เอเอฟพี/เอเจนซี- สถานการณ์ไฟป่าในมลรัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐฯ ซึ่งเข้าสู่วันที่ 6 วานนี้ (1) ยิ่งน่าเป็นห่วง หลังจากไฟเริ่มลุกลามเข้าใกล้พื้นที่ชานเมืองทางตอนเหนือของนครลอส แอลเจลิส และเผาผลาญพื้นที่ไปแล้วกว่า 262,500 ไร่ ขณะที่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงระบุอาจต้องใช้เวลามากกว่า 8 วันในการควบคุมเพลิง
ไฟป่ายังลุกลามอย่างต่อเนื่องในเขตภูเขาหลายแห่งในมลรัฐแคลิฟอร์เนียโดยเฉพาะบริเวณภูเขาวิลสัน ขณะเดียวกันไฟป่ายังได้ลุกลามเข้าใกล้พื้นที่ชานเมืองทางตอนเหนือของลอส แองเจลิส ซึ่งบริเวณนั้นเป็นที่ตั้งสถานีควบคุมสัญญาณวิทยุและโทรทัศน์ รวมทั้ง หอดูดาวเก่าแก่
ไมค์ ดีทริช ผู้บัญชาการสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยของมลรัฐแคลิฟอร์เนีย เปิดเผยว่ามีบ้านเรือนประชาชนถูกเผาวอดไปแล้วอย่างน้อย71หลัง ตั้งแต่ที่ไฟป่าระลอกนี้เกิดขึ้นเมื่อวันพุธ (26)โดยในจำนวนนี้เป็นบ้านซึ่งตั้งอยู่ในเขตลา เกรสเซ็นตา ใกล้กับชานเมืองทางตอนเหนือของลอส แองเจลิส 53 หลัง
ดีทริชระบุว่า มีประชาชนราว 6,300 ครอบครัวที่ต้องอพยพออกนอกพื้นที่หลังเจ้าหน้าที่ดับเพลิงยังไม่สามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ และเจ้าหน้าที่บางส่วนจากทั้งหมด 2,600 คนต้องล่าถอยออกมาก่อน เนื่องจากไฟป่าลุกลามมากกว่าที่ประเมินไว้ แม้จะมีกำลังเจ้าหน้าที่ดับเพลิงจาก มลรัฐอื่นๆ เช่น มอนแทนาและไวโอมิงเดินทางมาสมทบเพิ่มเติมก็ตาม
ขณะเดียวกันมีรายงานว่า เวลานี้ไฟป่าได้เผาผลาญพื้นที่ไปแล้วกว่า 42,000 เฮกตาร์ (ราว 262,500 ไร่) ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วมากกว่าเท่าตัว จากที่เมื่อช่วงค่ำวันอาทิตย์ (30) เพิ่งมีพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายจากไฟป่าประมาณ 17,000 เฮกตาร์ (ราว 105,000 ไร่) ทำให้เกิดหมอกควันหนาทึบกระจายไปโดยรอบหลายกิโลเมตร
นอกจากนั้น ยังมีรายงานว่า ทีมกู้ภัยได้รับคำสั่งให้เตรียมพร้อมเข้าไปช่วยเหลือประชาชน กลุ่มหนึ่งซึ่งคาดว่ามี 5 คนที่ฝ่าฝืนคำสั่งอพยพของทางการจนติดอยู่ในวงล้อมของไฟป่าแล้ว แม้ว่าเพิ่งจะมีเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเสียชีวิตจากการถูกไฟคลอกไป 2 คนเมื่อวันอาทิตย์ (30)
