เอเอฟพี –ตัวเก็งสำคัญ 2 คนในการชิงตำแหน่งประธานาธิบดีอัฟกานิสถาน คือ ฮามิด คาร์ไซ ผู้ครองเก้าอี้คนปัจจุบัน และ อับดุลเลาะห์ อับดุลเลาะห์ อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศ ต่างกล่าวอ้างเมื่อวานนี้(21)ว่า เป็นผู้ชนะในการเลือกตั้งที่จัดขึ้นในวันพฤหัสบดี (20) ซึ่งได้รับการยกย่องชมเชยจากประเทศตะวันตก ทว่าเกิดความด่างพร้อยทั้งจากเสียงร้องเรียนเรื่องการทุจริตและการที่มีผู้ออกมาใช้สิทธิกันน้อย
“คณะกรรมการการเลือกตั้งเป็นผู้มีหน้าที่ประกาศผลการเลือกตั้ง” เซเกรีย บารัคไซ รองประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ที่ถือเป็นองค์กรอิสระ แถลงพร้อมกับเรียกร้องให้ผู้จัดการเลือกตั้งของผู้สมัครทั้งสองระมัดระวังคำพูดและให้อดทนรอผลอย่างเป็นทางการ
เขาบอกว่า การนับคะแนนเลือกตั้งเสร็จสิ้นลงแล้ว และจะแถลงผลการเลือกตั้งบางส่วนได้ตั้งแต่วันอังคาร (25) เป็นต้นไป ขณะที่โฆษกของคณะกรรมการการเลือกตั้ง นูร์ โมฮัมหมัด นูร์ ระบุว่า เมื่อดูจากตารางเวลาแล้ว คงจะประกาศผลขั้นต้นว่าใครคือผู้ชนะได้อย่างเร็วที่สุดคือวันที่ 3 กันยายน
แอเดรียน เอ็ดเวิร์ดส์ โฆษกของสหประชาชาติซึ่งให้การสนับสนุนการจัดการเลือกตั้งครั้งนี้ ก็กล่าวว่า “ยังไม่มีผลการเลือกตั้งใดๆ ทั้งสิ้น จนกว่าคณะกรรมการการเลือกตั้งจะประกาศ นอกเหนือจากนี้ ก็เป็นเพียงการคาดเดาเท่านั้น”
ก่อนหน้านี้เมื่อวานนี้ ดิน โมฮัมหมัด หัวหน้าทีมหาเสียงเลือกตั้งของคาร์ไซ อ้างว่าผลการนับคะแนนจากผู้สังเกตการณ์ที่หน่วยเลือกตั้ง ชี้ว่าคาร์ไซได้คะแนนเสียงเกิน 50% จึงไม่จำเป็นต้องมีการจัดการเลือกตั้งรอบสอง
ทว่า ซายเอด อะกา ฟาซิล ซันชารากี โฆษกของทีมหาเสียงของอับดุลเลาะห์ก็อ้างเช่นกันว่าฝ่ายตนคือผู้ชนะ เขาบอกว่า “ผลนับคะแนนเท่าที่เราได้จากผู้สังเกตการณ์ประจำหน่วยเหลือตั้งระบุว่าเราได้คะแนนถึงร้อยละ 63 ส่วนคาร์ไซได้คะแนนร้อยละ 31”
มีความวิตกกันว่า เมื่อมีการประกาศผลการนับคะแนนกันจริงๆ อาจสร้างความไม่พอใจจนนำไปสู่การประท้วง โดยที่สำนักงานของอับดุลเลาะห์ได้ยื่นคำร้องเรียนเรื่องไม่ชอบมาพากลต่างๆ ราว 40 เรื่องแล้ว
คำร้องส่วนใหญ่เป็นการกล่าวหาพวกเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นว่าบงการให้ประชาชนเลือกคาร์ไซ และข้ออ้างว่ามีการทุจริตเรื่องหีบบัตรและบัตรลงคะแนน
ผู้สมัครอีกคนหนึ่ง คือ อดีตรัฐมนตรีคลัง อัชรอฟ กอนี ก็กล่าวหารัฐบาลคาร์ไซว่า มุ่งหวังครองอำนาจต่อไปโดยไม่เคารพกฎหมายใดๆ
อย่างไรก็ดี ภายหลังการเลือกตั้งผ่านพ้นไปในวันพฤหัสบดี ประธานาธิบดีบารัค โอบามาแห่งสหรัฐฯ ตลอดจนผู้นำขององค์การนาโตและประเทศตะวันตกที่สนับสนุนรัฐบาลคาร์ไซ ต่างออกมาแสดงความยินดี ที่อัฟกานิสถานสามารถจัดการเลือกตั้งได้แม้จะถูกกลุ่มตอลิบานจู่โจมและข่มขู่ผู้ออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งในหลายพื้นที่
เป็นที่คาดหมายกันว่า จากการข่มขู่ของตอลิบาน ทำให้มีผู้ออกมาใช้สิทธิราว 40-50% เทียบกับการเลือกตั้งประธานาธิบดีครั้งแรกของประเทศในปี 2004 ที่มี 70%
