ASTVผู้จัดการรายวัน-“ธานี สมบูรณ์ทรัพย์”อ้างรอหลักฐานออกหมายจับเพิ่มทีมยิง“สนธิ”เชื่อ 3 ผู้ต้องหายังหลบหนีในไทย ย้ำหากมีหลักฐานชัดว่าหลบซ่อนพื้นที่ทหาร ก็จะเข้าค้นทันที
วานนี้(25 ส.ค.)ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.)เป็นประธานประชุมคณะกรรมการติดตามตรวจสอบการทำงานของข้าราชการตำรวจนครบาล (กต.ตร.บช.น.) โดยมี พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) พร้อมนายตำรวจระดับ รอง ผบช.น. ผบก.น.1-9 ผบก.น.จราจร ผบก.ตำรวจปฏิบัติการพิเศษ และ ผบก.อำนวยการ บช.น.เข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียงรวมถึงตัวแทนภาคเอกชนจากกองบังคับการต่างๆ ในสังกัด บช.น.ประชุมตามระเบียบวาระ พร้อมหารือมาตรการป้องกันปัญหาอาชญากรรมในพื้นที่ร่วมกันโดยใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมง
พล.ต.อ.ธานี เปิดเผยภายหลังเสร็จสิ้นการประชุม ถึงความคืบหน้าคดีลอบสังหารนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ว่าหลังจากล่าสุดได้มีการตรวจยึดรถต้องสงสัยยี่ห้อเชฟโรเลต รุ่นซาฟีร่า สีบรอนซ์เทา ทะเบียน ศว 8051 กรุงเทพมหานคร ที่เจ้าหน้าที่ยึดมาได้จากบ้านแม่ยายของ ส.ต.ท.วรวุฒิ มุ่งสันติ หนึ่งในผู้ต้องหาคดีดังกล่าว ขณะนี้ผลตรวจสอบมีความคืบหน้าไปมากแต่ยังไม่เสร็จสิ้นต้องรอผลตรวจอย่างเป็นทางการก่อน และต้องตรวจสอบจุดที่เกี่ยวข้องดูร่องรอยพยานหลักฐานต่างๆ ทางคดีหลายส่วนว่ามีที่มาที่ไปเกี่ยวโยงอย่างไรหรือไม่ เชื่อว่าจะมีความชัดเจนในเร็วๆ นี้ และคงจะมีการเข้าไปตรวจหาหลักฐานเพิ่มเติมในที่ทหารด้วยหากทุกอย่างชัดเจนเกี่ยวข้องโยงใยกัน
ส่วนกรณีที่ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ออกมายืนยันพร้อมให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปตรวจค้นหาตัวผู้ต้องหาทางคดีในพื้นที่ทหารจุดต่างๆนั้น พล.ต.อ.ธานี กล่าวว่า หากผลการสืบสวนสอบสวนรู้ชัดเจนแล้วว่าผู้ต้องหาหลบซ่อนในพื้นที่ทหารก็จะดำเนินการอย่างแน่นอน แต่ขณะนี้ยังไม่มีอะไรชัดเจน คาดว่าผู้ต้องหาทั้งหมดน่าจะยังอยู่ในประเทศ ส่วนการออกหมายจับเพิ่มต้องดูพยานหลักฐานให้แน่นอนก่อน
สำหรับคดีลอบสังหารนายสนธิ ลิ้มทองกุล ใกล้เข้าสู่โค้งสุดท้ายเต็มที เพราะเหลือเวลาอีกไม่นานหลังจากนี้ ที่พล.ต.อ.ธานี สมบรณ์ทรัพย์ รอง ผบ.ตร.ในฐานะหัวหน้าชุดสืบสวนคลี่คลายคดีจะต้องเปิดหมวกอำลาเกษียณอายุราชการ ในวันที่ 30 ก.ย.นี้แล้ว ขณะที่หลักฐานทางคดีได้ถูกทีมชุดคลี่คลายคดี ทำการสืบสวนจนค้นพบข้อเท็จจริงมากขึ้นรวมทั้งหลักฐานบางส่วนที่อาจโยงไปถึง"หนึ่งในหัวขบวน" ที่ร่วมบงการในคดีนี้
โดยผู้ต้องหาที่ถุกออกหมายจับแล้วรวม 3 คน ประกอบด้วย จ.ส.อ.ปัญญา หรือ ห่อ ศรีเหรา ทหารศูนย์สังกัดสงครามพิเศษ จ.ลพบุรี ส.ต.ท.วรวุฒิ มุ่งสันติ หรือนายอรรถพล ปาทาน เจ้าหน้าที่ศูนย์ข่าว กองบัญชาการปรามปราบยาเสพติด (บช.ปส.)ช่วยราชการกรมสอบสวนคดีพิเศษ และ ส.อ.สมชาย บุญนาค สังกัดกองร้อยกองบังคับการกรมรบพิเศษที่ 3 ค่ายเอราวัณ จ.ลพบุรี
ส่วนการติดตามจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 3 คน พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ช่วย ผบ.ตร.ในฐานะหัวหน้าชุดสืบสวนคลี่คลายคดีดังกล่าว ก็ออกมาระบุเมื่อวันที่ 18 ส.ค.ที่ผ่านมาว่า ขณะนี้พอจะรู้ว่าผู้ต้องหาทั้ง 3 คนยังอยู่ในประเทศไทย แต่เป็น “พื้นที่ต้องห้าม”ที่ตามกฎหมายระบุว่าไม่สามารถออกหมายค้นได้
