ASTVผู้จัดการรายวัน – “อนันต์ อัศวโภคิน” หัวใส! แนะรัฐบาลให้ผู้ซื้อบ้านนำเงินดาวน์หักภาษีได้เลย หวังกระตุ้นคนซื้อบ้านมากขึ้น ฟันธงตลาดรวมอสังหาฯเป็นของจัดสรรรายใหญ่ หลังรายเล็กเจอพิษเศรษฐกิจหายไปจากตลาด
นายอนันต์ อัศวโภคิน ประธานและกรรมการผู้จัดการ บริษัท แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด(มหาชน) หรือ LH เปิดเผยว่า ภาวะเศรษฐกิจในช่วงครึ่งหลังปี 52 ฟื้นตัวจริงหรือไม่นั้น ยังไม่สามารถบอกได้ เพราะประเทศไทยไม่มีการจัดทำฐานข้อมูลที่ชัดเจน เหมือนในบางประเทศที่มีฐานข้อมูลที่ชัดเจน คือ ต้องมีตัวเลขอัตราการว่างงาน การผลิต รวมไปถึงการดูแลเรื่องการจัดเก็บภาษี ทำให้การแก้ไขทำได้อย่างถูกต้อง
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะมีการฟื้นตัวของเศรษฐกิจขึ้นมาบ้างเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า เจ้าของกิจการจะจ้างงานในทันที แต่จะใช้วิธีให้พนักงานทำงานมากขึ้น เพราะต้องรอให้การฟื้นตัวดีกว่านี้จึงจะมีการจ้างงานเพิ่ม
สำหรับภาคอสังหาริมทรัพย์ในช่วงครึ่งปีหลังปรับตัวดีขึ้นกว่าครึ่งปีแรก หากการเติบโตติดลบก็จะติดลบเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ซึ่งภาพรวมตลาดเริ่มดีขึ้น ทั้งการปล่อยกู้สินเชื่อและอัตราดอกเบี้ย ยังจูงใจให้ผู้บริโภคซื้อบ้านได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ การที่ผู้ประกอบการรายเล็กล้มหายไปจากตลาดในช่วงเศรษฐกิจไม่ดี ส่งผลให้ผู้บริโภคหันมาซื้อที่อยู่อาศัยจากผู้ประกอบการรายกลาง-ใหญ่ จึงทำให้มีผลประกอบการที่ดีขึ้นเกือบทุกบริษัท
อย่างไรก็ตาม ตนมองว่ารัฐบาลเลิกการลดภาษีธุรกิจเฉพาะให้แก่ผู้ประกอบการ 3.3% ให้นำมาเป็นเครดิตภาษีแก่ผู้ซื้อบ้านใหม่แทน เช่น กำหนดให้ผู้บ้านภายใน 2 ปี สามารถนำเงินดาวน์มาหักภาษีได้เลย เช่น นาย ก เสียภาษีเงินได้ปีละ 30,000 บาท ในปีนี้นาย ก ดาวน์บ้าน 50,000 บาท ก็สามารถนำเงินดังกล่าวหักภาษีได้เลย ส่วนที่เหลือก็นำไปหักในปีหน้าได้อีก ซึ่งนโยบายนี้สหรัฐอเมริกาใช้ได้ผลมาแล้ว
“แทนที่จะลดภาษีให้ผู้ประกอบการ ก็ไปให้ประชาชนที่ซื้อบ้านแทน เพื่อจะได้กระตุ้นให้คนอยากซื้อบ้านมากขึ้น ผู้ประกอบการก็จะได้ประโยชน์จากยอดขายที่เพิ่มขึ้น สำหรับผู้ประกอบการขณะนี้ก็เริ่มมีความเชื่อมั่นขึ้นมาบ้าง เพราะผ่านจุดที่กลัวที่สุดกันมาแล้ว ประกอบกับกิจกรรมกีฬาสี (เหลือง-แดง) ก็จบลงแล้ว ส่งผลให้ผู้บริโภคกลับมาซื้อที่อยู่อาศัยมากขึ้น”
