นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย ในฐานะแกนนำ กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งขาติ (นปช.) หรือกลุ่มคนเสื้อแดง กล่าวถึงกรณีที่นายสุรชัย ด่านวัฒนานุสรณ์ อดีตแกนนำ นปช. ที่แยกตัวไปตั้งกลุ่มสยามแดง เพราะไม่พอใจบทบาทการนำของนายจตุพร นายวีระ มุสิกพงษ์ และนายณัฐวุฒิ ใสเกื้อ ที่ออกระบุว่า 3 เกลอได้เดินทางไปพบกับนายเนวิน ชิดชอบ แกนนำพรรคภูมิใจไทยว่า นับจากนี้กลุ่มตนและกลุ่มสยามแดงของนายสุรชัยคงจะขาดจากความเป็นเพื่อน เพราะสิ่งที่นายสุรชัยพูดเป็นความเท็จทั้งสิ้น
ถ้าผมนิ่งเฉยประชาชนก็จะคิดว่าเป็นความจริงจึงต้องชี้แจง ถ้านายสุรชัยเป็นมิตรจริงก็ไม่ควรนำความเท็จขึ้นมากล่าวเพราะจะทำให้ศัตรูนำข้อมูลมาใส่ร้าย พวกเราได้ ไม่ทราบว่าสมัยนายสุรชัยอยู่พรรคคอมมิวนิสต์เขาเคยสอนหรือไม่ สมัยพวกผมรณรงค์ล่าชื่อถวายฎีกานายสุรชัยก็พูดผ่านสื่อคัดค้าน ครั้นพอผมชุมนุมที่สนามหลวงเพื่อเตรียมยื่นถวายฎีกานายสุรชัยก็จะมาขอขึ้นเวทีปราศรัย ถามว่าอย่างนี้จะเรียกว่าเป็นคอมมิวนิสต์ตลบแตลงได้หรือไม่
นายจตุพร อ้างว่าตั้งแต่นายเนวินทรยศต่อพ.ต.ท.ทักษิณพวกตนก็ไม่เคยพบ นายเนวินอีกเลย และที่นายสุรชัยกล่าวหาว่าพวกตนต่อสู้เพื่อหวังเป็นรัฐมนตรีนั้นขอเรียนว่า เวลานี้ตนเป็น ส.ส. อนาคตทางการเมืองต่อไปจะเป็นอะไรก็ไม่ทราบได้ ขณะที่นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำกลุ่ม นปช.อีกคนนั้น แม้จะมีการเลือกตั้งวันนี้และได้เป็นส.ส.แต่ก็เป็นรัฐมนตรีไม่ได้เพราะอายุไม่ถึง แต่นายสุรชัยลงสมัครเลือกตั้งส.ส. ได้คะแนนเพียงเก้าพันกว่าคะแนน ขณะที่ผู้ชนะได้เป็นแสนคะแนน
ผม 3 คนหารือกันแล้วเห็นว่า ถ้าศัตรูโจมตีด่าว่าก็จะไม่โกรธเท่าบุคคล ที่เคยเป็นมิตรมาทำร้ายกันเช่นนี้ เพราะฉะนั้นต่างคนต่างอยู่ ต่อไปถ้านายสุรชัยพาดพิงอะไรพวกผมอีกก็จำเป็นต้องให้ฝ่ายกฏหมายฟ้องร้อง
นายจตุพร กล่าวว่า สำหรับนายจักรภพ เพ็ญแข ที่ระบุว่าพวกเราเรียกระดมประชาชนเพราะหวังผลประโยชน์บางอย่างนั้น ตนก็ไม่อยากพูด แต่ขณะที่เราชุมนุม ที่หน้าทำเนียบรัฐบาล นายจักรภพเผ่นหนีโดยไม่บอกเพื่อนเลย ไปก่อนที่รัฐบาลจะประกาศ พ.ร.ก.สถานการณ์ฉุกเฉินเสียด้วยซ้ำ และเรื่องนี้เราไม่เคยห่วง พ.ต.ท.ทักษิณ เพราะท่านเข้าใจดีเรื่องระหว่างกลุ่มเรากับกลุ่มนายจักรภพ
สำหรับการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงนั้นจะมีคนมาร่วมเท่าไหร่ก็ไม่ใช่เรื่องที่ กลุ่มสยามแดงต้องมากังวลแทน ไม่มีคน ตน 3 คนกลับบ้าน ก็เท่านั้น
ถ้าผมนิ่งเฉยประชาชนก็จะคิดว่าเป็นความจริงจึงต้องชี้แจง ถ้านายสุรชัยเป็นมิตรจริงก็ไม่ควรนำความเท็จขึ้นมากล่าวเพราะจะทำให้ศัตรูนำข้อมูลมาใส่ร้าย พวกเราได้ ไม่ทราบว่าสมัยนายสุรชัยอยู่พรรคคอมมิวนิสต์เขาเคยสอนหรือไม่ สมัยพวกผมรณรงค์ล่าชื่อถวายฎีกานายสุรชัยก็พูดผ่านสื่อคัดค้าน ครั้นพอผมชุมนุมที่สนามหลวงเพื่อเตรียมยื่นถวายฎีกานายสุรชัยก็จะมาขอขึ้นเวทีปราศรัย ถามว่าอย่างนี้จะเรียกว่าเป็นคอมมิวนิสต์ตลบแตลงได้หรือไม่
นายจตุพร อ้างว่าตั้งแต่นายเนวินทรยศต่อพ.ต.ท.ทักษิณพวกตนก็ไม่เคยพบ นายเนวินอีกเลย และที่นายสุรชัยกล่าวหาว่าพวกตนต่อสู้เพื่อหวังเป็นรัฐมนตรีนั้นขอเรียนว่า เวลานี้ตนเป็น ส.ส. อนาคตทางการเมืองต่อไปจะเป็นอะไรก็ไม่ทราบได้ ขณะที่นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำกลุ่ม นปช.อีกคนนั้น แม้จะมีการเลือกตั้งวันนี้และได้เป็นส.ส.แต่ก็เป็นรัฐมนตรีไม่ได้เพราะอายุไม่ถึง แต่นายสุรชัยลงสมัครเลือกตั้งส.ส. ได้คะแนนเพียงเก้าพันกว่าคะแนน ขณะที่ผู้ชนะได้เป็นแสนคะแนน
ผม 3 คนหารือกันแล้วเห็นว่า ถ้าศัตรูโจมตีด่าว่าก็จะไม่โกรธเท่าบุคคล ที่เคยเป็นมิตรมาทำร้ายกันเช่นนี้ เพราะฉะนั้นต่างคนต่างอยู่ ต่อไปถ้านายสุรชัยพาดพิงอะไรพวกผมอีกก็จำเป็นต้องให้ฝ่ายกฏหมายฟ้องร้อง
นายจตุพร กล่าวว่า สำหรับนายจักรภพ เพ็ญแข ที่ระบุว่าพวกเราเรียกระดมประชาชนเพราะหวังผลประโยชน์บางอย่างนั้น ตนก็ไม่อยากพูด แต่ขณะที่เราชุมนุม ที่หน้าทำเนียบรัฐบาล นายจักรภพเผ่นหนีโดยไม่บอกเพื่อนเลย ไปก่อนที่รัฐบาลจะประกาศ พ.ร.ก.สถานการณ์ฉุกเฉินเสียด้วยซ้ำ และเรื่องนี้เราไม่เคยห่วง พ.ต.ท.ทักษิณ เพราะท่านเข้าใจดีเรื่องระหว่างกลุ่มเรากับกลุ่มนายจักรภพ
สำหรับการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงนั้นจะมีคนมาร่วมเท่าไหร่ก็ไม่ใช่เรื่องที่ กลุ่มสยามแดงต้องมากังวลแทน ไม่มีคน ตน 3 คนกลับบ้าน ก็เท่านั้น
