xs
xsm
sm
md
lg

เปิดช่องผลาญงบจี้ททท.ปรับแผน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน -  “ชุมพล” เร่งสปีดโค้งสุดท้าย สั่ง ททท.เลิกสร้างภาพ  ปรับแผนใช้กลยุทธ์ฮาร์ดเซล ดึงนักท่องเที่ยวเข้าประเทศไทย ตั้งมั่นตัวเลขต้องไม่น้อยกว่า 14 ล้านคน เที่ยวบินเข้าประเทศไทย 3 เดือนสุดท้าย ลดลงจากปีก่อน กว่า 8 หมื่นที่นั่ง เผยบอร์ดททท.อนุมัติแก้ไขร่างให้เงินสนับสนุนภาคเอกชน เอื้อเกิดช่องโหว่ผลาญงบง่ายขึ้น ด้านสทท.ขยับขึ้นตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติอยู่ที่  13.13 ล้านคน
นายชุมพล  ศิลปะอาชา  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา  เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้ คณะกรรมการการท่องเที่ยวแห่งประเทศ (บอร์ดททท.) ไปเร่งศึกษากลยุทธ์ส่งเสริมการท่องเที่ยวแบบเจาะขายโดยตรง(ฮาร์ดเซล) เพื่อดึงนักท่องเที่ยวต่างชาติมาให้ทันไฮซีซั่นปีนี้(ต.ค.52-มี.ค.53)     โดยตั้งเป้าหมายว่าจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งปีต้องไม่น้อยกว่า 14 ล้านคนสร้างรายได้เข้าประเทศ 5 แสนล้านบาท  ซึ่งเป็นตัวเลขเท่ากับปีที่ผ่านมา  
ทั้งนี้ได้แนะนำให้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) ไปพิจารณาใน 2 ช่องทางหลัก ที่จะนำนักท่องเที่ยวเข้ามาประเทศไทยได้  นั่นคือ  สายการบิน และ บริษัทนำเที่ยว  ซึ่ง ททท.ต้องไปตรวจสอบว่าขณะนี้และช่วงไตรมาสสุดท้าย มีจำนวนเที่ยวบินเข้ามาประเทศไทยทั้งสิ้นเท่าใด  เพื่อหารือกับบริษัทนำเที่ยวในต่างประเทศเน้นประเทศเป้าหมายหลัก เช่น จีน ญี่ปุ่น อินเดียฮ่องกง ไต้หวัน  เกาหลี และ กลุ่มประเทศในตะวันออกกลาง   เพราะเป็นกลุ่มประเทศที่ไม่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจโลกมากนัก  
“เราต้องปรับการใช้งบประมาณ ลดแผนงานทำซอฟท์เซลที่วางไว้ และต้องของบจากรัฐบาลเพิ่มอีกจำนวนหนึ่ง ที่ผ่านมา ททท.เน้นประชาสัมพันธ์สร้างภาพลักษณ์ แต่ตอนนี้ถึงเวลาที่เราต้องบุกดึงนักท่องเที่ยวอย่างจริงจัง”
นายชุมพลกล่าว่า มีความเป็นไปได้ที่เราต้องปรับแผนมาเน้นปริมาณนักท่องเที่ยว มากกว่าจำนวนเงิน ซึ่งการจัดโปรโมชั่นใช้ราคาเป็นสิ่งจูงใจ  
นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ ประธานกรรมการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(บอร์ดททท.) กล่าวว่า  ที่ประชุมบอร์ด ททท.ได้รายงานถึงจำนวนที่นั่งจากเที่ยวบินที่บินเข้าประเทศไทยทั้งแบบเที่ยวบินตรงและเที่ยวบินเชื่อมโยง ช่วงเดือนต.ค.-ธ.ค.52  มีจำนวนทั้งสิ้น 4,724,342 ที่นั่ง ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน กว่า 83,000 ที่นั่ง หรือมีจำนวนอยู่ที่ 4,807,627 ที่นั่ง
