ASTVผู้จัดการรายวัน - โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา คาดครึ่งปีโตจากครึ่งแรก 5% เหตุสัญญาณเศรษฐกิจฟื้นส่งผลให้ผู้บริโภคจับจ่ายใช้สอยยอดจองห้องพักเพิ่ม ธุรกิจอาหารโต ขณะ EBITDA ขยับ ประเมินรายได้ทั้งปีโตระดับ 2-3% เผยปี 53 เตรียมตั้งบริษัทรับบริหารหลังรายได้จากธุรกิจนี้สดใสและสร้างแบรนด์อาหารใหม่
นายรณชิต มหัทธนะพฤทธิ์ รองประธานอาวุโส ฝ่ายการเงินบัญชีและบริหาร บริษัท โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา จำกัด (มหาชน ) (CENTEL) เปิดเผยว่าบริษัทคาดว่ารายได้ครึ่งปีหลังจะมีทิศทางปรับตัวเพิ่มขึ้นจากครึ่งปีแรก 5% เนื่องจากสัญญาณการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่ทำให้ผู้บริโภคกลับมาใช้จ่ายมากขึ้น
โดยครึ่งปีหลังธุรกิจโรงแรมจะเป็นตัวสร้างรายได้ให้บริษัท หลังจากที่โรงแรมหลายแห่งในเครือเปิดบริการเต็มปี รวมทั้งยังพบว่ามีอัตราการเข้าพักที่ดีขึ้น ซึ่งทั้งปีเฉลี่ยอัตราการเข้าพัก 60% ใกล้เคียงปีก่อนที่ 63% และแนวโน้มไตรมาส 3 จะดีขึ้นอีก 4-5% อันเป็นผลจากตัวเลขการจองห้องพักมีปริมาณเพิ่มขึ้นจากก่อนหน้า ขณะที่พฤติกรรมการจองจะเปลี่ยนไปเหลือ 10 วันจากเดิม 6-8 สัปดาห์ในปีก่อน
สำหรับธุรกิจอาหารนั้นคาดว่าน่าจะดีขึ้น โดยเฉพาะช่วงไตรมาส 4 ที่จะเป็น High Season โดยครึ่งปีแรกบริษัทได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจจึงทำให้ทั้งปีบริษัทประเมินการเติบโตของรายได้ไว้ที่ระดับ 2-3% เท่านั้น ขณะกำไรคาดว่าครึ่งปีหลังจะใกล้เคียงกับครึ่งปีแรก แต่ทั้งปีจะต้องขึ้นอยู่กับสถานการณ์แม้ว่าบริษัทจะบันทึกรายการพิเศษจากกองทุนอสังหาริมทรัพย์ที่บริษัทถืออยู่ 25% ใน 2 แห่ง
นายรณชิต กล่าวถึงการเพิ่มขนาดกองทุนอสังหาฯว่า อยู่ระหว่างการศึกษาว่าจะนำโรงแรมใดเข้าเป็นทรัพย์สิน แต่ในส่วนของการรับบริหารคาดว่าปีนี้จะมี 1 แห่ง จากปัจจุบัน 9 แห่ง มีมาเสนอทั้งไทยและต่างประเทศ ขณะคาดว่าครึ่งปีหลังจะรับรู้รายได้การบริหารเพิ่มเป็น 60-70 ล้านบาท จากครึ่งปีแรกที่ทำได้ 40 ล้านบาท และเพิ่มขึ้นเป็น 100 ล้านบาทในปี 53
"ตอนนี้เรายังไม่รู้ว่ากำไรปีนี้จะเป็นอย่างไร แต่ครึ่งปีหลังอย่างเก่งก็คงเท่ากับครึ่งปีแรก " นายรณชิตกล่าว
ขณะที่งบลงทุนครึ่งปีหลัง CENTEL คาดว่าจะใช้เงิน 1.5 พันล้านบาท จากทั้งปีที่ตั้งงบส่วนนี้ไว้ 2.7-2.8 พันล้านบาท ซึ่งจะใช้ลงทุนที่พัทยา และภูเก็ต โดยคาดว่าพัทยาจะเปิดบริการ พ.ย.นี้ ส่วนภูเก็ตทยอยลงทุนตั้งแต่ปีนี้และปีหน้า ส่งผลให้งบลงทุนปี 53 เหลือเพียง 700 ล้านบาทเท่านั้น
นายรถชิตกล่าวว่าแนวโน้ม EBITDA ของบริษัทดีขึ้นจากปีก่อน โดยไตรมาส 2 อยู่ที่ 303 ล้านบาท จากปี 51 ที่ EBITDA 321 ล้านบาท พร้อมจะสร้างแบรนด์ใหม่ในธุรกิจอาหาร 2-3 แบรนด์ในปี 53 จากปัจจุบันที่มีอยู่แล้ว 8 แบรนด์ และในส่วนการรับบริหารโรงแรมนั้น ปีหน้าบริษัทจะจัดตั้งเป็นบริษัทรับบริหารอย่างชัดเจน หลังจากที่ผ่านมาสามารถสร้างรายได้ให้บริษัทเป็นกอบเป็นกำช่วงที่ภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว พร้อมตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนรายได้จากธุรกิจโรงแรมและอาหารปี 53 อย่างละ 50% จากปีนี้ธุรกิจโรงแรมมีสัดส่วนรายได้ 38% และอาหาร 52%