นายอนันต์ กล่าวต่อไปว่า ปัจจุบันยอดตัวเลขจดทะเบียนคอนโดมิเนียมมีมากกว่าบ้านเดี่ยว เนื่องจากตรงกับไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ที่ทำงานในเมือง แต่เชื่อว่าในอนาคตหลังจากที่รถไฟฟ้ามีครบ 200 สถานี ตามนโยบายของภาครัฐ ผู้บริโภคจะหันมาซื้อที่อยู่อาศัยในย่านชานเมืองมากขึ้น โดยไม่มีความจำเป็นต้องซื้อคอนโดฯในเมือง
เชื่อครึ่งหลังแบงก์ไม่เข้มสินเชื่อ
ด้านนายวิศิษฐ์ คุณาทรกุล นายกสมาคมตัวแทนนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ กล่าวว่า ภาวะตลาดอสังหาฯ เริ่มดีขึ้นในช่วงสองเดือนที่ผ่านมา โดยเฉพาะบ้านระดับราคา 10 ล้านบาทขึ้นไป และที่ดินเพื่อการลงทุน สะท้อนให้เห็นว่าผู้ประกอบการเริ่มมีความเชื่อมั่นมากขึ้น
นอกจากนี้ การที่รัฐบาลกำหนดให้ธนาคารเฉพาะกิจของรัฐปล่อยกู้ 2 แสนล้านบาทภายในปีนี้ ซึ่งรวมไปถึงธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) จะทำให้ภาพของตลาดในช่วงหลังจากนี้ปรับตัวดีขึ้น เพราะที่ผ่านมาปัญหาของภาคอสังหาฯ คือ คนซื้อขอสินเชื่อไม่ผ่านแบงก์เข้มงวดปล่อยสินเชื่อ เพราะกว่า 80% ของคนซื้อบ้านขอสินเชื่อ และเมื่อธอส.ถูกเพิ่มเป้าปล่อยสินเชื่อย่อมทำให้ผ่อนคลายเกณฑ์ลงไปได้บ้าง อีกทั้งในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีจะมีบ้านบีโอไอ ระดับราคาไม่เกิน 1.2 ล้านบาทเข้าสู่ตลาดอีกจำนวนมาก และจะช่วยสร้างสีสันและยอดขายให้แก่ตลาดได้เป็นอย่างดี.
นายอนันต์ อัศวโภคิน ประธานและกรรมการผู้จัดการ บริษัท แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด(มหาชน) หรือ LH เปิดเผยว่า ภาวะเศรษฐกิจในช่วงครึ่งหลังปี 52 ฟื้นตัวจริงหรือไม่นั้น ยังไม่สามารถบอกได้ เพราะประเทศไทยไม่มีการจัดทำฐานข้อมูลที่ชัดเจน เหมือนในบางประเทศที่มีฐานข้อมูลที่ชัดเจน คือ ต้องมีตัวเลขอัตราการว่างงาน การผลิต รวมไปถึงการดูแลเรื่องการจัดเก็บภาษี ทำให้การแก้ไขทำได้อย่างถูกต้อง
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะมีการฟื้นตัวของเศรษฐกิจขึ้นมาบ้างเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า เจ้าของกิจการจะจ้างงานในทันที แต่จะใช้วิธีให้พนักงานทำงานมากขึ้น เพราะต้องรอให้การฟื้นตัวดีกว่านี้จึงจะมีการจ้างงานเพิ่ม
สำหรับภาคอสังหาริมทรัพย์ในช่วงครึ่งปีหลังปรับตัวดีขึ้นกว่าครึ่งปีแรก หากการเติบโตติดลบก็จะติดลบเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ซึ่งภาพรวมตลาดเริ่มดีขึ้น ทั้งการปล่อยกู้สินเชื่อและอัตราดอกเบี้ย ยังจูงใจให้ผู้บริโภคซื้อบ้านได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ การที่ผู้ประกอบการรายเล็กล้มหายไปจากตลาดในช่วงเศรษฐกิจไม่ดี ส่งผลให้ผู้บริโภคหันมาซื้อที่อยู่อาศัยจากผู้ประกอบการรายกลาง-ใหญ่ จึงทำให้มีผลประกอบการที่ดีขึ้นเกือบทุกบริษัท
