ผู้ถูกสาปให้ผลักก้อนหินยักษ์ขึ้นภูเขา แต่พอใกล้จะถึงยอดเขา ก้อนหินก็จะไหลกลิ้งลงมาอีก เขาจึงจะต้องทำงานที่ไม่มีวันสำเร็จนี้ไปตลอดกาล
แน่นอนทีเดียวว่า วิลล์มิได้เป็นบุคคลสำคัญเพียงคนเดียวที่ตั้งคำถามเอากับความพยายามกระทำภารกิจการสร้างชาติอย่างไม่มีกำหนดสิ้นสุดและยกระดับมากขึ้นเรื่อยๆ ในอัฟกานิสถาน
ตัวอย่างเช่น เมื่อวันศุกร์(28ก.ค.) วุฒิสมาชิกสหรัฐฯ รัสส์ เฟนโกลด์ แห่งมลรัฐวิสคอนซิน สังกัดพรรคเดโมแครต ก็ได้เรียกร้องให้โอบามากำหนดตารางเวลาสำหรับการถอนทหารออกจากอัฟกานิสถาน ในข้อเขียนซึ่งตีพิมพ์ในหน้าบทความของหนังสือพิมพ์วอลล์สตรีทเจอร์นัล
ทว่าพวกสายเหยี่ยวชมชอบที่จะวาดภาพพวกตั้งข้อสงสัยกับการทำสงครามทั้งหลาย ว่าเป็นคนแบบเฟนโกลด์ นั่นคือมีหัวเสรีนิยมและเป็นสายพิราบจ๋องๆ หงอๆ ฝ่ายสายเหยี่ยวพยายามนักหนาที่จะเสนอแนะว่า การคัดค้านสงครามคือปรากฏการณ์ของพวกฝ่ายซ้ายแทบจะเพียงพวกเดียวเท่านั้น
แต่การที่วิลล์หันกลับมาคัดค้านสงครามคราวนี้ ยังบังเกิดขึ้นภายหลังผลการหยั่งเสียงในช่วงหลังๆ นี้ต่างแสดงให้เห็นว่า พลเมืองสหรัฐฯส่วนข้างมากกำลังไม่เห็นด้วยกับสงครามในอัฟกานิสถาน ดังนั้นจึงยิ่งเป็นการตอกย้ำว่า ความไม่พอใจในเรื่องนี้ไม่ได้จำกัดอยู่แต่เฉพาะฝ่ายซ้ายเลย
เวลานี้โอบามากำลังเผชิญกับการตัดสินอันยากลำบาก โดยในด้านหนึ่งเขาถูกพวกสายเหยี่ยวเรียกร้องให้เพิ่มกำลังทหารและเพิ่มทรัพยากรเข้าไปในอัฟกานิสถาน แต่ในอีกด้านหนึ่งสาธารณชนทั่วไปก็กำลังให้การสนับสนุนสงครามคราวนี้ลดน้อยลงเรื่อยๆ
การเลือกตั้งประธานาธิบดีอัฟกานิสถานในวันที่ 20 สงหาคม ซึ่งมัวหมองเนื่องจากเสียงกล่าวหาเรื่องการทุจริตโกงการเลือกตั้งอย่างอึงคะนึงนั้น ก็ไม่ได้ช่วยทำอะไรให้สาธารณชนอเมริกันเกิดความเชื่อมั่นมากขึ้นเลย
เจ้าหน้าที่สหรัฐฯระดับท็อปหลายคน ออกมาเรียกร้องพวกที่ยังระแวงสงสัย ให้เวลาแก่ พล.อ.แมคคริสตัล 12 - 18 เดือน ในการปฏิบัติตามยุทธศาสตร์ใหม่ของเขา
แต่ดังที่การโต้แย้งอันดุเดือดสืบเนื่องจากข้อเขียนในคอลัมน์ของวิลล์ได้ชี้ให้เห็นแล้ว เวลานี้ในสหรัฐฯดูเหมือนแทบไม่เหลือความอดทนใดๆ สำหรับความพยายามทำสงครามที่ทำท่ายืดเยื้อไม่จบสิ้นและเสียค่าใช้จ่ายแพงลิ่ว ในกรุงวอชิงตัน นาฬิกาทางการเมืองกำลังดังติ๊กๆ เวลาสำหรับสงครามในอัฟกานิสถานกำลังลดฮวบหดหายลงทุกทีแล้ว
(เก็บความและตัดทอนจากเรื่อง Washington's Afghan clock ticking
ของ Daniel Luban แห่งสำนักข่าวอินเตอร์เพรสเซอร์วิส)