ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - กลุ่มคนเสื้อแดงเชียงใหม่นั่งรถตู้และรถกระบะติดธงแดงปาก้อนหินและระเบิดปิงปอง 6 ลูกเข้าใส่กลางงานเปิดตัวศูนย์ “เฮาฮักพระเจ้าอยู่หัว” ทั้งที่มีพระบรมฉายาลักษณ์และพานพุ่มอยู่ด้านหน้าอาคารส่งผลกระจกแตกพระบรมฉายาลักษณ์บางส่วนเสียหาย อีกทั้งยังอยู่ในระหว่างการเสด็จของพระบรมวงศานุวงศ์อีกด้วย ด้านตำรวจแม้จะยังไม่สามารถจับกุมคนร้ายได้แต่มีพยานเห็นเหตุการณ์หลายรายเชื่อว่าจะนำตัวคนร้ายมาดำเนินคดีได้อย่างแน่นอนพร้อมระบุกลุ่มแดงถ่อยเหิมเกริมเกินไป
เมื่อเวลาประมาณ 14.00 น.วานนี้ (23 ส.ค.) เกิดเหตุคนร้ายเป็นกลุ่มชายฉกรรจ์กว่า 10 คน สวมใส่หมวกไหมพรมและหน้ากากปิดบังใบหน้าขว้างระเบิดปิงปอง ก้อนหินและยิงหนังสติ๊กเข้าใส่ ศูนย์เฮาฮักพระเจ้าอยู่หัว ตั้งอยู่เลขที่ 113 ถนนกองทราย ตำบลวัดเกต อำเภอเมืองจังหวัดเชียงใหม่ ของเครือข่ายพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นสถานที่จำหน่ายสินค้าและผลิตภัณฑ์ ASTV ส่งผลให้กระจกรถยนต์ได้รับความเสียหาย 2 คัน กระจกของตัวอาคารแตกหลายบาน และมีทรัพย์สินได้รับความเสียหายจำนวนหนึ่ง โดยหลังรับแจ้งเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ส่งกำลังเข้ามาตรวจสอบที่เกิดเหตุ
จากการสอบถามผู้อยู่ในเหตุการณ์เล่าว่า วันนี้ทางศูนย์ได้จัดพิธีทำบุญศูนย์หลังจากที่เปิดดำเนินการมาได้ระยะหนึ่งแล้ว โดยช่วงเกิดเหตุนั้นได้เสร็จสิ้นพิธีการทางศาสนาเรียบร้อยแล้วและได้เก็บข้าวของเตรียมที่จะแยกย้ายกันกลับบ้าน แต่ปรากฏว่าระหว่างนั้นทางกลุ่มผู้ก่อเหตุที่เดินทางมาด้วยรถยนต์ 3 คัน ประกอบด้วย รถตู้ 1 คัน รถสี่ล้อแดงรับจ้าง 1คัน และรถกระบะยี่ห้อนิสสันสีดำ 1 คัน ซึ่งทุกคันปิดบังป้ายทะเบียนไว้และมีการติดป้ายกลุ่มรักเชียงใหม่ 51 ได้ขับรถมาจอดและลงมาระดมขว้างก้อนหิน ยิงหนังสติ๊ก รวมทั้งขว้างระเบิดปิงปองใส่ทั้งหมด 6 ลูก ซึ่งมีเพียงลูกเดียวที่ไม่ทำงานเพราะชนวนดับ โดยหลังก่อเหตุกลุ่มคนดังกล่าวได้หลบหนีออกไปทันที
จากเหตุการณ์ครั้งนี้มีผู้บาดเจ็บที่ข้อเท้าเพียงเล็กน้อยเนื่องจากการกระโดดเพราะความตกใจ ส่วนรถยนต์ของแกนนำและในบริเวณใกล้เคียง เสียหาย 2 คัน และอาคารที่ตั้งศูนย์ฯกระจกแตกละเอียด ทั้งที่มีพระบรมฉายาลักษณ์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จย่าติดอยู่ และบ้านเรือนใกล้เคียงได้รับความเสียหายด้วย หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เดินทางมาเก็บหลักฐานและสอบถามพยานที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งคาดว่าวันนี้ (24 ส.ค.)จะมีการแถลงข่าวพร้อมกับความคืบหน้าในคดีนี้ต่อไป
อย่างไรก็ตาม การปฏิบัติการของกลุ่มแดงถ่อยนั้นตำรวจชั้นผู้ใหญ่หลายนายอยู่ในระหว่างปฏิบัติงานรอรับการเสด็จกลับกรุงเทพฯของพระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ฯ พระวรชายาในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามกุฎราชกุมาร และพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าทีปังกรรัศมีโชติที่เสด็จมาทอดพระเนตร “หลินปิง” ลูกแพนด้าที่สวนสัตว์เชียงใหม่อีกด้วย ทำให้ตำรวจชั้นผู้ใหญ่หลายนายหลังจากได้รับรายงานแล้วต่างตกใจและเห็นว่ากลุ่มคนพวกนี้เหิมเกริมเกินไปไม่เกรงกลัวต่อกฏหมายและไม่สนใจว่าอยู่ในช่วงเวลาใด จึงเห็นควรให้รีบดำเนินการตามกฏหมายอย่างเคร่งครัด
