นายหน้าคอนโดฯระบุ ตลาดระดับกลาง-บนเมืองท่องเที่ยว เริ่มส่งสัญญาณบวก ขณะคอนโดฯไฮเอนด์ยังไร้สัญญาณบวก เหตุลูกค้าหลักต่างชาติ90-95% ยังมองการเมืองไทยแง่ลบ แจงพอร์ตบริหารโครงการในมือกว่า14,000 ล้านบาท เล็งเซ็นสัญญาเพิ่ม 2 โครงการ มูลค่ากว่า 2,000 ล้าน
นายพนม กาญจนเทียมเท่า กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไนท์แฟรงค์ ชาร์เตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ประกอบการบริหารการโครงการอสังหาริมทรัพย์ กล่าวว่า สถานการณ์ตลาดคอนโดมิเนียมระดับกลาง-บนระดับราคา 4-8 ล้านบาทเริ่มมีทิศทางเป็นบวกมากขึ้น เมื่อเทียบกับช่วงต้นปีที่ผ่านมา ซึ่งถือว่าเป็นจุดต่ำสุดของตลาดแล้ว โดยในส่วนของตลาดคอนโดฯในกรุงเทพฯนั้น เริ่มมีความชัดเจนกว่าตลาดในเมืองท่องเที่ยวต่างๆ
ในขณะที่เมืองทองเที่ยวนั้น เรียกได้ว่ามีทิศทางที่ดี แต่ปัญหาคือ กลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่ที่เป็นชาวต่างประเทศ ยังขาดความเชื่อมั่นต่อสถานการณ์ด้านการเมืองของไทย ทำให้ยังชะลอการตัดสินใจซื้อ แม้ว่าในช่วงหลังไตรมาส2ที่ผ่านมา ลูกค้าต่างชาติจะเริ่มกลับเข้ามาเยี่ยมชมโครงการเพิ่มมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม แม้ว่ากลุ่มลูกค้าต่างชาติจะชะลอการซื้อออกไป แต่กลับพบว่า ลูกค้าคนไทยกลับเข้ามาเยี่ยมชมโครงการและเริ่มมีการตัดสินใจซื้อที่เร็วขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงต้นปี แต่หากเทียบกับช่วงภาวะปกติแล้ว ยอดขายและอัตราการตัดสินใจซื้อยังห่างกันมาก
ปัจจุบันห้องชุดในเมืองท่องเที่ยวระดับราคา 4-8 ล้านบาท มีอัตราการระบายอย่างต่อเนื่อง แต่ในส่วนของโครงการที่มีราคาห้องชุด10ล้านบาทขึ้นไป โดยเฉพาะโครงการระดับไฮเอนด์ในตลาดเมืองหัวหิน ภูเก็ต และสมุย ที่ขายลูกค้าต่างชาติกว่า 90-95% ยังไม่มีสัญญาณการฟื้นตัวอย่างชัดเจน
นายพนม กล่าวว่า ปัจจุบันบริษัทมีพอร์ตโครงการคอนโดฯที่บริหารการขายอยู่ในมือ 6 โครงการ มูลค่าประมาณ 14,000 ล้านบาท ซึ่งนโยบายของบริษัท จะเน้นบริหารโครงการในพอร์ตไม่เกิน 7 โครงการ ล่าสุด บริษัทได้เซ็นสัญญาบริหารการขายโครงการเพิ่มอีก 2โครงการจากเดิมที่มีอยู่แล้ว 4 โครงการ ทำให้ขณะนี้มีโครงการบริหารการขายอยู่ในมือ 6 โครงการ โดยโครงการใหม่เป็นคอนโดฯในอำเภอศรีราชา จ.ชลบุรี ภายใต้ชื่อ “Golden Coase” มูลค่าโครงการ 950 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้เปิดขายอาคารแรกมูลค่า 480 ล้านบาท มียอดขาย30% ส่วนโครงการที่ 2 อยู่ในกรุงเทพฯย่านใจกลางเมือง มูลค่าโครงการกว่า 1,000 ล้านบาท เปิดตัวในช่วงปลายปี 52
นายพนม กาญจนเทียมเท่า กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไนท์แฟรงค์ ชาร์เตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ประกอบการบริหารการโครงการอสังหาริมทรัพย์ กล่าวว่า สถานการณ์ตลาดคอนโดมิเนียมระดับกลาง-บนระดับราคา 4-8 ล้านบาทเริ่มมีทิศทางเป็นบวกมากขึ้น เมื่อเทียบกับช่วงต้นปีที่ผ่านมา ซึ่งถือว่าเป็นจุดต่ำสุดของตลาดแล้ว โดยในส่วนของตลาดคอนโดฯในกรุงเทพฯนั้น เริ่มมีความชัดเจนกว่าตลาดในเมืองท่องเที่ยวต่างๆ
ในขณะที่เมืองทองเที่ยวนั้น เรียกได้ว่ามีทิศทางที่ดี แต่ปัญหาคือ กลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่ที่เป็นชาวต่างประเทศ ยังขาดความเชื่อมั่นต่อสถานการณ์ด้านการเมืองของไทย ทำให้ยังชะลอการตัดสินใจซื้อ แม้ว่าในช่วงหลังไตรมาส2ที่ผ่านมา ลูกค้าต่างชาติจะเริ่มกลับเข้ามาเยี่ยมชมโครงการเพิ่มมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม แม้ว่ากลุ่มลูกค้าต่างชาติจะชะลอการซื้อออกไป แต่กลับพบว่า ลูกค้าคนไทยกลับเข้ามาเยี่ยมชมโครงการและเริ่มมีการตัดสินใจซื้อที่เร็วขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงต้นปี แต่หากเทียบกับช่วงภาวะปกติแล้ว ยอดขายและอัตราการตัดสินใจซื้อยังห่างกันมาก
ปัจจุบันห้องชุดในเมืองท่องเที่ยวระดับราคา 4-8 ล้านบาท มีอัตราการระบายอย่างต่อเนื่อง แต่ในส่วนของโครงการที่มีราคาห้องชุด10ล้านบาทขึ้นไป โดยเฉพาะโครงการระดับไฮเอนด์ในตลาดเมืองหัวหิน ภูเก็ต และสมุย ที่ขายลูกค้าต่างชาติกว่า 90-95% ยังไม่มีสัญญาณการฟื้นตัวอย่างชัดเจน
นายพนม กล่าวว่า ปัจจุบันบริษัทมีพอร์ตโครงการคอนโดฯที่บริหารการขายอยู่ในมือ 6 โครงการ มูลค่าประมาณ 14,000 ล้านบาท ซึ่งนโยบายของบริษัท จะเน้นบริหารโครงการในพอร์ตไม่เกิน 7 โครงการ ล่าสุด บริษัทได้เซ็นสัญญาบริหารการขายโครงการเพิ่มอีก 2โครงการจากเดิมที่มีอยู่แล้ว 4 โครงการ ทำให้ขณะนี้มีโครงการบริหารการขายอยู่ในมือ 6 โครงการ โดยโครงการใหม่เป็นคอนโดฯในอำเภอศรีราชา จ.ชลบุรี ภายใต้ชื่อ “Golden Coase” มูลค่าโครงการ 950 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้เปิดขายอาคารแรกมูลค่า 480 ล้านบาท มียอดขาย30% ส่วนโครงการที่ 2 อยู่ในกรุงเทพฯย่านใจกลางเมือง มูลค่าโครงการกว่า 1,000 ล้านบาท เปิดตัวในช่วงปลายปี 52