00 ไม่รู้ว่าใครจงใจปล่อยข่าวพรรคประชาธิปัตย์จะร่วมกันจัดตั้งรัฐบาลใหม่กับพรรคเพื่อไทย ด้วยวัตถุประสงค์อะไร ทั้งที่ในความเป็นจริงนั้น เป็นไปไม่ได้ หรือถ้าเกิด “บ้า” ขึ้นมาแล้วมันเป็นจริง รัฐบาลผสมที่ว่านั้นมันก็จะพังตั้งแต่ไม่เกิด และจะพังกันทั้งประชาธิปัตย์ และพรรคเพื่อไทย เพราะชาวบ้านเขาไม่โง่ และไม่ยอมหรอก จะร่วมกันสหบาทาถีบจนตกเวทีหายไปเลย
00 อย่างไรก็ตาม ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ แต่อาจจะออกมาในรูปของ “งูเห่า” ในพรรคเพื่อไทยแล้วกระโดดมายกมือให้รัฐบาล ทั้งที่ตัวยังอยู่พรรคเดิมเหมือนกับลักษณะของ จุมภฎ บุญใหญ่ ส.ส.สกลนคร ที่เวลานี้ตัวไปยืนอยู่กับ “เพื่อนเนวิน” ที่พรรคภูมิใจไทยเรียบร้อยแล้ว ถ้าออกรูปนี้ก็อาจจะเป็นไปได้บ้าง แต่สรุปว่า เป็นข่าวปล่อยที่ไร้สาระ และ“ปัญญาอ่อน” สิ้นดี
00 แต่ถ้ามองในมุมของการ “เสี้ยม” ให้เกิดความระแวงระหว่างพรรคร่วมรัฐบาล คือ พรรคประชาธิปัตย์กับ ภูมิใจไทย นั้นก็อีกเรื่องหนึ่ง แต่คิดหรือว่า แค่ข่าวหรือ ตรรกะกระจอกๆ แบบนี้จะทำให้ “จอมเขี้ยว” ทางการเมืองหลงเชื่อได้
00 นี่ซิน่าสนใจกว่ากับความตื่นตัวร่วมกันไปแล้ว ว่าวันที่ 19 กันยายน จะเป็นวันที่ “คนของทักษิณ” จะนำมาเป็นเหตุผลในการชุมนุมขับไล่รัฐบาล หรือบีบให้ยุบสภา หรือแม้กระทั่งการฉกฉวยมาสร้างกระแสให้เกิดความวุ่นวาย สร้างอารมณ์ร่วมให้เกิดการ “แตกหัก” ในวันนั้น
00 มีคนกังวลไม่น้อยว่า ในช่วงเวลาประจวบเหมาะที่ นายกฯอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ มีความจำเป็นต้องเดินทางไปปราศรัยที่ยูเอ็น จะเกิดเหตุการณ์ซ้ำรอย “แม้ว” เมื่อ 3 ปีก่อนหรือไม่ แต่หลายคนกลับมั่นใจว่า “เงื่อนไข” มันต่างกัน ที่สำคัญเชื่อว่าคงไม่มี “ขุนทหาร” คนไหนจะกล้าฆ่าตัวตาย โดยการทำรัฐประหารในสถานการณ์แบบนี้ อีกทั้งยังมองไม่เห็น“น้ำยา” สักคน
00 เพราะแม้ว่าจะทำได้สำเร็จ แต่ต้องอธิบายกับชาวโลก หรือรักษาอำนาจ นี่ซิหนักกว่า ดังนั้นหนทางที่มี ก็อาจจะมีการสร้างกระแสให้เกิดความปั่นป่วนขึ้นมา แต่เมื่อเกิดกรณี “คลิปฉาว” แดงออกมาก่อนกำหนด มันก็ทำให้ “ลดดีกรี” ลงไปได้มาก แต่ก็อย่าประมาท “รู้ทันเกม” เอาไว้เป็นดีที่สุด
00 สาเหตุที่ “แม้ว” และเครือข่ายจ้องป่วนก็น่าจะมาจากการดิ้นรนเฮือกสุดท้าย เพราะถ้าปล่อยให้ “มาร์ค” ลากยาวไปถึงปีหน้า เชื่อว่าทุกอย่างน่าจะเปลี่ยนไปจากหน้ามือเป็นหลังมือ ทั้งเศรษฐกิจ และการเมืองทำท่าจะเป็นบวกหมด เพราะคงไม่มีคนไทยคนไหนจะมาทนนั่งตากแดดตากฝนสู้ให้ “เศรษฐี” เหมืองเพชร เหมืองทองไปตลอดชาติหรอก มันต้องมีวันเบื่อกันมั่ง นี่แหละคือที่มาของแผนเร่งเผด็จศึกภายใน 3 เดือน !!