พวกเจ้าหน้าที่ตะวันตกยังแสดงท่าทีไม่ได้คาดหวังว่าการเลือกตั้งจะบริสุทธิ์ยุติธรรมอย่างเด็ดขาด และไม่ได้ใส่ใจกับรายงานที่ว่ามีการซื้อเสียง ตลอดจนการที่คาร์ไซพึ่งพาพวกขุนศึกในท้องถิ่นต่างๆ
“คณะกรรมการการเลือกตั้งเป็นผู้มีหน้าที่ประกาศผลการเลือกตั้ง” เซเกรีย บารัคไซ รองประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ที่ถือเป็นองค์กรอิสระ แถลงพร้อมกับเรียกร้องให้ผู้จัดการเลือกตั้งของผู้สมัครทั้งสองระมัดระวังคำพูดและให้อดทนรอผลอย่างเป็นทางการ
เขาบอกว่า การนับคะแนนเลือกตั้งเสร็จสิ้นลงแล้ว และจะแถลงผลการเลือกตั้งบางส่วนได้ตั้งแต่วันอังคาร (25) เป็นต้นไป ขณะที่โฆษกของคณะกรรมการการเลือกตั้ง นูร์ โมฮัมหมัด นูร์ ระบุว่า เมื่อดูจากตารางเวลาแล้ว คงจะประกาศผลขั้นต้นว่าใครคือผู้ชนะได้อย่างเร็วที่สุดคือวันที่ 3 กันยายน
แอเดรียน เอ็ดเวิร์ดส์ โฆษกของสหประชาชาติซึ่งให้การสนับสนุนการจัดการเลือกตั้งครั้งนี้ ก็กล่าวว่า “ยังไม่มีผลการเลือกตั้งใดๆ ทั้งสิ้น จนกว่าคณะกรรมการการเลือกตั้งจะประกาศ นอกเหนือจากนี้ ก็เป็นเพียงการคาดเดาเท่านั้น”
ก่อนหน้านี้เมื่อวานนี้ ดิน โมฮัมหมัด หัวหน้าทีมหาเสียงเลือกตั้งของคาร์ไซ อ้างว่าผลการนับคะแนนจากผู้สังเกตการณ์ที่หน่วยเลือกตั้ง ชี้ว่าคาร์ไซได้คะแนนเสียงเกิน 50% จึงไม่จำเป็นต้องมีการจัดการเลือกตั้งรอบสอง
ทว่า ซายเอด อะกา ฟาซิล ซันชารากี โฆษกของทีมหาเสียงของอับดุลเลาะห์ก็อ้างเช่นกันว่าฝ่ายตนคือผู้ชนะ เขาบอกว่า “ผลนับคะแนนเท่าที่เราได้จากผู้สังเกตการณ์ประจำหน่วยเหลือตั้งระบุว่าเราได้คะแนนถึงร้อยละ 63 ส่วนคาร์ไซได้คะแนนร้อยละ 31”
มีความวิตกกันว่า เมื่อมีการประกาศผลการนับคะแนนกันจริงๆ อาจสร้างความไม่พอใจจนนำไปสู่การประท้วง โดยที่สำนักงานของอับดุลเลาะห์ได้ยื่นคำร้องเรียนเรื่องไม่ชอบมาพากลต่างๆ ราว 40 เรื่องแล้ว
คำร้องส่วนใหญ่เป็นการกล่าวหาพวกเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นว่าบงการให้ประชาชนเลือกคาร์ไซ และข้ออ้างว่ามีการทุจริตเรื่องหีบบัตรและบัตรลงคะแนน
ผู้สมัครอีกคนหนึ่ง คือ อดีตรัฐมนตรีคลัง อัชรอฟ กอนี ก็กล่าวหารัฐบาลคาร์ไซว่า มุ่งหวังครองอำนาจต่อไปโดยไม่เคารพกฎหมายใดๆ
อย่างไรก็ดี ภายหลังการเลือกตั้งผ่านพ้นไปในวันพฤหัสบดี ประธานาธิบดีบารัค โอบามาแห่งสหรัฐฯ ตลอดจนผู้นำขององค์การนาโตและประเทศตะวันตกที่สนับสนุนรัฐบาลคาร์ไซ ต่างออกมาแสดงความยินดี ที่อัฟกานิสถานสามารถจัดการเลือกตั้งได้แม้จะถูกกลุ่มตอลิบานจู่โจมและข่มขู่ผู้ออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งในหลายพื้นที่
เป็นที่คาดหมายกันว่า จากการข่มขู่ของตอลิบาน ทำให้มีผู้ออกมาใช้สิทธิราว 40-50% เทียบกับการเลือกตั้งประธานาธิบดีครั้งแรกของประเทศในปี 2004 ที่มี 70%
พวกเจ้าหน้าที่ตะวันตกยังแสดงท่าทีไม่ได้คาดหวังว่าการเลือกตั้งจะบริสุทธิ์ยุติธรรมอย่างเด็ดขาด และไม่ได้ใส่ใจกับรายงานที่ว่ามีการซื้อเสียง ตลอดจนการที่คาร์ไซพึ่งพาพวกขุนศึกในท้องถิ่นต่างๆ