ข้อมูลจากสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยมลรัฐแคลิฟอร์เนียระบุว่า ชุมชนหลายแห่งบริเวณพื้นที่เชิงเขา เช่น ที่เขตตูฮุงกา กำลังตกเป็นพื้นที่เสี่ยงเนื่องจากไฟป่าได้ลุกลามใกล้เข้ามา ขณะที่สำนักงานบริหารจัดการน้ำและพลังงานของนครลอส แองเจลิส ออกมาขอความร่วมมือให้ประชาชนช่วยกันควบคุมปริมาณการใช้ไฟฟ้าให้น้อยลง เนื่องจากมีความเป็นไปได้ที่เสาส่งไฟฟ้าขนาด 500 กิโลโวลต์ ทางตะวันออกเฉียงเหนือของเมืองแอคตัน อาจได้รับความเสียหายจากไฟป่าครั้งนี้
ด้านอาร์โนลด์ ชวาร์เซเนกเกอร์ ผู้ว่าการมลรัฐแคลิฟอร์เนียซึ่งไปตรวจความเสียหายจากไฟป่าที่เขตเพลเซอร์ เคาน์ตี ทางตะวันออกเฉียงเหนือของเมืองซาคราเมนโตระบุว่า ไฟป่าครั้งนี้รุนแรงมาก และยังลุกลามเข้าใกล้บ้านเรือนและสิ่งปลูกสร้างต่างๆอย่างรวดเร็ว โดยยังไม่สามารถควบคุมได้ พร้อมขอร้องให้ประชาชนเชื่อฟังและรีบอพยพทันทีที่ได้รับคำสั่งจากเจ้าหน้าที่
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ดับเพลิงคนหนึ่งเผยว่าขณะนี้สามารถควบคุมไฟป่าได้เพียงร้อยละ 5 เท่านั้นและต้องใช้เวลามากกว่า 8 วันจึงจะควบคุมเพลิงได้หมด แต่อากาศร้อนจัดในแคลิฟอร์เนียโดยเฉพาะในเขตหุบเขาซาน เกเบรียล ทางตะวันออกของนครลอส แองเจลิส ซึ่งมีอุณหภูมิเฉลี่ยสูงเกิน38 องศาเซลเซียส และบริเวณพื้นที่ป่าซึ่งเต็มไปด้วยใบไม้แห้งจำนวนมหาศาลที่เป็นเชื้อเพลิงอย่างดี อาจเป็นอุปสรรคสำคัญที่ทำให้เจ้าหน้าที่ไม่สามารถควบคุมไฟป่าได้ภายในวันที่ 8 กันยายน
ไฟป่ายังลุกลามอย่างต่อเนื่องในเขตภูเขาหลายแห่งในมลรัฐแคลิฟอร์เนียโดยเฉพาะบริเวณภูเขาวิลสัน ขณะเดียวกันไฟป่ายังได้ลุกลามเข้าใกล้พื้นที่ชานเมืองทางตอนเหนือของลอส แองเจลิส ซึ่งบริเวณนั้นเป็นที่ตั้งสถานีควบคุมสัญญาณวิทยุและโทรทัศน์ รวมทั้ง หอดูดาวเก่าแก่
ไมค์ ดีทริช ผู้บัญชาการสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยของมลรัฐแคลิฟอร์เนีย เปิดเผยว่ามีบ้านเรือนประชาชนถูกเผาวอดไปแล้วอย่างน้อย71หลัง ตั้งแต่ที่ไฟป่าระลอกนี้เกิดขึ้นเมื่อวันพุธ (26)โดยในจำนวนนี้เป็นบ้านซึ่งตั้งอยู่ในเขตลา เกรสเซ็นตา ใกล้กับชานเมืองทางตอนเหนือของลอส แองเจลิส 53 หลัง
ดีทริชระบุว่า มีประชาชนราว 6,300 ครอบครัวที่ต้องอพยพออกนอกพื้นที่หลังเจ้าหน้าที่ดับเพลิงยังไม่สามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ และเจ้าหน้าที่บางส่วนจากทั้งหมด 2,600 คนต้องล่าถอยออกมาก่อน เนื่องจากไฟป่าลุกลามมากกว่าที่ประเมินไว้ แม้จะมีกำลังเจ้าหน้าที่ดับเพลิงจาก มลรัฐอื่นๆ เช่น มอนแทนาและไวโอมิงเดินทางมาสมทบเพิ่มเติมก็ตาม