อย่างไรก็ตาม ตนมองว่ารัฐบาลเลิกการลดภาษีธุรกิจเฉพาะให้แก่ผู้ประกอบการ 3.3% ให้นำมาเป็นเครดิตภาษีแก่ผู้ซื้อบ้านใหม่แทน เช่น กำหนดให้ผู้บ้านภายใน 2 ปี สามารถนำเงินดาวน์มาหักภาษีได้เลย เช่น นาย ก เสียภาษีเงินได้ปีละ 30,000 บาท ในปีนี้นาย ก ดาวน์บ้าน 50,000 บาท ก็สามารถนำเงินดังกล่าวหักภาษีได้เลย ส่วนที่เหลือก็นำไปหักในปีหน้าได้อีก ซึ่งนโยบายนี้สหรัฐอเมริกาใช้ได้ผลมาแล้ว
“แทนที่จะลดภาษีให้ผู้ประกอบการ ก็ไปให้ประชาชนที่ซื้อบ้านแทน เพื่อจะได้กระตุ้นให้คนอยากซื้อบ้านมากขึ้น ผู้ประกอบการก็จะได้ประโยชน์จากยอดขายที่เพิ่มขึ้น สำหรับผู้ประกอบการขณะนี้ก็เริ่มมีความเชื่อมั่นขึ้นมาบ้าง เพราะผ่านจุดที่กลัวที่สุดกันมาแล้ว ประกอบกับกิจกรรมกีฬาสี (เหลือง-แดง) ก็จบลงแล้ว ส่งผลให้ผู้บริโภคกลับมาซื้อที่อยู่อาศัยมากขึ้น”
นายอนันต์ กล่าวต่อไปว่า ปัจจุบันยอดตัวเลขจดทะเบียนคอนโดมิเนียมมีมากกว่าบ้านเดี่ยว เนื่องจากตรงกับไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ที่ทำงานในเมือง แต่เชื่อว่าในอนาคตหลังจากที่รถไฟฟ้ามีครบ 200 สถานี ตามนโยบายของภาครัฐ ผู้บริโภคจะหันมาซื้อที่อยู่อาศัยในย่านชานเมืองมากขึ้น โดยไม่มีความจำเป็นต้องซื้อคอนโดฯในเมือง
เชื่อครึ่งหลังแบงก์ไม่เข้มสินเชื่อ
ด้านนายวิศิษฐ์ คุณาทรกุล นายกสมาคมตัวแทนนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ กล่าวว่า ภาวะตลาดอสังหาฯ เริ่มดีขึ้นในช่วงสองเดือนที่ผ่านมา โดยเฉพาะบ้านระดับราคา 10 ล้านบาทขึ้นไป และที่ดินเพื่อการลงทุน สะท้อนให้เห็นว่าผู้ประกอบการเริ่มมีความเชื่อมั่นมากขึ้น
นอกจากนี้ การที่รัฐบาลกำหนดให้ธนาคารเฉพาะกิจของรัฐปล่อยกู้ 2 แสนล้านบาทภายในปีนี้ ซึ่งรวมไปถึงธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) จะทำให้ภาพของตลาดในช่วงหลังจากนี้ปรับตัวดีขึ้น เพราะที่ผ่านมาปัญหาของภาคอสังหาฯ คือ คนซื้อขอสินเชื่อไม่ผ่านแบงก์เข้มงวดปล่อยสินเชื่อ เพราะกว่า 80% ของคนซื้อบ้านขอสินเชื่อ และเมื่อธอส.ถูกเพิ่มเป้าปล่อยสินเชื่อย่อมทำให้ผ่อนคลายเกณฑ์ลงไปได้บ้าง อีกทั้งในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีจะมีบ้านบีโอไอ ระดับราคาไม่เกิน 1.2 ล้านบาทเข้าสู่ตลาดอีกจำนวนมาก และจะช่วยสร้างสีสันและยอดขายให้แก่ตลาดได้เป็นอย่างดี.