"สำหรับกลุ่มเฮาฮักพระเจ้าอยู่หัว" เป็นพันธมิตรฯอีกกลุ่มหนึ่งที่แยกตัวมาจากกลุ่มพันธมิตรฯเชียงใหม่ ประธานกลุ่มฯคือ นายชัยสิทธิ์ โฆษิตาภัย โดยได้มีการจัดตั้งศูนย์ฯแห่งนี้ ได้ประมาณ 2 เดือน เพื่อเป็นที่พบปะสังสรรค์ของสมาชิก และจำหน่ายสินค้า ASTV
เมื่อเวลาประมาณ 14.00 น.วานนี้ (23 ส.ค.) เกิดเหตุคนร้ายเป็นกลุ่มชายฉกรรจ์กว่า 10 คน สวมใส่หมวกไหมพรมและหน้ากากปิดบังใบหน้าขว้างระเบิดปิงปอง ก้อนหินและยิงหนังสติ๊กเข้าใส่ ศูนย์เฮาฮักพระเจ้าอยู่หัว ตั้งอยู่เลขที่ 113 ถนนกองทราย ตำบลวัดเกต อำเภอเมืองจังหวัดเชียงใหม่ ของเครือข่ายพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นสถานที่จำหน่ายสินค้าและผลิตภัณฑ์ ASTV ส่งผลให้กระจกรถยนต์ได้รับความเสียหาย 2 คัน กระจกของตัวอาคารแตกหลายบาน และมีทรัพย์สินได้รับความเสียหายจำนวนหนึ่ง โดยหลังรับแจ้งเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ส่งกำลังเข้ามาตรวจสอบที่เกิดเหตุ
จากการสอบถามผู้อยู่ในเหตุการณ์เล่าว่า วันนี้ทางศูนย์ได้จัดพิธีทำบุญศูนย์หลังจากที่เปิดดำเนินการมาได้ระยะหนึ่งแล้ว โดยช่วงเกิดเหตุนั้นได้เสร็จสิ้นพิธีการทางศาสนาเรียบร้อยแล้วและได้เก็บข้าวของเตรียมที่จะแยกย้ายกันกลับบ้าน แต่ปรากฏว่าระหว่างนั้นทางกลุ่มผู้ก่อเหตุที่เดินทางมาด้วยรถยนต์ 3 คัน ประกอบด้วย รถตู้ 1 คัน รถสี่ล้อแดงรับจ้าง 1คัน และรถกระบะยี่ห้อนิสสันสีดำ 1 คัน ซึ่งทุกคันปิดบังป้ายทะเบียนไว้และมีการติดป้ายกลุ่มรักเชียงใหม่ 51 ได้ขับรถมาจอดและลงมาระดมขว้างก้อนหิน ยิงหนังสติ๊ก รวมทั้งขว้างระเบิดปิงปองใส่ทั้งหมด 6 ลูก ซึ่งมีเพียงลูกเดียวที่ไม่ทำงานเพราะชนวนดับ โดยหลังก่อเหตุกลุ่มคนดังกล่าวได้หลบหนีออกไปทันที
จากเหตุการณ์ครั้งนี้มีผู้บาดเจ็บที่ข้อเท้าเพียงเล็กน้อยเนื่องจากการกระโดดเพราะความตกใจ ส่วนรถยนต์ของแกนนำและในบริเวณใกล้เคียง เสียหาย 2 คัน และอาคารที่ตั้งศูนย์ฯกระจกแตกละเอียด ทั้งที่มีพระบรมฉายาลักษณ์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จย่าติดอยู่ และบ้านเรือนใกล้เคียงได้รับความเสียหายด้วย หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เดินทางมาเก็บหลักฐานและสอบถามพยานที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งคาดว่าวันนี้ (24 ส.ค.)จะมีการแถลงข่าวพร้อมกับความคืบหน้าในคดีนี้ต่อไป
อย่างไรก็ตาม การปฏิบัติการของกลุ่มแดงถ่อยนั้นตำรวจชั้นผู้ใหญ่หลายนายอยู่ในระหว่างปฏิบัติงานรอรับการเสด็จกลับกรุงเทพฯของพระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ฯ พระวรชายาในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามกุฎราชกุมาร และพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าทีปังกรรัศมีโชติที่เสด็จมาทอดพระเนตร “หลินปิง” ลูกแพนด้าที่สวนสัตว์เชียงใหม่อีกด้วย ทำให้ตำรวจชั้นผู้ใหญ่หลายนายหลังจากได้รับรายงานแล้วต่างตกใจและเห็นว่ากลุ่มคนพวกนี้เหิมเกริมเกินไปไม่เกรงกลัวต่อกฏหมายและไม่สนใจว่าอยู่ในช่วงเวลาใด จึงเห็นควรให้รีบดำเนินการตามกฏหมายอย่างเคร่งครัด
"สำหรับกลุ่มเฮาฮักพระเจ้าอยู่หัว" เป็นพันธมิตรฯอีกกลุ่มหนึ่งที่แยกตัวมาจากกลุ่มพันธมิตรฯเชียงใหม่ ประธานกลุ่มฯคือ นายชัยสิทธิ์ โฆษิตาภัย โดยได้มีการจัดตั้งศูนย์ฯแห่งนี้ ได้ประมาณ 2 เดือน เพื่อเป็นที่พบปะสังสรรค์ของสมาชิก และจำหน่ายสินค้า ASTV