นายรณชิต มหัทธนะพฤทธิ์ รองประธานอาวุโส ฝ่ายการเงินบัญชีและบริหาร บริษัท โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา จำกัด (มหาชน ) (CENTEL) เปิดเผยว่าบริษัทคาดว่ารายได้ครึ่งปีหลังจะมีทิศทางปรับตัวเพิ่มขึ้นจากครึ่งปีแรก 5% เนื่องจากสัญญาณการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่ทำให้ผู้บริโภคกลับมาใช้จ่ายมากขึ้น
โดยครึ่งปีหลังธุรกิจโรงแรมจะเป็นตัวสร้างรายได้ให้บริษัท หลังจากที่โรงแรมหลายแห่งในเครือเปิดบริการเต็มปี รวมทั้งยังพบว่ามีอัตราการเข้าพักที่ดีขึ้น ซึ่งทั้งปีเฉลี่ยอัตราการเข้าพัก 60% ใกล้เคียงปีก่อนที่ 63% และแนวโน้มไตรมาส 3 จะดีขึ้นอีก 4-5% อันเป็นผลจากตัวเลขการจองห้องพักมีปริมาณเพิ่มขึ้นจากก่อนหน้า ขณะที่พฤติกรรมการจองจะเปลี่ยนไปเหลือ 10 วันจากเดิม 6-8 สัปดาห์ในปีก่อน
สำหรับธุรกิจอาหารนั้นคาดว่าน่าจะดีขึ้น โดยเฉพาะช่วงไตรมาส 4 ที่จะเป็น High Season โดยครึ่งปีแรกบริษัทได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจจึงทำให้ทั้งปีบริษัทประเมินการเติบโตของรายได้ไว้ที่ระดับ 2-3% เท่านั้น ขณะกำไรคาดว่าครึ่งปีหลังจะใกล้เคียงกับครึ่งปีแรก แต่ทั้งปีจะต้องขึ้นอยู่กับสถานการณ์แม้ว่าบริษัทจะบันทึกรายการพิเศษจากกองทุนอสังหาริมทรัพย์ที่บริษัทถืออยู่ 25% ใน 2 แห่ง
นายรณชิต กล่าวถึงการเพิ่มขนาดกองทุนอสังหาฯว่า อยู่ระหว่างการศึกษาว่าจะนำโรงแรมใดเข้าเป็นทรัพย์สิน แต่ในส่วนของการรับบริหารคาดว่าปีนี้จะมี 1 แห่ง จากปัจจุบัน 9 แห่ง มีมาเสนอทั้งไทยและต่างประเทศ ขณะคาดว่าครึ่งปีหลังจะรับรู้รายได้การบริหารเพิ่มเป็น 60-70 ล้านบาท จากครึ่งปีแรกที่ทำได้ 40 ล้านบาท และเพิ่มขึ้นเป็น 100 ล้านบาทในปี 53
"ตอนนี้เรายังไม่รู้ว่ากำไรปีนี้จะเป็นอย่างไร แต่ครึ่งปีหลังอย่างเก่งก็คงเท่ากับครึ่งปีแรก " นายรณชิตกล่าว
ขณะที่งบลงทุนครึ่งปีหลัง CENTEL คาดว่าจะใช้เงิน 1.5 พันล้านบาท จากทั้งปีที่ตั้งงบส่วนนี้ไว้ 2.7-2.8 พันล้านบาท ซึ่งจะใช้ลงทุนที่พัทยา และภูเก็ต โดยคาดว่าพัทยาจะเปิดบริการ พ.ย.นี้ ส่วนภูเก็ตทยอยลงทุนตั้งแต่ปีนี้และปีหน้า ส่งผลให้งบลงทุนปี 53 เหลือเพียง 700 ล้านบาทเท่านั้น
นายรถชิตกล่าวว่าแนวโน้ม EBITDA ของบริษัทดีขึ้นจากปีก่อน โดยไตรมาส 2 อยู่ที่ 303 ล้านบาท จากปี 51 ที่ EBITDA 321 ล้านบาท พร้อมจะสร้างแบรนด์ใหม่ในธุรกิจอาหาร 2-3 แบรนด์ในปี 53 จากปัจจุบันที่มีอยู่แล้ว 8 แบรนด์ และในส่วนการรับบริหารโรงแรมนั้น ปีหน้าบริษัทจะจัดตั้งเป็นบริษัทรับบริหารอย่างชัดเจน หลังจากที่ผ่านมาสามารถสร้างรายได้ให้บริษัทเป็นกอบเป็นกำช่วงที่ภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว พร้อมตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนรายได้จากธุรกิจโรงแรมและอาหารปี 53 อย่างละ 50% จากปีนี้ธุรกิจโรงแรมมีสัดส่วนรายได้ 38% และอาหาร 52%