โดยตลาดที่ลดลงยังเป็นเส้นทางแถบประเทศเอเชีย เพราะสภาพเศรษฐกิจที่ทำให้เกือบทุกสายการบินลดจำนวนเที่ยวบิน แต่คาดว่าเมื่อใกล้ช่วงไฮซีซั่จะมีหลายสายการบินปรับเพิ่มขึ้นบ้าง โดยปัจจุบันมี 81 สายการบิน ที่มีเที่ยวบินเข้ามาประเทศไทย ลดลงจากปีก่อนที่มี 89 สายการบิน
สำหรับการประชุมบอร์ด ททท. ได้เห็นชอบอนุมัติแต่ตั้งตำแหน่งที่ปรึกษาระดับ 11  ให้เป็นตำแหน่งประจำของหน่วยงานททท.โดยมีอัตราจ้างสูงสุดไม่เกินตำแหน่งรองผู้ว่าการททท. หรือประมาณ 113,520 บาท ต่อเดือน  ซึ่งที่ผ่านมาตำแหน่งดังกล่าว เป็นตำแหน่งที่ตั้งขึ้นมาเฉพาะตัวบุคคล เมื่อเกษียณอายุตำแหน่งนี้ก็จะหมดไป
****เปิดช่องททท.ผลาญงบช่วยเอกชน
นอกจากนั้นยังเห็นชอบให้ ททท.แก้ไขร่างระเบียบการให้เงินสนับสนุนแก่ภาคเอกชนปี 2550  จากที่ระบุว่า “เอกชนที่ต้องการขอรับเงินสนับสนุนต้องส่งเรื่องให้บอร์ดททท.พิจารณาเป็นเวลาอย่างน้อย 90 วัน “ โดยให้แก้ไขว่า “ให้อำนาจบอร์ดททท.สามารถใช้เวลาในการพิจารณาได้ตามเหมาะสมในการดำเนินการแต่ละโครงการ
ซึ่งที่ผ่านมา ททท.พลาดโครงการดีๆที่เอกชนได้เสนอมา
มีรายงานระบุว่า มติการการแก้ไขระเบียบการให้เงินสนับสนุนแก่ภาคเอกชนดังกล่าว จะมีผลครอบคลุมไปถึงผลการอนุมัติของที่ประชุมบอร์ด ททท.เมื่อเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา ที่อนุมัติให้เงินสนับสนุนแก่สายการบินไทยแอร์เอเชีย วงเงิน 30 ล้านบาท  เพื่อจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายแบบฮาร์ดเซล  ซึ่งโครงการนี้ไทยแอร์เอชีย เพิ่งจะยื่นขอมาเมื่อเดือน มิ.ย. เท่ากับว่าใช้เวลาเพียง 30 วัน   แต่หากมองกลับกันก็จะเหมือนว่าเปิดช่องให้ ททท.ใช้งบประมาณได้ง่ายขึ้นโดยไม่มีการตรวจสอบอย่างละเอียด ซึ่งอาจก่อให้เกิดความผิดพลาดได้ในอนาคต
นายชุมพล ศิลปะอาชา ได้แนะนำแก่บอร์ด ททท.ถึงการตรวจสอบไทยแอร์เอเชียว่า ให้มีดับเบิ้ลเช็คว่าผลงานการนำนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาเป็นไปตามสัญญาของไทยแอร์เอเชียหรือไม่
***สทท.ขยับขึ้นตัวเลขนักท่องเที่ยว****
นายกงกฤช หิรัญกิจ ประธานสภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(สทท.) กล่าวว่า  สทท.จัดทำตัวเลขประมาณการณ์จำนวนนักท่องเที่ยวและรายได้ใหม่  คาดว่าปีนี้จะมีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาประเทศไทย 13.13 ล้านคน  ลดจากปีก่อน 9.66%  ส่วนรายได้คาดว่าจะอยู่ที่  415,222 ล้านบาท ลดลง 27.73%
แต่เป็นตัวเลขที่เพิ่มขึ้นจากที่สทท.เคยประมาณการณ์ไว้เมื่อเดือนเม.ย. ว่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งปีที่ 11.03 ล้านคน  ส่วนปี 53 จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติน่าจะเพิ่มเป็นไม่น้อยกว่า 14.5 ล้านคน สร้างรายได้ 504,324 ล้านบาท อย่างไรก็ตามมองว่า ปีนี้ยังมีโอกาสที่นักท่องเที่ยวต่างชาติจะถึง 14 ล้านคน
สำหรับตลาดคนไทยน่าจะสร้างรายได้ 400,000 ล้านบาท ใกล้เคียงกับปี 51
กำลังโหลดความคิดเห็น