ขณะเดียวกันมีรายงานว่า เวลานี้ไฟป่าได้เผาผลาญพื้นที่ไปแล้วกว่า 42,000 เฮกตาร์ (ราว 262,500 ไร่) ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วมากกว่าเท่าตัว จากที่เมื่อช่วงค่ำวันอาทิตย์ (30) เพิ่งมีพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายจากไฟป่าประมาณ 17,000 เฮกตาร์ (ราว 105,000 ไร่) ทำให้เกิดหมอกควันหนาทึบกระจายไปโดยรอบหลายกิโลเมตร
นอกจากนั้น ยังมีรายงานว่า ทีมกู้ภัยได้รับคำสั่งให้เตรียมพร้อมเข้าไปช่วยเหลือประชาชน กลุ่มหนึ่งซึ่งคาดว่ามี 5 คนที่ฝ่าฝืนคำสั่งอพยพของทางการจนติดอยู่ในวงล้อมของไฟป่าแล้ว แม้ว่าเพิ่งจะมีเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเสียชีวิตจากการถูกไฟคลอกไป 2 คนเมื่อวันอาทิตย์ (30)
ข้อมูลจากสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยมลรัฐแคลิฟอร์เนียระบุว่า ชุมชนหลายแห่งบริเวณพื้นที่เชิงเขา เช่น ที่เขตตูฮุงกา กำลังตกเป็นพื้นที่เสี่ยงเนื่องจากไฟป่าได้ลุกลามใกล้เข้ามา ขณะที่สำนักงานบริหารจัดการน้ำและพลังงานของนครลอส แองเจลิส ออกมาขอความร่วมมือให้ประชาชนช่วยกันควบคุมปริมาณการใช้ไฟฟ้าให้น้อยลง เนื่องจากมีความเป็นไปได้ที่เสาส่งไฟฟ้าขนาด 500 กิโลโวลต์ ทางตะวันออกเฉียงเหนือของเมืองแอคตัน อาจได้รับความเสียหายจากไฟป่าครั้งนี้
ด้านอาร์โนลด์ ชวาร์เซเนกเกอร์ ผู้ว่าการมลรัฐแคลิฟอร์เนียซึ่งไปตรวจความเสียหายจากไฟป่าที่เขตเพลเซอร์ เคาน์ตี ทางตะวันออกเฉียงเหนือของเมืองซาคราเมนโตระบุว่า ไฟป่าครั้งนี้รุนแรงมาก และยังลุกลามเข้าใกล้บ้านเรือนและสิ่งปลูกสร้างต่างๆอย่างรวดเร็ว โดยยังไม่สามารถควบคุมได้ พร้อมขอร้องให้ประชาชนเชื่อฟังและรีบอพยพทันทีที่ได้รับคำสั่งจากเจ้าหน้าที่
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ดับเพลิงคนหนึ่งเผยว่าขณะนี้สามารถควบคุมไฟป่าได้เพียงร้อยละ 5 เท่านั้นและต้องใช้เวลามากกว่า 8 วันจึงจะควบคุมเพลิงได้หมด แต่อากาศร้อนจัดในแคลิฟอร์เนียโดยเฉพาะในเขตหุบเขาซาน เกเบรียล ทางตะวันออกของนครลอส แองเจลิส ซึ่งมีอุณหภูมิเฉลี่ยสูงเกิน38 องศาเซลเซียส และบริเวณพื้นที่ป่าซึ่งเต็มไปด้วยใบไม้แห้งจำนวนมหาศาลที่เป็นเชื้อเพลิงอย่างดี อาจเป็นอุปสรรคสำคัญที่ทำให้เจ้าหน้าที่ไม่สามารถควบคุมไฟป่าได้ภายในวันที่ 8 กันยายน