00 อย่างไรก็ตาม ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ แต่อาจจะออกมาในรูปของ “งูเห่า” ในพรรคเพื่อไทยแล้วกระโดดมายกมือให้รัฐบาล ทั้งที่ตัวยังอยู่พรรคเดิมเหมือนกับลักษณะของ จุมภฎ บุญใหญ่ ส.ส.สกลนคร ที่เวลานี้ตัวไปยืนอยู่กับ “เพื่อนเนวิน” ที่พรรคภูมิใจไทยเรียบร้อยแล้ว ถ้าออกรูปนี้ก็อาจจะเป็นไปได้บ้าง แต่สรุปว่า เป็นข่าวปล่อยที่ไร้สาระ และ“ปัญญาอ่อน” สิ้นดี
00 แต่ถ้ามองในมุมของการ “เสี้ยม” ให้เกิดความระแวงระหว่างพรรคร่วมรัฐบาล คือ พรรคประชาธิปัตย์กับ ภูมิใจไทย นั้นก็อีกเรื่องหนึ่ง แต่คิดหรือว่า แค่ข่าวหรือ ตรรกะกระจอกๆ แบบนี้จะทำให้ “จอมเขี้ยว” ทางการเมืองหลงเชื่อได้
00 นี่ซิน่าสนใจกว่ากับความตื่นตัวร่วมกันไปแล้ว ว่าวันที่ 19 กันยายน จะเป็นวันที่ “คนของทักษิณ” จะนำมาเป็นเหตุผลในการชุมนุมขับไล่รัฐบาล หรือบีบให้ยุบสภา หรือแม้กระทั่งการฉกฉวยมาสร้างกระแสให้เกิดความวุ่นวาย สร้างอารมณ์ร่วมให้เกิดการ “แตกหัก” ในวันนั้น
00 มีคนกังวลไม่น้อยว่า ในช่วงเวลาประจวบเหมาะที่ นายกฯอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ มีความจำเป็นต้องเดินทางไปปราศรัยที่ยูเอ็น จะเกิดเหตุการณ์ซ้ำรอย “แม้ว” เมื่อ 3 ปีก่อนหรือไม่ แต่หลายคนกลับมั่นใจว่า “เงื่อนไข” มันต่างกัน ที่สำคัญเชื่อว่าคงไม่มี “ขุนทหาร” คนไหนจะกล้าฆ่าตัวตาย โดยการทำรัฐประหารในสถานการณ์แบบนี้ อีกทั้งยังมองไม่เห็น“น้ำยา” สักคน
00 เพราะแม้ว่าจะทำได้สำเร็จ แต่ต้องอธิบายกับชาวโลก หรือรักษาอำนาจ นี่ซิหนักกว่า ดังนั้นหนทางที่มี ก็อาจจะมีการสร้างกระแสให้เกิดความปั่นป่วนขึ้นมา แต่เมื่อเกิดกรณี “คลิปฉาว” แดงออกมาก่อนกำหนด มันก็ทำให้ “ลดดีกรี” ลงไปได้มาก แต่ก็อย่าประมาท “รู้ทันเกม” เอาไว้เป็นดีที่สุด
00 สาเหตุที่ “แม้ว” และเครือข่ายจ้องป่วนก็น่าจะมาจากการดิ้นรนเฮือกสุดท้าย เพราะถ้าปล่อยให้ “มาร์ค” ลากยาวไปถึงปีหน้า เชื่อว่าทุกอย่างน่าจะเปลี่ยนไปจากหน้ามือเป็นหลังมือ ทั้งเศรษฐกิจ และการเมืองทำท่าจะเป็นบวกหมด เพราะคงไม่มีคนไทยคนไหนจะมาทนนั่งตากแดดตากฝนสู้ให้ “เศรษฐี” เหมืองเพชร เหมืองทองไปตลอดชาติหรอก มันต้องมีวันเบื่อกันมั่ง นี่แหละคือที่มาของแผนเร่งเผด็จศึกภายใน 3 เดือน !!