วานนี้(25 ส.ค.)ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.)เป็นประธานประชุมคณะกรรมการติดตามตรวจสอบการทำงานของข้าราชการตำรวจนครบาล (กต.ตร.บช.น.) โดยมี พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) พร้อมนายตำรวจระดับ รอง ผบช.น. ผบก.น.1-9 ผบก.น.จราจร ผบก.ตำรวจปฏิบัติการพิเศษ และ ผบก.อำนวยการ บช.น.เข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียงรวมถึงตัวแทนภาคเอกชนจากกองบังคับการต่างๆ ในสังกัด บช.น.ประชุมตามระเบียบวาระ พร้อมหารือมาตรการป้องกันปัญหาอาชญากรรมในพื้นที่ร่วมกันโดยใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมง
พล.ต.อ.ธานี เปิดเผยภายหลังเสร็จสิ้นการประชุม ถึงความคืบหน้าคดีลอบสังหารนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ว่าหลังจากล่าสุดได้มีการตรวจยึดรถต้องสงสัยยี่ห้อเชฟโรเลต รุ่นซาฟีร่า สีบรอนซ์เทา ทะเบียน ศว 8051 กรุงเทพมหานคร ที่เจ้าหน้าที่ยึดมาได้จากบ้านแม่ยายของ ส.ต.ท.วรวุฒิ มุ่งสันติ หนึ่งในผู้ต้องหาคดีดังกล่าว ขณะนี้ผลตรวจสอบมีความคืบหน้าไปมากแต่ยังไม่เสร็จสิ้นต้องรอผลตรวจอย่างเป็นทางการก่อน และต้องตรวจสอบจุดที่เกี่ยวข้องดูร่องรอยพยานหลักฐานต่างๆ ทางคดีหลายส่วนว่ามีที่มาที่ไปเกี่ยวโยงอย่างไรหรือไม่ เชื่อว่าจะมีความชัดเจนในเร็วๆ นี้ และคงจะมีการเข้าไปตรวจหาหลักฐานเพิ่มเติมในที่ทหารด้วยหากทุกอย่างชัดเจนเกี่ยวข้องโยงใยกัน
ส่วนกรณีที่ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ออกมายืนยันพร้อมให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปตรวจค้นหาตัวผู้ต้องหาทางคดีในพื้นที่ทหารจุดต่างๆนั้น พล.ต.อ.ธานี กล่าวว่า หากผลการสืบสวนสอบสวนรู้ชัดเจนแล้วว่าผู้ต้องหาหลบซ่อนในพื้นที่ทหารก็จะดำเนินการอย่างแน่นอน แต่ขณะนี้ยังไม่มีอะไรชัดเจน คาดว่าผู้ต้องหาทั้งหมดน่าจะยังอยู่ในประเทศ ส่วนการออกหมายจับเพิ่มต้องดูพยานหลักฐานให้แน่นอนก่อน
สำหรับคดีลอบสังหารนายสนธิ ลิ้มทองกุล ใกล้เข้าสู่โค้งสุดท้ายเต็มที เพราะเหลือเวลาอีกไม่นานหลังจากนี้ ที่พล.ต.อ.ธานี สมบรณ์ทรัพย์ รอง ผบ.ตร.ในฐานะหัวหน้าชุดสืบสวนคลี่คลายคดีจะต้องเปิดหมวกอำลาเกษียณอายุราชการ ในวันที่ 30 ก.ย.นี้แล้ว ขณะที่หลักฐานทางคดีได้ถูกทีมชุดคลี่คลายคดี ทำการสืบสวนจนค้นพบข้อเท็จจริงมากขึ้นรวมทั้งหลักฐานบางส่วนที่อาจโยงไปถึง"หนึ่งในหัวขบวน" ที่ร่วมบงการในคดีนี้
โดยผู้ต้องหาที่ถุกออกหมายจับแล้วรวม 3 คน ประกอบด้วย จ.ส.อ.ปัญญา หรือ ห่อ ศรีเหรา ทหารศูนย์สังกัดสงครามพิเศษ จ.ลพบุรี ส.ต.ท.วรวุฒิ มุ่งสันติ หรือนายอรรถพล ปาทาน เจ้าหน้าที่ศูนย์ข่าว กองบัญชาการปรามปราบยาเสพติด (บช.ปส.)ช่วยราชการกรมสอบสวนคดีพิเศษ และ ส.อ.สมชาย บุญนาค สังกัดกองร้อยกองบังคับการกรมรบพิเศษที่ 3 ค่ายเอราวัณ จ.ลพบุรี
ส่วนการติดตามจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 3 คน พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ช่วย ผบ.ตร.ในฐานะหัวหน้าชุดสืบสวนคลี่คลายคดีดังกล่าว ก็ออกมาระบุเมื่อวันที่ 18 ส.ค.ที่ผ่านมาว่า ขณะนี้พอจะรู้ว่าผู้ต้องหาทั้ง 3 คนยังอยู่ในประเทศไทย แต่เป็น “พื้นที่ต้องห้าม”ที่ตามกฎหมายระบุว่าไม่สามารถออกหมายค้นได้